จุดยืน ปชน.ไม่ออกหมายจับ สส.เว้นคดีส่วนตัว โยนสภาตีความ 'ปูอัด'

ปชน.ย้ำจุดยืน คงเจตนาไม่ออกหมายจับ สส. เว้นแต่เป็น 'คดีส่วนตัว' ต้องเข้าสู่กระบวนการเหมือนคนอื่น โยนสภาฯตีความ เทคนิคทาง กม.หลัง 'ปูอัด' เข้ารับทราบข้อหา
เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2568 ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่ประชุมสภาในวันที่ 20 ก.พ. จะมีการพิจารณาตามคำขอของตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ว่าจะอนุมัติให้นำตัวนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคไทยก้าวหน้า ไปดำเนินคดีในข้อหาข่มขืนนักท่องเที่ยวหญิงชาวไต้หวันว่า พรรคประชาชนจะมีการพูดคุยถึงแนวทางการลงมติวันนี้ แต่เราก็มีจุดยืนที่ค่อนข้างชัดเจนเหมือนที่เคยบอกมาแล้ว และคิดว่าเจตนารมณ์ของกฎหมายในการห้ามออกหมายจับสส. ซึ่งมีมานานแล้ว เนื่องจากสมัยก่อนการเมืองต้องใช้คำว่าป่าเถื่อนกว่านี้ เพราะในสมัยนั้นมีการไปยัดข้อหากันเพื่อไม่ให้สส.มาโหวต แต่ก็เห็นว่าเราควรที่จะคงเจตนารมณ์นี้ไว้ และหากเป็นคดีที่เป็นเหตุทางการเมือง แน่นอนว่าเราจะไม่อนุญาต เช่น ในสมัยที่แล้วมีการออกหมายจับเกี่ยวกับคดีชุมนุม ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นคดีทางการเมือง
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า แต่คิดว่าคดีที่เป็นคดีส่วนบุคคลโดยแท้ เราควรที่จะพิจารณาดีๆ ว่าควรให้สส.เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และต่อสู้ทางกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ เราไม่ได้บอกว่าสส.คนนั้นกระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา แต่แค่อยากให้เห็นว่าในเมื่อเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับคดีส่วนบุคคลโดยแท้ ก็ควรต้องเข้าสู่กระบวรการยุติธรรมเหมือนประชาชนคนอื่น จริงๆ มีเหตุผลมากกว่านั้นคือนายไชยามพวาน ก็ได้แจ้งความประสงค์ชัดเจนว่าจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาด้วยตัวเอง ฉะนั้น สิ่งที่พรรคประชาชนจะลงมติก็เป็นไปตามความต้องการของสส.เอง และเป็นไปตามหลักการที่เรายึดถือด้วย
เมื่อถามว่า มีรายงานข่าวว่าวันนี้นายไชยามพวานจะไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถดำเนินคดีได้เลยหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ไม่ทราบ เรื่องเทคนิคทางกฎหมาย แม้จะพยายามหาคำตอบแต่ก็ยังหาไม่ได้ ซึ่งคิดว่าต้องเป็นฝ่ายสภาฯ ที่จะต้องตีความว่าเหตุการณ์เช่นนี้ต้องดำเนินการต่ออย่างไร หนทางกฎหมายจะเป็นอย่างไร