'ปักกิ่ง' ผู้ชนะสิบทิศ พิชิต 'จีนเทา' อุ้ม 'มินอ่องหล่าย-BGF-DKBA'

หนังฟอร์มยักษ์ “เมียวดีโมเดล” ล้างเมืองบาป ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ “ปักกิ่ง” อำนวยการสร้าง “มินอ่องหล่าย” แย่งซีนพระเอก “ชิตตู่” ตัวประกอบเกรดเอ
ไทยเล่นบทไหน? หลังรัฐบาลแพทองธาร เปิดมาตรการ 3 ตัดไฟ ตัดน้ำมัน ตัดเน็ต กดดัน BGF-DKBA จนนำไปสู่ปฏิบัติการ “ไถ่บาปด้วยบุญเทา”
เบื้องลึกของเมียวดีโมเดล ผู้ที่รู้เรื่องดีที่สุดคือ “ส.ท.ร.” ซึ่งรู้จักมักคุ้นกับผู้นำประเทศในอาเซียน รวมถึง พล.อ.อาวุโส มิน อ่องหล่าย
ปฏิบัติการข้ามน้ำเมยของ หลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ช่วงวันที่ 16-17 ก.พ.2568 คล้ายฉากอวสานของหนังฟอร์มยักษ์ “ล้างเมืองบาปเมืองเมียวดี” ด้วยการนำพาคนจีนมากกว่า 1,000 คน กลับประเทศ และนำตัวหัวหน้าแก๊งจีนเทาไปดำเนินคดี
กองเชียร์หลิว จงอี้ อาจจะผิดหวังที่ไม่จบแบบเล้าก์ก่ายโมเดล ไม่มีภาพ พ.อ.ซอ ชิตตู่ และพวกถูกใส่กุญแจมือ เหมือนกรณีไป๋ โส่วเฉิง ผู้นำ BGF โกก้าง พร้อมครอบครัว โดนตำรวจจีนหิ้วปีกไปดำเนินคดีในเมืองจีน
ทำไม พล.จ.ซอ ชิตตู่ ผู้นำเบอร์ 1 BGF จึงรอด? ทำไม พล.จ.ไซ จ่อหล่า ผู้นำเบอร์ 3 DKBA จึงรอด? ทั้งที่มีข้อมูลจากฝั่งตะวันตกว่า บุคคลดังกล่าวมีพฤติกรรมเอี่ยวการค้ามนุษย์
ข้อมูลอีกด้านหนึ่ง พล.ต.ซอ ชิตตู่ ,พ.ท.ซอ โม้โต่ง และ พ.ต.เต่งวิน ยังเป็นนายทหารสังกัดกองทัพเมียนมา และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ประธานสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC)
เนื่องจากภูมิรัฐศาสตร์การเมืองในเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ต่างจากเมืองเล้าก์ก่าย เขตปกครองโกก้าง รัฐฉานเหนือ ซึ่งฝั่งเล้าก์ก่าย จีนมีอิทธิพลต่อกองกำลังว้า(USWA) และโกก้าง (MNDAA)
ด้านชายแดนไทย-เมียนมา อิทธิพลของสหรัฐฯ ยังมีบทบาทสูงต่อผู้นำกะเหรี่ยง KNU และกลุ่มกะเหรี่ยง PDF ที่เป็นกองกำลังติดอาวุธของรัฐบาลเงา NUG ฝ่ายต่อต้านเผด็จการทหารเมียนมา
ไม่แปลกที่ พล.ต.ซอ ชิตตู่ ,พ.ท.ซอ โม้โต่ง และ พ.ต.เต่ง วิน ผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยง BGF จะได้รับการโอบอุ้มจาก พล.อ.อาวุโส มิน อ่องหล่าย ประธานสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC)
เกมลับแดนมังกร
วันที่ 14 ก.พ. 2568 หลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน เดินทางไปยังกรุงเนปิดอว์ เมียนมา เข้าพบ พล.ท.ทุน ทุน หน่อง รมว.มหาดไทย สภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) เพื่อหารือช่วยเหลือชาวจีนใน จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง และส่งตัวอาชญากรที่จีนต้องการตัวกลับไปดำเนินคดีในเมืองจีน
วันที่ 16 ก.พ. 2568 หลิว จงอี้ ข้ามแดนไปที่โรงแรมกรีนสตาร์ เมืองเมียวดี ประชุมร่วมกับ พล.ท.ทุน ทุน หน่อง รมว.มหาดไทย, ข่าย ทุนอู ปลัดมหาดไทย และ พล.ต.ต.วิน ซอ โม ผบ.ตร.เมียนมา เรื่องการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก่อนจะกลับมานอนพักค้างคืนที่ อ.แม่สอด
วันที่ 17 ก.พ. 2568 หลิว จงอี้ ข้ามน้ำเมยอีกครั้ง โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ศูนย์คัดกรองเหยื่อการค้ามนุษย์ เมืองใหม่ชเวก๊กโก่ และพบปะกับ พล.ต.ซอ ชิตตู่
การเดินทางไปเมืองเมียวดีของ หลิว จงอี้ ย่อมได้รับไฟเขียวจาก พล.อ.อาวุโส มิน อ่องหล่าย นี่คือความแตกต่างระหว่าง “เมียวดีโมเดล” กับ “เล้าก์ก่ายโมเดล”
พม่าทวงคืนเมียวดี
คนไทยจำนวนมาก อาจไม่ทราบว่า จ.เมียวดี เป็นดินแดนไร้รัฐมานานเกือบปี เพราะนับแต่กองพัน 275 ค่ายผาซอง ถูกกะเหรี่ยง KNU ตีแตก เมื่อเดือน เม.ย.2567 แทบไม่มีทหารเมียนมาเหลืออยู่ในเมืองเมียวดี และมีเพียงเจ้าหน้าที่ ตม. และข้าราชการส่วนอื่นเหลืออยู่ไม่มากนัก
จังหวะที่ หลิว จงอี้ เดินทางมาติดตามการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทางรัฐบาลเมียนมา จึงอาศัยปฏิบัติการลับปักกิ่ง เปิดการเจรจาต่อรองกับกองกำลัง BGF ที่ควบคุมเมืองเมียวดีอยู่
ในที่สุด พล.ต.ซอ ชิตตู่ ก็ยินยอมให้ความร่วมมือกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงได้เห็นภาพทหาร BGF เข้าปิดล้อมชเวก๊กโก่ และพาเหยื่อค้ามนุษย์กว่า 2,000 คน มาเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง
วันที่ 15 ก.พ. 2568 เจ้าหน้าที่ฝ่ายงานความมั่นคงของเมียนมา จึงโผล่มาทำหน้าที่คัดกรองเหยื่อค้ามนุษย์อย่างรวดเร็ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เหลืออยู่ไม่กี่สิบคน
การที่ รมว.มหาดไทย และ ผบ.ตร.เมียนมา มาปรากฏตัวที่เมืองเมียวดี ย่อมเป็นการประกาศให้รู้ว่า สภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) กำลังจะทวงคืนเมืองเมียวดีอย่างเต็มรูป โดยกองทหารเมียนมา จะต้องมาประจำการที่ชายแดนเหมือนก่อน เม.ย.2567
ปีที่แล้ว กองทัพเมียนมา เปิดยุทธการอ่องเซยะ นำกำลังทหารข้ามเทือกเขาดอนะ เพื่อบุกมาให้ถึงเมียวดี แต่ก็ถูกกองกำลัง KNU/KNLA สกัดไว้ที่เมืองกอกะเร็ก จนถึงวันนี้ก็ยังฝ่าด่าน KNU มาไม่ได้
เกมสองหน้าปักกิ่ง
ปฏิบัติการ “กรุงเทพฯ-เนปิดอว์-ชเวก๊กโก่” ของ หลิว จงอี้ สะท้อนว่า จีนยังเล่นเกม 2 หน้าในเมียนมา ด้านหนึ่ง รักษาสัมพันธ์กับรัฐบาลมินอ่องหล่าย อีกด้านหนึ่ง ก็ยังพูดคุยกับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์
“เมียวดีโมเดล” หนนี้ จะเป็นครั้งแรกที่ทางการจีน ได้พูดคุยกับผู้นำกะเหรี่ยง BGF โดยตรง และในอนาคต กะเหรี่ยง BGF อาจมีสถานะเป็นพันธมิตรปักกิ่ง ไม่ต่างจากกองกำลังโกก้าง MNDAA กองกำลังตะอาง TNLA และกองกำลังว้า UWSA
เชื่อว่า ตัวแทนรัฐบาลปักกิ่ง ก็คงหาทางพบปะกับ พล.ต.จอ ส่วยวะ รอง ผบ.กองกำลัง DKBA และ “โกไซ” พล.จ.ไซ จ่อล่า ผบ.กองพลน้อยที่ 1 DKBA ที่ควบคุมเมืองสแกมเมอร์บ้านช่องแคบ จ.เมียวดีตอนใต้ ตรงข้าม ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก
รวมถึง พ.อ.ซอ เอวัน หรือเพียวลิน ผบ.ศูนย์บัญชาการทางยุทธวิธีที่ 2 กองกำลัง DKBA เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ อ.พญาตองซู จ.จะอินเซ็กจี รัฐกะเหรี่ยง ตรงข้ามบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
เนื่องจากผู้นำกองกำลัง DKBA ได้ให้ความร่วมมือกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และนำตัวเหยื่อการค้ามนุษย์ชาวจีน มาส่งมอบให้ BGF ที่เมืองชเวก๊กโก่
เมียวดีโมเดล ฉบับปักกิ่ง จึงเป็นการเปิดเกมใหม่ ด้วยการล้างเมืองบาป ควบคู่ไปกับการสร้างคอนเนกชั่นกับผู้นำ BGF และ DKBA ในรัฐกะเหรี่ยง
การขับเคลื่อนของหลิว จงอี้ สะท้อนว่า พญามังกร ยังดำรงยุทธศาสตร์เดิมไม่เปลี่ยนคือ อุ้มทั้งเผด็จการเมียนมา และกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ สถาปนาตัวเองเป็นผู้ไกล่เกลี่ยความขัดแย้งในเมียนมา







