ส่องเกม ‘ผู้กองมนัส’ กล้าธรรม องครักษ์พิทักษ์ ‘นายกฯอิ๊งค์’

จับตาทุกก้าวย่างของ “ผู้กองมนัส” ที่อาสาตัวเป็นองครักษ์พิทักษ์นายกฯ จะซื้อใจ“แพทองธาร” ให้เหลียวมองชายชื่อ “ธรรมนัส” มากยิ่งขึ้นได้หรือไม่
KEY
POINTS
- ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เปิดปฏิบัติการเชื่อมสัมพันธ์กับ “ค่ายสีแดง” ให้แน่นปึ้ก เดินตามหลัง “เบอร์หนึ่ง” พรรคร่วมรัฐบาล
- ท้ารบ "บิ๊กสีน้ำเงิน" จุดประเด็นตรวจสอบสนามกอล์ฟ แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ต แอนด์ คันทรี คลับ ของครอบครัว "อนุทิน ชาญวีรกูล" รองนายกฯ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
- "ผู้กองมนัส" ในวันที่ต้องซื้อใจ "นายกฯอิ๊งค์" จำเป็นต้องงัดทุกกลยุทธ์ สู้ให้ได้ใจ เพื่อต่อยอดทางการเมือง
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เปิดปฏิบัติการเชื่อมสัมพันธ์กับ “ค่ายสีแดง” ให้แน่นปึ้ก เดินตามหลัง “เบอร์หนึ่ง” พรรคร่วมรัฐบาล โชว์ภาพพรรคพี่-พรรคน้อง
ตามจังหวะที่ “นายใหญ่” บ้านจันทร์ส่องหล้าเปิดเกมรบกับ “ครูใหญ่” สีน้ำเงิน บ้านใหญ่บุรีรัมย์ “ขุนพลกล้าธรรม” ออกมาดับเครื่องชนช่วย “นายใหญ่”
โดย “ธนดล สุวัณณะฤทธิ์” คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมตรวจสอบที่ดินของสนามกอล์ฟแรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ต แอนด์ คันทรี คลับ ซึ่งมีครอบครัวของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นเจ้าของ
“ธนดล” กางแผนที่พบว่าอาจจะมีพื้นที่บางส่วนเป็นที่ดินของ ส.ป.ก. จึงต้องเข้าตรวจสอบให้เกิดความกระจ่าง ขณะเดียวกัน “กรมที่ดิน” ซึ่งอยู่ในกำกับดูแลของ “อนุทิน” ออกมาตอบโต้ทันควัน ยืนยันที่ดินดังกล่าวได้มาจากการซื้อขายถูกต้อง
ศึกระหว่าง “กระทรวงเกษตรฯ” ภายใต้การบัญชาของ “ผู้กองมนัส” ปะทะกับ “กระทรวงมหาดไทย” ภายใต้การขับเคลื่อนของ “อนุทิน” เปิดฉากอย่างเป็นทางการ หลังจากนี้ต้องติดตามว่าจะเปิดตำรา-เปิดหน้ารบกันจนแหลกราญ หรือจะยอมเกียะเซี๊ยะกัน
ทว่า ปฏิบัติการของ “ธรรมนัส-กล้าธรรม” ที่ขันอาสารบแทน “นายใหญ่” ไม่ได้หวังแค่ชอตเอาใจ “เบอร์หนึ่ง” พรรคร่วมรัฐบาล แต่หวังต่อยอดความสัมพันธ์ให้แนบแน่น เผื่อเหลือเผื่อขาด ต้องปรับเปลี่ยนพรรคร่วมรัฐบาล
“พรรคกล้าธรรม” แม้จะมี สส. อยู่ในมือ 24 ที่นั่ง มีโอกาสอัปไซต์ไปเป็นเบอร์สอง หาก “พรรคภูมิใจไทย” มี สส. 69 ที่นั่ง ถูกเขี่ยทิ้ง และ “กล้าธรรม” เปิดเกมรุก รวบรวม สส. เข้าพรรคได้มากขึ้น จนเบียดกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งมี สส. 36 ที่นั่ง
สไตล์ “ผู้กองมนัส” มักคิดเกมยาว วางหมากอย่างรอบคอบ และอาจจะมองข้ามชอตไปยังการเลือกตั้งปี 2570 ที่จะต้องนำทัพพรรค “กล้าธรรม” ลงชิงชัยในสมรภูมิเลือกตั้ง
ต้องยอมรับว่า พื้นที่ยุทธศาสตร์ของ “ธรรมนัส-กล้าธรรม” ทับซ้อนกับพื้นที่ของ “นายใหญ่-เพื่อไทย” โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ-ภาคอีสาน หากไม่เปิดการเจรจา หลบเขต-หลีกพื้นที่ให้กัน “พรรคพี่-พรรคน้อง” อาจจะเสียเปรียบคู่แข่งก็เป็นได้
ว่ากันว่า “ผู้กองมนัส” พยายามขยายพื้นที่ด้วยการลองเชิงในศึกเลือกตั้ง นายก อบจ.ปักหมุดหวังเก็บชัย จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.นราธิวาส แต่ต้องพ่ายแพ้ทั้งสองพื้นที่ ต้องยอมรับว่ายี่ห้อ “ผู้กองมนัส” ยังไม่โดดเด่น และอาจจะมีแต้มลบในดินแดนด้ามขวานเสียด้วยซ้ำ
เมื่อไม่สามารถรุกเข้าพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่ “นายใหญ่” เปิดทางให้พรรคกล้าธรรมเดินสายได้สะดวกทุกจังหวัด ทำให้ “เบอร์หนึ่ง” พรรคกล้าธรรม ต้องทบทวนยุทธศาสตร์ใหม่ โดยอาจจะต้องเปิดแนวรบพื้นที่ภาคกลางให้มากขึ้น
อีกทางหนึ่ง ก็ต้องเจรจากับ “นายใหญ่” ขอตรึงพื้นที่ สส.พรรคกล้าธรรม ที่ปักหลักอยู่ในตอนนี้ เพื่อให้ตัว สส.ทำพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพราะหาก “นายใหญ่-เพื่อไทย” ไม่หลบเขต ย่อมส่งผลเสียต่อ “กล้าธรรม” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หลังจากนี้ จับตาทุกก้าวย่างของ “ผู้กองมนัส” ที่อาสาตัวเป็นองครักษ์พิทักษ์นายกฯ จะซื้อใจ“แพทองธาร” ให้เหลียวมองชายชื่อ “ธรรมนัส” มากยิ่งขึ้นได้หรือไม่