หลังม่านยุทธการล้มแก๊งคอลฯ ‘ดีเอสไอ’แอ็กชั่น เสี่ยงสะดุด

หลังม่านยุทธการล้มแก๊งคอลฯ  ‘ดีเอสไอ’แอ็กชั่น เสี่ยงสะดุด

“กองทัพ” หวังให้เมียนมาบังคับใช้กฎหมายจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ ในเมียวดี ส่วน "ฝ่ายไทย" ทำหน้าที่สนับสนุน ดีกว่าออกมาแอ็กชั่น เพื่อผลทางการเมือง

KEY

POINTS

  • มาตรการตัดไฟฟ้า น้ำมัน อินเทอร์เน็ต 5 จุดสำคัญชายแดนไทย-เมียนมาได้เห็นความระส่ำระสายของแหล่งศูนย์รวมอาชญากรรม
  • เหยื่ออาชญากรรมข้ามชาติจากเมืองชเวโก๊กโก่-เคเคปาร์ ถูกทยอยส่งตัวมายังฝั่งไทย
  • สำหรับผลสัมฤทธิ์ดังกล่าว ย่อมมีผู้อยู่เบื้องหลัง ประกอบด้วย บิ๊กทหาร-ตำรวจ แม่ทัพ นายกอง ผู้พัน ผู้บังคับการ ไปจนถึงระดับปฏิบัติ ทำหน้าที่บูรณาการ 

รัฐบาลเปิดสงครามกวาดล้างยาเสพติด-อาชญากรรมข้ามชาติ รอบประเทศ เต็มรูปแบบ หลังประกาศคิกออฟ “Seal Stop Safe” เมื่อ 30 ม.ค. 2568 ด้วยการซีลชายเเดน 51 อำเภอ 14 จังหวัด หวังแก้ไขปัญหาให้ครอบคลุมทุกมิติ 

ควบคู่ไปกับมาตรการตัดไฟฟ้า น้ำมัน อินเทอร์เน็ต 5 จุดสำคัญชายแดนไทย-เมียนมา พื้นที่ชนกลุ่มน้อย ที่อำนาจรัฐบาลเมียนมาเข้าไม่ถึงด้าน จ.เชียงราย จ.ตาก และ จ.กาญจนบุรี 

เพียงไม่กี่วัน จึงได้เห็นความระส่ำระสายของแหล่งศูนย์รวมอาชญากรรม ทั้งแก๊งคอลเซนเตอร์ ขบวนการค้ามนุษย์ พนันออนไลน์ ฝั่งเมืองเมียวดี ติด จ.ตาก และเมืองพญาตองซู ติด จ.กาญจนบุรี

เหยื่ออาชญากรรมข้ามชาติจากเมืองชเวโก๊กโก่-เคเคปาร์ก ถูกทยอยส่งตัวมายังฝั่งไทย เพื่อส่งต่อกลับไปยังประเทศต้นทาง และยังเหลืออีกประมาณ 7,000 คนติดค้างอยู่ในพื้นที่ อยู่ระหว่างขั้นตอนดำเนินการ

แน่นอนว่า จุดเริ่มต้นนี้ ยังไม่ใช่ตัวชี้วัดว่า ปัญหายาเสพติด-อาชญากรรมข้ามชาติ จะหมดไปจากชายแดนไทย-เมียนมาเร็ววันนี้ ในทางกลับกัน ยังมีปัจจัยแทรกซ้อนอีกไม่น้อย

สำหรับผลสัมฤทธิ์ดังกล่าว ย่อมมีผู้อยู่เบื้องหลัง ประกอบด้วย บิ๊กทหาร-ตำรวจ แม่ทัพ นายกอง ผู้พัน ผู้บังคับการ ไปจนถึงระดับปฏิบัติ ทำหน้าที่บูรณาการ ผ่านกลไกระดับกองทัพบกกับกองทัพภาค ที่ติดตามข้อมูลมาโดยตลอด 

โดยใช้กองกำลังชายแดนที่มีศูนย์ประสานคอยแก้ไขปัญหา และกระชับสัมพันธ์ระดับพื้นที่มาต่อเนื่อง ครอบคลุมถึงการพูดคุยกลไกทางเปิด-ทางลับมาโดยตลอด

โดยฟันเฟืองสำคัญ เป็นการแท็กทีม เตรียมทหารรุ่น 26 (ตท.26) ซึ่งล้วนแต่เป็นมือทำงานของ “บิ๊กปู” พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ด้วยกันทั้งสิ้น

“บิ๊กเต้”พล.ท.ณรงค์ฤทธิ์ คัมภีระ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ที่มีกระแสข่าวว่า ไปออกปฏิบัติการทางลับ ลงพื้นที่ ร่วมวงถกกองกำลังชนกลุ่มน้อยระดับเฮด

นอกจากนี้ “บิ๊กปู” พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เจ้ากรมยุทธการทหารบก (จก.ยก.ทบ.) ปูแผนป้องกัน และมาตรการเชิงรุก ควบคู่ประเมินผลกระทบเกิดขึ้นทั้งปัจจุบัน และอนาคต

พล.ต.ธีรนันท์​ นันทขว้าง ผู้บัญชาการ​หน่วยข่าวกรองทางทหาร (ผบ.ขกท.) แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับตำรวจ ปปส.นำไปสู่การจับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่

ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มี “บิ๊กหวาน” พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อน ตท.26 อีกคน ประสานงาน จัดสรรพื้นที่ทำงาน

“บิ๊กหวาน” จบดอกเตอร์จากมหาวิทยาลัย ในสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ที่เมืองฮันตส์วิลล์ ในรัฐเท็กซัส ที่เดียวกับ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ เคยเป็นอาจารย์สอนอาชญาวิทยา จบปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยเคนทักกี สเตต เพื่อนร่วมรุ่น “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกฯ

ส่วนในระดับ“แม่ทัพภาค” ใช้กลไกกองบัญชาการ หน่วยบัญชาการ สารตั้งต้นการแก้ไขปัญหายาเสพติด(นยบส.) มีอำนาจคุมผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ

ทั้ง“บิ๊กใหญ่” พล.ท.อมฤต บุญสุยา (ตท.27) แม่ทัพภาคที่ 1 พล.ท.กิตติพงษ์ จันทร์สุวรรณ (ตท.23) แม่ทัพภาคที่ 3 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง (ตท.26) แม่ทัพภาคที่ 2

มีกองกำลังป้องกันชายแดน กองกำลังนเรศวร กองกำลังผาเมือง กองกำลังสุรสีห์ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี รวมถึงหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง(นรข.)ทำหน้าที่ซีลชายแดนเข้มข้น ครอบคลุมทุกมิติ

พลันที่ กระทรวงยุติธรรม มอบหมาย“ดีเอสไอ” รื้อคดีเก่า ค้ามนุษย์ หาช่องออกหมายจับผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยง กองกำลังสำคัญปกครองเมืองเมียวดี  เมียนมา พันเอก ซอชิตตู่ หรือพันเอก หม่องชิตตู่ พันโท โมเต โธน และพันตรี ทิน วิน 

หวังลดแรงเสียดทานรัฐบาลจากแกนนำพรรคฝ่ายค้าน “รังสิมันต์ โรม” ที่ออกมาให้ข้อมูลว่า พันเอกหม่องชิตตู่ พัวพันขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่า หลักฐานไม่เพียงพอ แต่พยายามแสดงให้เห็นเป็นเชิงสัญลักษณ์มีการขับเคลื่อน

ทว่า“กองทัพ”กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะแนวทางนี้ส่งผลกระทบการปฏิบัติงานทางเปิด-ทางลับ ของทหารตามแนวชายแดน เรื่องความร่วมมือส่งตัวเหยื่อ และผู้กระทำผิดเป็นคนต่างชาติ ที่อยู่ในออเดอร์อีกจำนวนมากให้ฝั่งไทย

เนื่องจากแนวทางที่ “กองทัพ” คาดหวังให้เมียนมาดำเนินการบังคับใช้กฎหมายตรวจสอบ จับกุม กลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขบวนการค้ามนุษย์ในพื้นที่เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง เป็นการภายใน เพราะมีปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ลักษณะทางกายภาพ เช่น ต่างชาติ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ เครือข่ายอินเทอร์เน็ต หากดำเนินการอย่างจริงจัง คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์

ส่วนฝ่ายไทยควรทำหน้าที่เพียงสนับสนุน ให้ฝ่ายเมียนมาดำเนินการจัดระเบียบ ควบคุมพื้นที่ได้ทั้งหมดแล้ว ดีกว่าออกมาแอ็กชั่นกลบกระแส เพื่อหวังผลทางการเมือง