‘รัฐบาล’ อวย ‘สี จิ้นผิง’ ให้เกียรติไทย พร้อมอำนวยความสะดวกการค้า

“โฆษกรัฐบาล” เผย ผลสำเร็จ นายกฯ เยือนจีน “สี จิ้นผิง” ให้เกียรติไทย ขอบคุณ ตัดวงจรอาชญากรรมออนไลน์ เห็นพ้องอำนวยความสะดวกด้านการค้าพร้อมรับ นทท.จีน ช่วงสงกรานต์
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เสร็จสิ้นภารกิจการเยือน สาธารณรัฐประชาชนจีน อย่างเป็นทางการ ที่กรุงปักกิ่ง และได้นำคณะเดินทางไปยังนครฮาร์บิน เพื่อร่วมพิธีเปิดการแข่งขัน เอเชียนเกมส์ ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 พร้อมกับพบปะทัพนักกีฬาไทยเพื่อให้กำลังใจในการแข่งขัน นอกจากนี้สื่อมวลชนของประเทศจีนและไทยต่างจับตาการเดินทางเยือนครั้งแรกในครั้งนี้โดยสื่อมวลชนประเทศจีนชื่นชมนายกรัฐมนตรีของไทยและเห็นว่าการเดินทางเข้าร่วมประชุมกับผู้นำระดับสูงของจีนและรัฐบาลกลางจะทำให้การค้าขายเศรษฐกิจและสังคมของทั้งสองประเทศคึกคักมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว
โดยสรุป ผลการดำเนินการที่ไทยประสบความสำเร็จอย่างมากในทุกมิติ ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ การแก้ปัญหาต่างๆ ระหว่างกันและการลงนาม ในข้อตกลง 14 ฉบับที่ ในทุกมิติทั้งทางด้านการพัฒนาสังคมเทคโนโลยีสมัยใหม่เรื่องอวกาศในการสำรวจรอบดวงจันทร์ร่วมกันการนำเข้าและส่งออกในช่องทางผ่านกรมศุลกากรของทั้งสองประเทศ ซึ่งถือว่าการเดินทางในครั้งนี้เป็นการเปิดประตูสินค้าไทย สู่จีนให้ง่ายขึ้นและลดขั้นตอนซับซ้อนมากขึ้น ดังนี้
1. ให้เกียรติผู้นำไทย คนไทย และ ประเทศไทย โดยการเจริญสัมพันธ์ไมตรี ในการนี้รัฐบาลจีนให้การต้อนรับการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีอย่างสมเกียรติ มีผลสำเร็จเกินความคาดหมายโดยนับเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการระดับสูงครั้งแรกใน “ปีทองแห่งมิตรภาพไทย - จีน”ครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ในปี 2568 นี้ การเยือนครั้งนี้เกิดขึ้นในจังหวะเวลาสำคัญเป็นโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายได้ทบทวนความสำเร็จที่ผ่านมา และร่วมกันวางแผนสำหรับอนาคตเพื่อก้าวสู่อีก 50 ปีของความสัมพันธ์ไทย-จีน
2. ประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ให้เกียรติประเทศไทย โดยพบกับผู้นำสูงสุดของประเทศทั้ง 3 ท่าน โดยการเยือนจีนครั้งนี้ รัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับประเทศไทย อย่างมาก โดยเปิดให้เข้าประชุมหารือกับผู้นำสูงสุด 3 ท่านของรัฐบาลจีนประกอบด้วย
(1) การเข้าพบปะหารือประชุมร่วมกันกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดี พร้อมทั้ง คณะรัฐมนตรี และส่วนรัฐบาลกลางระดับสูง โดยประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และกล่าวว่าตลอดระยะเวลา 50 ปี ไทย-จีน มีหลักการและวิสัยทัศน์ความร่วมมือในการแบ่งปันความเจริญรุ่งเรือง (shared prosperity) ซึ่งจีนยังสนับสนุนบทบาทไทยในทุกกรอบความร่วมมือทั้งระดับทวิภาคี พหุภาคีและภูมิภาค ซึ่งยังเห็นควรขยายความร่วมมือในด้านต่างๆ ทั้งการพัฒนารถไฟความเร็วสูง เศรษฐกิจดิจิทัล เขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC และการใช้ประโยชน์ความร่วมมือเศรษฐกิจ ไทย ลาว จีน
อีกทั้งจีนยังส่งเสริมภาคเอกชนไทยในทุกมิติ ทั้งนี้ประเทศจีนจะมีการจัดงาน“ China International Import Expo” ซึ่งถือเป็นงานสำคัญของการค้าขายระหว่างกัน ซึ่งจีนยังสนับสนุนสินค้าและบริการที่ดีของไทยมาที่ประเทศจีน ส่วนความร่วมมือในด้านยุทโธปกรณ์ทางทหารนั้น ไทย-จีนมีจุดเริ่มต้นจากโครงการเรือดำน้ำอีกด้วย และเชื่อว่าจะบรรลุความร่วมมือในอนาคตอันใกล้นี้
นอกจากนี้ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ยังได้ ขอบคุณในนโยบายตัดวงจรอาชญากรรมไซเบอร์ของรัฐบาลไทย โดยกล่าวว่า “จีนสนับสนุนอย่างเข็มแข็งในการปราบปราม ขบวนการหลอกหลวง (online scam) การลักพาตัว การค้ามนุษย์ ซึ่งถือเป็นการบั่นทอนผลประโยชน์ของประชาชนจีน เป้าหมายหลักของทั้ง 2 ประเทศ คือ การปราบปรามกิจกรรมผิดกฎหมาย ที่ผ่านมาจีนได้ร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและท้องถิ่นสามารถปราบปรามยาเสพติด จนประสบความสำเร็จ โดยอาชญากรรมข้ามชาติถือเป็นความท้าทาย มีความเสี่ยงสูง และชื่นชมรัฐบาลไทยที่พยายามอย่างเต็มที่และเป็นรูปธรรมโดยเฉพาะการตัดน้ำ ไฟ อินเตอร์เน็ตและน้ำมัน ที่จะสามารถตัดวงจรกิจกรรมที่เป็นอาชญากรรมต่างๆ ได้ และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามจะดูแลความปลอดภัยและผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยการยกระดับการบังคับใช้กฎหมายทั้งในระดับทวิภาคี และอนุภูมิภาค
“ส่วนการยกระดับความร่วมมือในระดับประชาชน อาทิ การจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ 50 ปี ไทย -จีน ในการอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วมาประดิษฐานที่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว รวมทั้งการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนการแสดงวัตถุโบราณ การส่งมอบแพนด้ายักษ์ รวมไปถึงการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างกลุ่มคนรุ่นใหม่ และการให้ทุนการศึกษา และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและ soft power เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ทั้งในด้านวัฒนธรรมดั้งเดิมและสื่อวัฒนธรรมสมัยใหม่ ความร่วมมือด้านสื่อ วัฒนธรรม เพื่อส่งต่อความร่วมมือจากรุ่นสู่รุ่น เป็นสิ่งที่ทั้งสองประเทศจะได้ร่วมมือกัน ”ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าว
(2) พบประธานสภาประชาชนจีน ประมุขนิติบัญญัติ ย้ำไทยจีนต้องร่วมมือทุกมิติ ในการหารือกับ นายจ้าว เล่อจี้ ประธานสภาประชาชนแห่งชาติจีน ซึ่งกล่าวว่า ไทย-จีน เป็นหุ้นส่วนที่มีอนาคต ร่วมกันทั้งสองประเทศมีความเป็นมิตรภาพที่ลึกซึ้ง สมคำกล่าว ที่ว่า “ไทย-จีน มิใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” และการที่ท่านได้เข้าเยี่ยมคารวะประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของรัฐบาลจีน-ไทย ที่ทำงานกันอย่างใกล้ชิด และช่วยผลักดันความร่วมมือเพื่อประโยชน์ 2 ประเทศ และพร้อมส่งเสริมความร่วมมือกับจีนให้แนบแน่นยิ่งขึ้นอย่างรอบด้านในทุกระดับโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลางและมุ่งมองไปข้างหน้า
ปัจจุบันจีนส่งเสริมการพัฒนาสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูง สร้างโอกาสให้ประเทศไทยด้วย และจีนพร้อมสนับสนุนให้บริษัทจีนที่มีเทคโนโลยีสูง เช่น เศรษฐกิจสีเขียวดิจิทัล สาธารณสุข ไปลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น รวมทั้งการแลกเปลี่ยนการเดินทางระหว่างประชาชน และการปราบปรามภัยที่เป็นอาญชากรรมข้ามชาติ ภัยออนไลน์ พร้อมร่วมมือกับไทยพัฒนากรอบภูมิภาค อาทิ ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ล้านช้าง รวมถึงความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนด้านนิติบัญญัติ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือในพัฒนาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศด้วย พร้อมฝากความระลึกถึงไปยังประธานรัฐสภา และประธานวุฒิสภา
(3) สำหรับการหารือกับนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ได้แลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์กับผู้นำจีนถึงการเผชิญหน้าความท้าทายและการขยายความร่วมมือในอนาคต โดย มุ่งมองไปข้างหน้าที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และ ประชาชนมีกินมีใช้ ประชาชนมีความปลอดภัย และประชาชนมีความพร้อมต่ออนาคต (future ready) และความเข้าใจอันดีต่อกัน
โดยไทยและจีนเห็นพ้องที่จะอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน การเสริมสร้างหุ้นส่วนด้านการลงทุนระยะยาวในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่สำคัญต่อการเปลี่ยนผ่านสีเขียวและดิจิทัล ความเชื่อมโยง การสนับสนุนสินค้าเกษตรของไทย soft power และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ รวมทั้งความร่วมมือเร่งด่วนในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ภัยออนไลน์ และการค้ามนุษย์ เพิ่มความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยวจีน
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตลอดความสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปีที่ผ่านมา ไทยกับจีนได้ร่วมมือสนับสนุนเกื้อกูลกันมาตลอด ทั้งสองประเทศยังได้ร่วมกันจัดตั้งกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง เพื่อเสริมสร้างการพัฒนาในภูมิภาค จนปัจจุบันความสัมพันธ์พัฒนาขึ้นตามลำดับ ทำให้จีนเป็นประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทยต่อเนื่อง 12 ปี และเป็นนักลงทุนลำดับต้นของไทย และมูลค่าการค้าจนถึงพฤศจิกายน 2567 รวม 1 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 และมีนักลงทุนจีนมาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นเกือบ 1.2 หมี่นล้านบาทในช่วง 9 เดือน รวมทั้งการยกเว้นวีซ่าระหว่างกันอีกด้วย
ด้านการค้า นายกรัฐมนตรี เห็นว่าควรใช้ประโยชน์จาก FTA ทั้ง RCEP และ ASEAN - China FTA ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจายกระดับความตกลงให้ทันสมัย และหวังว่าจะสามารถลงนามได้ภายในปีนี้ เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน โดยยินดีที่หน่วยงานทั้งสองฝ่ายจะมีการลงนามความตกลงหลายฉบับในเรื่องการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการเปิดตลาด โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังย้ำว่า ไทยให้ความสำคัญกับมาตรการกำกับดูแล มาตรฐาน คุณภาพ และความปลอดภัยของสินค้าอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหาร ทั้งสินค้าทุเรียนและน้ำเชื่อม ซึ่งรัฐบาลได้สั่งการยกระดับการควบคุมและกำกับดูแลแล้ว เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้บริโภคชาวจีนจะได้รับสินค้าไทยที่มีคุณภาพสูง”
3. ไทยเนื้อหอม..นักลงทุนจีน ชื่นมื่นพร้อมลงทุนในไทยเพิ่มแน่นอน
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ยังได้หารือกับผู้บริหารระดับจากภาคเอกชนชั้นนำของจีน ได้แก่ บริษัท Hisense และ Xiaomi เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเชิญชวนมาลงทุนที่ประเทศไทย รวมทั้ง การพูดคุยกับหอการค้าไทยในจีน (Thai Chamber of Commerce in China: TCCC) เพื่อส่งเสริม ประโยชน์ของผู้ประกอบการไทยในด้วย
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าทราบว่าบริษัทฯ Hisense ได้รับการส่งเสริมจาก BOI ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีหวังว่า บริษัทฯ จะพิจารณาให้ไทยเป็นฐานสำคัญของบริษัท หรือพัฒนาห่วงโซ่อุปทานในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนตลาด IoT และอุปกรณ์อัจฉริยะในประเทศไทยและตลาดอาเซียน ขณะที่ผู้บริหาร Xiaomi Corporation กล่าวว่า บริษัทสามารถทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าได้จำนวนมากนับตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแรก (SU7) เมื่อเดือนมีนาคม 2024ที่ประเทศไทย และหวังว่า บริษัทฯจะพิจารณาจัดตั้งโรงงานแห่งแรกในต่างประเทศที่ประเทศไทย รวมถึงกิจกรรม R&D ที่มุ่งพัฒนาชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญเพื่อสร้างธุรกิจที่ยั้งยืน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า รัฐบาลและบีโอไอพร้อมสนับสนุนการลงทุนของบริษัท โดยมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนต่างๆ รวมถึง ease of doing business ด้วย
4. ลงนาม mou ไทย -จีน ปลดพันธนาการทุกมิติทั้งเศรษฐกิจ สังคม ข้อมูลข่าวสาร การค้าขายระหว่างกัน นับจากนี้ สินค้าไทย จีนค้าขายสะดวกมากขึ้นทุกมิติ โดยในการเยือนครั้งนี้ ยังมีการลงนามเอกสารความตกลงถึง 14 ฉบับ
“การเยือนจีนครั้งนี้ประสบความสำเร็จ และยังสร้างกระแสชื่นชมนายกฯ ในโลกออนไลน์จีนด้วย เพราะท่านนายกฯ มีการเตรียมตัว ทำการบ้านข้อมูล ประเด็นต่างๆ เพื่อมาเจรจาผู้นำและภาคเอกชนจีน การส่งออกสินค้าเกษตรไทย ความคืบหน้ารถไฟความเร็วสูงไทย-จีน รวมทั้งการปราบปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ ซึ่งผู้นำจีนเอ่ยปากชมไทยกดดันกิจกรรมผิดกฎหมาย ด้วยการตัดไฟ อินเตอร์เน็ต งดส่งน้ำมัน นายกฯ ยังยืนยันดูแลความปลอดภัยของประชาชนไทยและนักท่องเที่ยวชาวจีน และไทยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางมาเที่ยวไทยโดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์นี้ด้วย” นายจิรายุ กล่าว