'เจี๊ยบ' แบกต่อ 'ปูอัด' ขืนใจสาวไต้หวัน แม้ทำผิด รอให้สะเด็ดน้ำ

'เจี๊ยบ' แบกต่อ 'ปูอัด' ขืนใจสาวไต้หวัน แม้ทำผิด รอให้สะเด็ดน้ำ

“เจี๊ยบ” ร่ายยาวขอแบก “ปูอัด” ขืนใจสาวไต้หวัน เหตุไม่เชื่อมั่น กระบวนการยุติธรรมไทย ชี้ ตำรวจเขียนสำนวนมั่วซั่ว ย้ำแม้ทำผิดจริง รอให้สะเด็ดน้ำ อย่าชี้หน้าประนาม 

8 ก.พ.2568 นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีที่ออกมาแสดงความเห็นเรื่องนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคไทยก้าวหน้า ถูกออกหมายจับ ว่า ตอบเรื่องแบกซักหน่อย  เอาจริง ๆ ดิฉันก็เหมือนทุกท่าน อยากเห็นคนมีตำแหน่งทางการเมืองทำผิดแล้วออกมาแสดงความรับผิดชอบโดยเร็วและต้องถูกลงโทษ ควรรีบเข้ามาสู่กระบวนการโดยเร็วไม่ควรใช้เอกสิทธิสส.ประวิงเวลา ความต้องการความเป็นยุติธรรมเป็นสัญชาติญาณของมนุษย์

แต่ดิฉันมีพื้นฐานไม่เคยเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมไทยที่มันเหลวแหลกเป็นที่ประจักษ์ โดยเฉพาะในชั้นต้นคือชั้นตำรวจที่ไม่เคยมีความน่าเชื่อถือ ทั้งมั่วทั้งผิดพลาด 

เมื่อถูกใครหรือองค์กรไหนกดดันหน่อยก็เร่งรัดสำนวนมั่ว ๆ ให้พ้นตัวรีบส่งศาลส่งอัยการ เขียนสำนวนรวบรวมหลักฐานให้ผิดเป็นถูก ถูกเป็นผิด ก็มีให้เห็นนับไม่ถ้วน อย่างเรื่องบอสกระทิงแดง และอื่น ๆ มากมาย หลายคดีในเบื้องต้นศาลก็ฟันไปตามสำนวนที่ตำรวจชงมา จับขังไม่ให้ประกันแล้วก็หลุดภายหลัง

ผู้บริสุทธิ์กี่คนแล้วเสียอนาคตกับความอยุติธรรมโดยไม่ได้รับชดเชยเยียวยา เรือนจำก็เต็มไปด้วยแพะ อาชญากรตัวจริงกี่คนแล้วที่ลอยนวลและยังเดินลอยหน้าในสังคม

อันที่จริงดิฉันก็ไม่ไว้ใจศาลด้วย ทั้งเรื่องสองมาตรฐานและความเป็นอิสระ แต่ก็ไม่รู้จะทำไง ได้แค่เรียกร้องให้ปฎิรูปกระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว

กรณีปูอัด แนวโน้มอาจจะผิดจริง แต่ก็อยากให้ใจเย็น ๆ กันนิดนึงเท่านั้น ข่าวใหญ่พาดหัวอะไรตูมตามขึ้นมาก็อย่าพึ่งด่วนบ้าจี้ตาม

ดิฉันรังเกียจกลุ่มนางแบกลูกจ้างที่ได้รับผลประโยชน์ พรรคจะตระบัดสัตย์ผิดสัญญาประชาคมอย่างไรก็ยังหน้าด้านแบกอย่างไร้สติส่งผลให้พรรคตกต่ำลงทุกวัน ถ้าพรรคประชาชนผิดพลาดจากที่สัญญาไว้ ก็จะวิจารณ์และช่วยตรวจสอบอย่างเข้มข้นเท่าที่ทำได้ ให้ปรับปรุง จะได้เป็นความหวังของประชาชน ไม่ดันทุรังแบก

แต่กรณีสส.ปูอัด ไม่รู้จะไปแบกให้เมื่อยเพื่ออะไร เพราะปูอัดเป็นสส.พรรคไทยก้าวหน้าไม่ใช่พรรคประชาชน เขาถูกขับออกไปตั้งแต่สมัยเป็นพรรคก้าวไกลแล้ว ตัวดิฉันเองก็ไม่ชอบพฤติกรรมที่ผ่านมาของเขา ปูอัดเป็น สส.รุ่น 2 ที่ดิฉันไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัว ไม่เคยมีเบอร์โทรหรือไลน์กัน 

ตอนเลือกตั้งปี 66 ก็ไม่เคยไปช่วยหาเสียง รู้แต่ว่าเป็นสส.กทม.จำไม่ได้ว่าเขตไหน เพราะสส.รุ่นใหม่มีตั้ง 151 คน แก่แล้วจำไม่หมด

แค่ดิฉันไม่อยากให้เกิดความผิดพลาดตามมาถ้าเราไปด่วนประหารชีวิตใครซักคนทางสังคมและทางการเมืองด้วยเรื่องพาดหัวข่าวสั้น ๆ โดยยังไม่ทันได้ให้โอกาสอีกฝ่ายโต้ตอบข้อกล่าวหาก็เท่านั้น 

การไปด่วนชี้หน้าใครถูกผิด หรือประนามหยามเหยียดน่าจะต้องรอให้เรื่องสะเด็ดน้ำกันบ้าง และต้องมีใจเป็นธรรมไม่ใช้อคติที่มีในใจไปแล้วจากประวัติของเขาด้วย 

เพราะแม้แต่คนทำผิดครั้ง 1,2 มาแล้ว ก็อาจไม่ใช่คนผิดในครั้งที่ 3 คนเรามีแนวโน้มจะผิดซ้ำได้ แต่ก็ไม่ใช่จะ 100 % 

รอเวลานิดให้เรื่องเขยิบจากชั้นตำรวจ ไปช่วยกันไล่ออกตอนที่ชั้นอัยการเห็นว่ามีมูลสั่งฟ้องคงจะดีกว่า คงยังไม่ได้สายเกินไป อาจไม่ได้ต้องรอถึงชั้นศาลตัดสินก็ได้เพราะมันคงจะนานเกินไป

เขียนมาน่าจะครบถ้วนแล้ว รู้สึกเสียเวลาและเมื่อยนิ้วนิดหน่อย แต่คิดว่าควรตอบเพื่อบันทึกไว้ก่อนจะ move on  มีคนเข้าใจก็ดี ไม่เข้าใจก็ไม่ได้แคร์อะไร ใช้คำหยาบคายมาคอมเม้นท์ก็บล็อค