ทสท.จองซักฟอก 'เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์' มอง กม.ห่วย จี้ทำประชามติก่อน

เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2568 ที่ทำการพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านในวันนี้ว่า จะเป็นการหารือเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรก โดยพรรคไทยสร้างไทยสนใจอภิปรายเรื่องการพนันออนไลน์ และกฎหมาย "เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" ที่ซ่อนบ่อนกาสิโนไว้ ถือว่าได้ไม่คุ้มเสีย เรามีหลักฐานเชิงลึก และเชิงประจักษ์ให้เห็นกันดีว่าใครจะได้ประโยชน์บ้าง อาจจะทำให้คนไทยติดการพนันงอมแงม 

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยไม่ได้ค้านจนหัวชนฝา แต่เรามีข้อมูลมานำข้อเสนอ  เหตุผลที่ค้านเพราะเราไม่สามารถควบคุมสิ่งผิดกฎหมายเหล่านี้ให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดได้ นอกจากนี้เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่ซ่อนบอร์ดเอาไว้มีปัญหามากมาย โดยกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่ผ่าน ครม.เป็นกฎหมายที่เขียนไว้ห่วยแตกที่สุด ยกอำนาจทั้งหมดให้กับบอร์ด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักการเมือง มีทั้งนายกรัฐมนตรีและนักการเมือง เท่ากับว่าถ้าสภาฯ ผ่านจะเป็นการตีเช็คเปล่าให้กับบอร์ดชุดนี้กำหนดทุกอย่าง ทั้งเงื่อนไขค่าตอบแทน และการป้องกันไม่ให้คนไทยเป็นเหยื่อการพนัน ก็ให้บอร์ดชุดนี้กำหนด

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลพูดว่าใบอนุญาตใบหนึ่งไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ผลประโยชน์ต่อปี  1,000 ล้านบาท หากประเมิน 30 ปี รายได้จะเข้ารัฐ 35,000  ล้านบาท  จึงเสนอให้รัฐบาลนำข้อกำหนดมาอยู่ในร่างกฎหมาย ทำประชามติออนไลน์ ชงเข้าสภาฯ เพื่อให้สภาฯ ควบคุมกำกับ อาจจะลองทำสักแห่งก่อน ถ้ามีผลเสีย รัฐบาลจะแก้หรือเอากลับคืนมาได้ 

“ถ้ารัฐบาลจริงใจ ในฐานะที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้หญิง และเป็นคุณแม่ อยากให้เห็นถึงอนาคตของลูกหลานมากกว่านี้ ลองทำตามขั้นตอนนี้ไม่ได้เสียหายอะไร” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

เมื่อถามว่าการอภิปรายในครั้งนี้จะเป็นการเด็ดหัวรัฐมนตรีหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ก็ต้องมีหลักฐาน เรามั่นใจว่าเรามีหลักฐานชัดเจน แต่อาจจะไม่เพียงพอ จึงขอให้สังคมตื่นรู้ อยากเรียกร้องคนไทยทุกคนเพื่อให้รัฐบาลทุจริตไม่ได้ เราต้องตื่นตัวต่อต้านคอรัปชั่น ทำการเมืองให้มีคุณธรรม และจริยธรรม 

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวด้วยว่า สำหรับฝ่ายค้านหวังว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจจะสามารถเอาผิดผู้ที่คอรัปชั่นเชิงนโยบาย หรือผู้ที่บกพร่องต่อหน้าที่จนประเทศเสียหาย โดย ป.ป.ช.ไม่ควรชักช้าในการดำเนินคดี ทั้งนี้เราไม่ได้คาดหวังเรื่องการปรับ ครม. แต่ผู้นำรัฐบาลอาจจะใช้เหตุการอภิปรายเพื่อปรับ ครม.เพื่อผลประโยชน์ของตนเองหรือไม่ เราก็ไม่ทราบ แต่พรรคฝ่ายค้านย่อมหวังผลในการเอาผิดตามกฎหมาย

• จี้ “ปูอัด” รับผิดชอบลาออก ชี้นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ถ้ามั่นใจบริสุทธิ์อย่าใช้เอกสิทธิ์ สส.

วันเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์กรณีนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคไทยก้าวหน้า ถูกออกหมายจับคดีข่มขืนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ว่า ในฐานะเป็นผู้หญิง และในฐานะการเมือง เราต้องการผู้แทนที่มีคุณธรรมจริยธรรม และต้องมีสูงกว่าคนทั่วไป ซึ่งกรณีของสส.ปูอัดไม่ใช่ครั้งแรก ยิ่งครั้งนี้ตำรวจขอศาลอนุมัติออกหมายจับ และเป็นการกระทำต่อนักท่องเที่ยว มันเสียหายทั้งเรื่องการทำร้ายลูกผู้หญิง และเสียหายต่อชื่อเสียงของประเทศด้วย ดังนั้น สส.ไม่ควรมีพฤติกรรมแบบนี้ ยิ่งก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ถ้าปูอัดเห็นว่าตัวเองมาจากประชาชนควรมีสำนึกและรู้สึกว่าเราได้ทำผิดต่อประชาชนที่เขาเลือกเรามา จึงอยากเรียกร้องความรับผิดชอบด้วยการลาออกโดยไม่ต้องรอกระบวนการยุติธรรม และไปต่อสู้แสดงความบริสุทธิ์ในฐานะคนธรรมดา ไม่ต้องใช้เอกสิทธิ์สส.คุ้มครอง 

เมื่อถามว่าต้องใช้วิธีให้สภาลงมติเพื่อเปิดทางให้ตำรวจเข้ามาควบคุมตัวในสภาเลยหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ถ้ามั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ก็ไม่ควรใช้เอกสิทธิ์คุ้มครองใดๆ ควรลาออกเพื่อมาต่อสู้คดีเพราะนี่ก็ไม่ใช่กรณีแรก เคยมีเรื่องลักษณะคล้ายคลึงกันแบบนี้เกิดขึ้นแล้ว

ส่วนกรณีที่สส.ปูอัดเป็นฝ่ายค้านอยู่ด้วย เรื่องนี้จะกระทบต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของปัจเจก เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ใช่พฤติกรรมของฝ่ายค้าน และตนเชื่อว่าทุกพรรคของฝ่ายค้านน่าจะมีความเห็นเดียวกัน เพราะเราไม่สนับสนุนคนที่ไม่มีคุณธรรมจริยธรรมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล คนที่ไม่ซื่อสัตย์ไม่มีคุณธรรมก็ต้องถูกดำเนินการให้เสร็จสิ้น เพราะตอนนี้บ้านเมืองที่เกิดปัญหาทั้งเศรษฐกิจและสังคม เพราะเราเริ่มจากวัฒนธรรมอุบาทว์ เข้ามาก็ถอนทุนแล้วก็โกงกันทุกรูปแบบ ตั้งแต่ระดับสูงจนถึงปฏิบัติการ