‘ภูมิธรรม' เตรียมมาตรการเชิงรุกรับ 'แก๊งคอลเซ็นเตอร์' ย้ายฐานไปกัมพูชา

‘ภูมิธรรม' เตรียมมาตรการเชิงรุกรับ 'แก๊งคอลเซ็นเตอร์' ย้ายฐานไปกัมพูชา

"ภูมิธรรม‘ เตรียมลงพื้นที่สังขละติดพญาตองซู เน้นการข่าวเชิงรุกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ย้ายฐาน ระบุหาก "โรม" มีข้อมูลแก๊งคอลฯ ส่งให้รัฐบาลดำเนินการ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 ก.พ. ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงกรณีปฏิบัติการตัดไฟ สัญญาณเน็ต และน้ำมันตามชายแดนประเทศ ว่า ตนจะเตรียมเดินทางลงพื้นที่สังขละ จ.กาญจนบุรี ในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นพื้นที่ตรงข้ามกับจ.พญาตองซู ประเทศเมียนมา เนื่องจากจะไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้งหมด หลังพบว่าเมื่อวานนี้ (6 ก.พ.) ทางตำรวจไซเบอร์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดปฏิบัติการตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ตในหลายจุด เพื่อป้องกันปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และลักลอบนำเข้ายาเสพติด รวมทั้งปัญหาแรงงานข้ามชาติ ซึ่งเรื่องนี้ทางรัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าวเป็นอย่างมาก โดยรัฐบาลเองก็มีมาตรการในการยกระดับแก้ปัญหาอาชญากรรมรอบประเทศ โดยจะประสานกับประเทศเพื่อนบ้าน 

และถึงแม้ว่าปฏิบัติการตัดไฟตัดอินเทอร์เน็ตนั้น อาจจะไม่ใช่การแก้ปัญหาได้ทั้งหมด แต่จะมีการประสานกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อแก้ปัญหาในระยะยาว โดยเฉพาะในเรื่องของที่จะมีการนำไฟฟ้าและน้ำมันจากประเทศลาวมาใช้ในเมียนมา แต่ทั้งหมดก็จะต้องมีการผ่านประเทศไทย ดังนั้น หากประเทศไทยปิดกั้นได้ ก็จะสามารถตัดตอนปัญหาดังกล่าวได้ อีกทั้งทางรัฐบาลก็จะเข้มงวดกับเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชนที่ให้การสนับสนุน โดยจะดำเนินการไม่ละเว้น เพราะถือว่ามีส่วนร่วมและให้การสนับสนุนผู้กระทำความผิด ส่วนการตัดไฟและอินเทอร์เน็ตในครั้งนี้ ถ้ามีผลสำเร็จไปในทิศทางที่ดีก็จะนำมาถอดบทเรียนว่าความสำเร็จอยู่ที่อะไรบ้าง และจะนำไปปรับใช้ต่อไป

 

ส่วนการย้ายถิ่นฐานของขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาบริเวณฝั่งตรงข้ามปอยเปต ประเทศกัมพูชา ทางการไทยก็จะมีการติดตามในลักษณะเชิงรุกทางด้านข้อมูลข่าวสาร และหามาตรการป้องกัน รวมทั้งประสานกับประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย

ส่วนกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มีข้อมูลว่า ยังมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีกหลายจุดในพื้นที่ชายแดนมีการลักลอบจ่ายไฟ นายภูมิธรรม ระบุว่า ถ้าหากมีข้อมูลก็ขอให้แจ้ง อย่าทำเพียงคาดการณ์ รัฐบาลพร้อมปฏิบัติและรีบดำเนินการ ซึ่งทั้งหมดที่ผ่านมา มาจากการตรวจสอบของรัฐบาล หากพบความผิดปกติจากจุดไหนก็จะเร่งดำเนินการในจุดนั้นก่อน รวมถึงการตรวจสอบชายแดนด้วย

สำหรับกระแสข่าวหลังจากเปิดปฏิบัติการตัดไฟอินเทอร์เน็ตน้ำมัน ทำให้ประชาชนเมียนมาได้รับความเดือดร้อน และมีปฏิกิริยากับประชาชนชาวไทย นายภูมิธรรม ยืนยันว่า เบื้องต้นจากข่าวสารไม่พบว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าว และพบว่ายังคงมีการค้าขายระหว่างประเทศตามปกติ โดยประชาชนชาวเมียนมายังเดินทางเข้ามาซื้อสินค้าในประเทศไทยตามแนวชายแดนต่างๆ ทั้งนี้ขอให้มั่นใจว่าการปฏิบัติของรัฐบาลจะสามารถดูแลความปลอดภัย และความเป็นอยู่ของประชาชนได้เป็นอย่างดี