‘สี จิ้นผิง’ ชม ไทยตัดวงจร ‘แก๊งคอลเซนเตอร์’ พร้อมหนุนความร่วมมือทุกระดับ

‘สี จิ้นผิง’ ชม ไทยตัดวงจร ‘แก๊งคอลเซนเตอร์’ พร้อมหนุนความร่วมมือทุกระดับ

“แพทองธาร” สวัสดีปีใหม่จีน ต่อ “สี จิ้นผิง” พร้อมหนุนความร่วมมือไทยทุกระดับ ปธน.จีน ชมไทย ตัดไฟฟ้า - เน็ต - น้ำมัน ตัดวงจรอาชญากรรม แก๊งคอลเซนเตอร์ ย้ำ บังคับใช้กฎหมายดูแลผลประโยชน์ประชาชน 2 ประเทศ

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าวันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 10.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นกรุงปักกิ่ง) ที่มหาศาลาประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าเยี่ยมคารวะนายสี จิ้นผิง (H.E. Xi Jinping) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 5 - 8 กุมภาพันธ์ 2568  โดยนายกรัฐมนตรีกล่าว สวัสดีปีใหม่จีน และยินดีที่ได้มาเยือนจีนในปี 2568 ซึ่งเป็นปีที่พิเศษครบรอบ 50 ปีของความสัมพันธ์ไทย - จีน

โดยในปัจจุบัน จีนถือเป็นหุ้นส่วนสำคัญทางเศรษฐกิจของไทย และเป็นประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 อีกทั้งจีนยังเข้ามาเป็น นักลงทุนอันดับต้นๆ ของไทยต่อเนื่องหลายปี มูลค่ากว่าแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนให้เห็นว่า ไทย - จีน  มีมิติทางความสัมพันธ์เป็นพิเศษ ทั้งนี้ทั้งสองฝ่ายจะร่วมส่งต่อความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันต่อไปอีก 50 ปีข้างหน้า เพื่อสานต่อความร่วมมือไปยังคนรุ่นต่อไป  

ในโอกาสนี้ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าว ถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และกล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 50 ปี ไทย - จีน มีหลักการ และวิสัยทัศน์ความร่วมมือในการแบ่งปันความเจริญรุ่งเรือง (shared prosperity) ซึ่งจีนยังสนับสนุนบทบาทไทยในทุกกรอบความร่วมมือทั้งระดับทวิภาคี  พหุภาคี และภูมิภาค ซึ่งยังเห็นควรขยายความร่วมมือในด้านต่างๆ ทั้งการพัฒนารถไฟความเร็วสูง เศรษฐกิจดิจิทัล เขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC  และการใช้ประโยชน์ความร่วมมือเศรษฐกิจ ไทย ลาว จีน อีกทั้งจีนยังส่งเสริม ภาคเอกชนไทยในทุกมิติ ทั้งนี้ประเทศจีนจะมีการจัดงาน “China International Import Expo” ซึ่งถือเป็นงานสำคัญของการค้าขายระหว่างกัน ซึ่งจีนยังสนับสนุนสินค้า และบริการที่ดีของไทย มาที่ประเทศจีนส่วนความร่วมมือในด้านยุทโธปกรณ์ทางทหารนั้น ไทย จีนมีจุดเริ่มต้นจากโครงการเรือดำน้ำอีกด้วย

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในความร่วมมือ ด้านความเชื่อมโยงระหว่างไทย - จีน โดยรัฐบาลได้มีมติคณะรัฐมนตรี (4 ก.พ.2568) ที่ผ่านมาอนุมัติดำเนินการโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา - หนองคาย  รวมทั้งจะให้การรถไฟแห่งประเทศ ยกระดับความร่วมมือด้านการรถไฟ ระหว่างไทย และจีน ให้เพิ่มเติมมากกว่าระบบรางอีกด้วย นอกจากนี้ ไทยยังมีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ โครงการ Entertainment complex และ Land bridge ซึ่งจะเป็นโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจ พร้อมเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจัดทำมาตรฐานร่วมกันในการจัดการ ณ ด่านศุลกากร เพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเข้าสินค้า โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ใช้เหลือผู้ประกอบการทั้งไทย - จีน รวมทั้งเพื่อประโยชน์ ของผู้บริโภคจีนด้วย 

“ด้านความปลอดภัยของประชาชน และนักท่องเที่ยวที่มาประเทศไทย เป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญสูงสุด ซึ่งไทยพร้อมเดินหน้าความร่วมมือกับจีนในการสกัดกั้นกระบวนการอาชญากรรมที่เดินทางผ่านประเทศไทย และจะเตือนภัย ผ่านกลไกความร่วมมือกันอย่างเป็นระบบ ทั้งนี้เป็นที่น่ายินดีที่ทั้งสองฝ่าย รวมถึงประเทศที่เกี่ยวข้องในภูมิภาค ได้มีความร่วมมือที่ใกล้ชิดในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการ call center อย่างจริงจังแล้วในปัจจุบัน” นายกฯ กล่าว

ขณะที่ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนสนับสนุนอย่างเข้มแข็งในการปราบปราม ขบวนการหลอกลวง (online scam) การลักพาตัว การค้ามนุษย์ ซึ่งถือเป็นการบั่นทอนผลประโยชน์ของประชาชนจีน เป้าหมายหลักของทั้งสองประเทศคือ การปราบปรามกิจกรรมผิดกฎหมาย ที่ผ่านมาจีนได้ร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน และท้องถิ่นสามารถปราบปรามยาเสพติด จนประสบความสำเร็จ โดยอาชญากรรมข้ามชาติ ถือเป็นความท้าทาย มีความเสี่ยงสูง และชื่นชมรัฐบาลไทยที่พยายามอย่างเต็มที่ และเป็นรูปธรรมโดยเฉพาะการตัดน้ำ ไฟ อินเทอร์เน็ต และน้ำมัน ที่จะสามารถตัดวงจรกิจกรรมที่เป็นอาชญากรรมต่างๆ ได้ และเชื่อว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปราม จะดูแลความปลอดภัย และผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยการยกระดับการบังคับใช้กฎหมายทั้งในระดับทวิภาคี และอนุภูมิภาค  

‘สี จิ้นผิง’ ชม ไทยตัดวงจร ‘แก๊งคอลเซนเตอร์’ พร้อมหนุนความร่วมมือทุกระดับ                

“ส่วนการยกระดับความร่วมมือในระดับประชาชน อาทิ​ การจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ 50 ปี  ไทย - จีน ในการอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วมาประดิษฐานที่ประเทศไทย เป็นการชั่วคราว รวมทั้งการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนการแสดงวัตถุโบราณ การส่งมอบแพนด้ายักษ์ รวมไปถึงการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างกลุ่มคนรุ่นใหม่ และการให้ทุนการศึกษา และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และ soft power เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกัน และกัน ทั้งในด้านวัฒนธรรมดั้งเดิม และสื่อวัฒนธรรมสมัยใหม่ ความร่วมมือด้านสื่อ วัฒนธรรม เพื่อส่งต่อความร่วมมือจากรุ่น สู่รุ่น เป็นสิ่งที่ทั้งสองประเทศจะได้ร่วมมือกัน” ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าว 

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความยินดีที่ไทย และจีนเห็นถึงความสำคัญของความร่วมมือในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะในสาขาแห่งอนาคต เนื่องจากคน ถือเป็นอนาคตของประเทศ และความสัมพันธ์ไทย - จีน นอกจากนี้ ไทยยังมุ่งส่งเสริม และแลกเปลี่ยนด้านการศึกษา วัฒนธรรม soft power เพื่อสร้างรากฐานที่เข้มแข็งให้แก่ประชาคมไทย - จีนที่มีอนาคตร่วมกัน

"ขณะที่ การประชุมหารือครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ยังเห็นพ้องกันที่จะสนับสนุนบทบาทของทั้งสองประเทศ ในเวทีระหว่างประเทศ อาทิ การส่งเสริมบทบาทขององค์การสหประชาชาติ UN ให้เป็นศูนย์กลางการพัฒนาความร่วมมือของโลก เพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุม การส่งเสริมการเป็นแกนกลางของอาเซียน ทั้งนี้ ประธานาธิบดีจีนยังยินดีที่ไทยได้เข้าเป็นสมาชิกประเทศ หุ้นส่วนของ BRICS พร้อมมั่นใจว่า นายกรัฐมนตรีจะประสบความสำเร็จในการเยือนนี้ และจะได้พบกับนายกรัฐมนตรีอีกครั้งที่ เมืองฮาร์บิน ในวันพรุ่งนี้   ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีได้กล่าวอวยพรให้การแข่งขันเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 ประสบความสำเร็จ" นายจิรายุ กล่าว

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์