เสร็จกี่โมง! กลุ่ม สว.สำรอง หอบเต่าปลอมขี่สเก็ต เหน็บ กกต.ถก 570 คำร้องช้า

เสร็จกี่โมง! กลุ่ม สว.สำรอง หอบเต่าปลอมขี่สเก็ต เหน็บ กกต.ถก 570 คำร้องช้า

กลุ่ม สว.สำรอง หอบ 'เต่าปลอมขี่สเก็ต' เหน็บ กกต.ทำงานเอื่อยเฉื่อยปมถก 570 คำร้องสอบเลือก สว. ถามเสร็จกี่โมง 8 เดือนแล้วยังไม่คืบหน้า แซะถ้าทำไม่ได้ โอนให้ดีเอสไอทำดีกว่า

เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กลุ่ม สว.เพื่อประชาชน ที่อยู่ในบัญชี สว.สำรอง รวมกลุ่มกันแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงความเชื่องช้า เข้าทวงถามความคืบหน้าในการตรวจสอบคำร้องให้ตรวจสอบ คุณสมบัติผู้สมัคร สว. การจัดการเลือก สว. ที่ไม่สุจริต และเที่ยงธรรม จำนวน 570 เรื่องร้องคัดค้าน เพราะเห็นว่าผ่านมา 8 เดือนแล้ว

โดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว มีชื่อในบัญชี สว.สำรอง ให้สัมภาษณ์ว่า มีการทวงถาม กกต. มาโดยตลอด ได้คำตอบแค่ว่า กำลังดำเนินการ  โดย 200 กว่าเรื่องยุติการตรวจสอบ ส่วนเรื่องที่เหลืออยู่ 300 เรื่องกับเวลาอีกแค่ 90 กว่าวัน ไม่รู้ว่า กกต. จะสามารถทำให้เกิดความสุจริต และเที่ยงธรรมได้หรือไม่ 

“เราเอาหลักฐานเป็นพยานบุคคล พยานต่างๆ มาป้อน กกต. อย่างล้นเหลือ เราได้ทวงถามมาโดยตลอด ได้คำตอบเพียงว่าอยู่ระหว่างดำเนินการจึงไม่มั่นใจว่า กกต.จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ไม่ถึง 90 วัน ดำเนินการได้อย่างสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่ เรื่องเหล่านี้ไม่น่ายืดเยื้อมาถึงตรงนี้เลย” พล.ต.ท.คำรบ กล่าว

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า เรื่องนี้ส่งผลไปถึง สว.ที่ได้รับรองในสภา เห็นได้ชัดว่า สว. ในสภาล้วนแล้วแต่ชัดเจนว่ามาจากคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลต่อการพิจารณากฎหมายและแต่งตั้งกรรมการในองค์กรอิสระในอนาคตที่อาจจะไม่เป็นอิสระอีกต่อไป ซึ่งมันจะเป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย จึงเรียกร้องให้ กกต. ได้กระวีกระวาด เพราะเราลงความเห็นกันว่า กกต. ดำเนินการล่าช้า เหมือนเต่าเดิน หาก กกต. ทำไม่ได้ ขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นคนตรวจสอบและดำเนินคดีแทน ซึ่งทางกลุ่มจะไปดีเอสไอภายในสัปดาห์หน้า

ผู้สื่อข่าวรายว่าในระหว่างการแถลงข่าว กลุ่มคณะ สว.สำรองได้นำรูปปั้นเต่าวางบนสเก็ตบอร์ด เพื่อเป็นเชิงสัญลักษณ์ว่า กกต.ทำงานด้วยความล่าช้าในการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ พร้อมชูป้ายข้อความ “ทุกคนรู้ โลกรู้ กกต.ไม่รู้” “ตรวจสอบเลือก สว.ทุจริตและเที่ยงธรรม กี่โมง”  รวมถึงข้อความ “กกต.ทำไม่ได้ ให้ DSI ทำเถอะ”  โดยทางกลุ่มสว. สำรองระบุจะให้เวลา กกต. 1 สัปดาห์ในการขัตรวจสอบ หากไม่มีการเคลื่อนไหวก็จะยกระดับการขับเคลื่อนเพิ่มขึ้น โดยหวังว่า กกต.จะรับลูกและทำการตรวจสอบ เพราะที่ผ่านมาดำเนินการค่อนข้างล่าช้า ก่อนจะร่วมกันตะโกนว่า “กกต.กี่โมง” 

ขณะเดียวกันนายพิสุทธิ์ ทรัพย์วิจิตร  สว.สำรองลำดับที่ 1 ของกลุ่ม 16 กลุ่มศิลปวัฒนธรรม  ดนตรี การแสดงและบันเทิง นักกีฬา  ที่มาร่วมร่วมยื่นคำร้อง ได้ร้องเพลง “พิสุทธิ์”ที่มีเนื้อร้องว่า “อยากจะเป็นกำลังสำคัญ ทุกคืนวันเติบโตช้าๆ ก็ไม่หวั่นบุกบั่นแม้ฟันฝ่า ตอบแทนแดนดินเมืองไทย”  และตะโกนถ้อยคำเป็นท่วงทำนองเพลงว่า “พลเมืองดี มีอุดมการณ์ ใครที่มันทำระยำไว้ ต้องสอยมันลงมาไหม สอยมันลงมา”   

นายพิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า ตนเคยยื่นคำร้องเกี่ยวกับคุณสมบัติ สว. ที่มีคนถือหุ้นสื่อ แต่ กกต. กลับยกคำร้อง จึงมีความสงสัยว่าสาเหตุที่ยกคำร้องเป็นเพราะอะไร นอกจากนี้ยังมีผู้ที่มีคุณสมบัติไม่ตรงกับความเป็นจริง

“ สว.ในสภาคนหนึ่ง เขาบอกว่านักฟุตบอลอาวุโส ผมก็ไปเปิดดูพบว่าเขาเป็นนักฟุตบอลอาวุโส ตั้งแต่อายุ 17 ปี ก็อยากให้พี่น้องสื่อมวลชนและพี่น้องที่รักทุกคนลองสืบดู ดีเอสไอครับ ช่วยพวกเราด้วยครับ ช่วยทำความจริงให้กระจ่างด้วย” นายพิสุทธิ์ กล่าว

ขณะที่นางศิริวรรณ คูอัมพร สำรอง สว.อันดับ 1 กลุ่ม 13 ผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร การพัฒนานวัตกรรม กล่าวว่า เรามาติดตามการทำงานของ กกต.เป็นครั้งที่ 5 แล้ว แต่กลับไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย ทำให้มองได้ว่า เป็นการประวิงเวลาหรือไม่ โดยเฉพาะกรณีกลุ่ม 13 ซึ่งมีผู้ร้อง 1 คนมาร้องผู้สมัครกลุ่ม 13 ทั้งหมดทั่วประเทศรวม 147 คนว่า ไม่มีคุณสมบัติที่จะลงสมัครรับเลือกสว. แล้วทางกกต.ก็ดันเรียกทั้งหมดมาให้ข้อมูลทีละคน คนละหลายรอบ อย่างเช่นตนก็ถูกเรียกมาให้ข้อมูลเรื่องนี้ถึง 3 ครั้ง แต่กลับไม่สอบถามข้อมูลคนที่ร้องว่ามีข้อมูลหลักฐานอะไรถึงบอกว่าผู้สมัครทั้ง 147 คนไม่มีคุณสมบัติ คือทางกกต.ทำงานช้ามา แต่กลับปล่อยให้คนที่มีปัญหาข้อทักท้วงเรื่องคุณสมบัติจริงๆ เข้าไปนั่งทำงานอยู่ในนั้น นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลว่า ที่เราไปร้องกรมสอบสวนคดีพิเศษ ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษก็ได้ทำการสอบสวนสรุปและส่งเรื่องมาที่กกต.แล้ว แต่ทางกกต.กลับเงียบมาก