รทสช. ยึดนายก 5 อบจ. ‘เลขาฯขิง’ซุ่ม ปิดประตูตีแมว

5 สนามที่ รทสช.เดินเกมฝ่าดงพรรคใหญ่-บ้านใหญ่ คว้าเก้าอี้ นายก อบจ.มาครองได้ แม้บางสนามต้องเปิดดีลกับพันธมิตร ก็ต้องยอม เพราะบวกลบคูณหารดูแล้ว ดีกว่าเสียเก้าอี้ให้ “คู่แข่ง-คู่แค้น” ทางการเมือง
KEY
POINTS
- สนาม อบจ. รวมไทยสร้างชาติวางยุทธศาสตร์เดินเกมเงียบ มี “เลขาฯขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการ รทสช. คอยกำกับเกมอยู่หลังฉาก โดยมี “ลูกหมี” ชุมพล จุลใส เป็นคู่หูคู่คิด
- แนวรบ จ.สุราษฎร์ธานี จ.นราธิวาส โดน พรรคกล้าธรรม เข้าตีเมือง แต่ปฏิบัติการของ "เอกนัฏ-ชุมพล" วางเกมลึกจนสามารถตรึงพื้นที่เอาไว้ได้
- ขณะที่ จ.พัทลุง จ.สมุทรสาคร ตัวแทนของ รทสช. คว้าเก้าอี้เอาไว้ได้ เช่นเดียวกับ จ.ภูเก็ต ที่แบ่งโซนแบ่งพื้นที่กับพันธมิตรจนคว้าชัย
เสร็จศึกชิงฐานการเมืองท้องถิ่น บางพรรคกวาดเก้าอี้ได้ตามเป้า บางพรรคอกหัก ชวดเก้าอี้เป้าหมายหลัก แม้จะได้รางวัลปลอบใจจากเป้ารอง แต่ต้องกลับไปทบทวนยุทธศาสตร์กันใหม่
ทว่า ม้ามืดที่วางยุทธศาสตร์เดินเกมเงียบ ๆ แต่กลับฟาดเรียบ ได้ตามเป้าที่วางเอาไว้ คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งมี “เลขาฯขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการ รทสช. คอยกำกับเกมอยู่หลังฉาก โดยมี “ลูกหมี” ชุมพล จุลใส เป็นคู่หูคู่คิด
ถือเป็นผลงานของ “เอกนัฏ-ชุมพล” ที่พาทีม รทสช. เข้าวินนายก อบจ. รวม 5 จังหวัด
โดยเฉพาะ จ.สุราษฎร์ธานี “ป้าโส” โสภา กาญจนะ ภรรยา ชุมพล กาญจนะ หัวหมู่เมืองร้อยเกาะ คว้าชัยเหนือ “กำนันศักดิ์” พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว
หากย้อนไปในช่วงการเลือกตั้งปี 2566 ทั้ง “ชุมพล-พงษ์ศักดิ์” ต่างมีกองกำลังของตัวเองใน จ.สุราษฎร์ธานี แม้ลึก ๆ ต่างก็มีอาณาจักรของตัวเอง แต่เมื่อมาอยู่สังกัด รทสช. ก็จำใจต้องแบ่งพื้นที่กันดูแล
กระทั่ง “ชุมพล-พงษ์ศักดิ์” ได้เดินมาถึงจุดแตกหักอีกครั้ง ก่อนที่ “พงษ์ศักดิ์” จะขอโบกมือลาก รทสช. เข้าสังกัดค่าย “กล้าธรรม” ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ด้วยการส่ง “อนงค์นาถ จ่าแก้ว” ไปนั่งเก้าอี้เลขาฯ “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” รมว.เกษตรและสหกรณ์
เมื่อถึงคราเลือกตั้งนายก อบจ. ระหว่าง “โสภา-กำนันศักดิ์” จึงต้องเปิดศึกระหว่าง “รทสช.” และ “กล้าธรรม” ไปโดยปริยาย เพียงแต่ “แกนนำ” ทั้งสองพรรคทั้ง “เอกนัฏ” และ “ธรรมนัส” ต่างเลือกบัญชาเกมอยู่หลังฉาก
ชัยชนะของ “โสภา” จึงเป็นชัยชนะของ “รทสช.” ที่มีเหนือ “กล้าธรรม” เมื่อ “กำนันศักดิ์” พ่ายสนามนายก อบจ. การรุกคืบพื้นที่ภาคใต้ของ “ธรรมนัส” ยิ่งลำบากมากขึ้น
เช่นเดียวกับ จ.นราธิวาส แชมป์เก่าจอมเก๋า “กูเซ็ง ยาวอหะซัน” หน้าฉากมีทีมงานของพรรคประชาชาติ ให้การสนับสนุน ผนึกกับกองกำลังหลังฉากจาก รทสช. ซึ่งมีลูกชาย “วัชระ ยาวอหะซัน” สส. รทสช. คอยประสาน เอาชนะ “อับดุลลักษณ์ สะอิ” ซึ่งมีสองผู้ยิ่งใหญ่ “ธรรมนัส” และ “ชาดา ไทยเศรษฐ์” จากพรรคภูมิใจไทย ให้การสนับสนุน
ว่ากันว่า “ชาดา” เคยให้คำมั่นกับ “วัชระ” ว่าจะไม่เข้าไปยุ่งในพื้นที่ แต่กลับมีคำขู่จาก “บิ๊กเนม” หากไม่ช่วยจะดูด สส.ภูมิใจไทย จ.นราธิวาส เข้าสังกัด ทำให้ “ชาดา” จำเป็นต้องผิดสัญญา
โดยเป็นรู้กันว่า จ.นราธิวาส เป็นเป้าหมายหลักของ “กล้าธรรม” ที่ต้องการยึดพื้นที่มาให้ได้ เนื่องมี “บีล่า” สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ และ อามินทร์ มะยูโซ๊ะ เป็น สส.สังกัดพรรคกล้าธรรม ตรึงพื้นที่อยู่
ทว่า การพ่ายแพ้ให้กับ “กูเซ็ง” นอกจากจะยึดครองพื้นที่ไม่ได้แล้ว ยังเป็นการส่งให้ “กูเซ็ง” จับมือกับ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานสภาฯ สถานการณ์นี้ อาจทำให้การชิงเก้าอี้ สส. ของ “สัมพันธ์-อามินทร์” ยากขึ้นอีกด้วย
จ.พัทลุง บ้านใหญ่ “ธรรมเพชร” วิสุทธิ์ ธรรมเพชร รักษาแชมป์เอาไว้ได้ แม้จะชนกับ “สาโรจน์ สามารถ” จากค่ายสีน้ำเงิน โดยมีดาวดังอย่าง “เดอะมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไปช่วยปราศรัยช่วงโค้งสุดท้าย
ขณะที่ “วิสุทธิ์” ได้แรงหนุนจาก “เอกนัฏ” ในวันสุดท้ายของการหาเสียง ขึ้นเวทีปราศรัยเดี่ยว แต่พกพาทีมงานมาคอยเป็นแบ็คอัพจนพา “วิสุทธิ์” เข้าวินม้วนเดียวจบ
จ.ภูเก็ต ว่ากันว่า “เรวัต อารีรอบ” มีดีลระหว่าง รทสช. และ ปชป. ไม่ส่งคนลงแข่งเพื่อตัดแต้มกันเอง ส่งเจ้าตัวเข้าวินแบบนอนมา แม้สนาม สส. จะเป็นของขุนพลสีส้มทั้งหมดก็ตาม
จ.สมุทรสงคราม “เจษฎา ญาณประภาศิริ” มีเครือข่าย “บ้านใหญ่รอดรัศมี” โดยมี เจ๊โอ๋ “รังสิมา รอดรัศมี” ทีม รทสช. ให้การสนับสนุนอย่างเป็นทางการ แม้จะมี “มือมืด” หวังจะเคลมผลงาน แต่งานนี้ “รังสิมา”ออกแรงหนัก จนมือมืดหลบฉาก ไม่กล้าออกหน้ามาเคลม
ทั้งหมดคือ 5 สนามที่ รทสช.เดินเกมฝ่าดงพรรคใหญ่-บ้านใหญ่ คว้าเก้าอี้ นายก อบจ.มาครองได้ แม้บางสนามต้องเปิดดีลกับพันธมิตร ก็ต้องยอม เพราะบวกลบคูณหารดูแล้ว ดีกว่าเสียเก้าอี้ให้ “คู่แข่ง-คู่แค้น” ทางการเมือง