'แกนนำแดง' ประเมินผลเลือกตั้ง อบจ. 'ส้ม' กลับเป็นแดง - ยืนหนึ่งเลือกตั้งใหญ่

"วรชัย-ก่อแก้ว" ประเมินผลเลือกตั้ง อบจ. "ส้ม" กลับใจเป็น "แดง" เชื่อโยง "พท." ฟื้นความเชื่อมั่น หวังเป็นเบอร์หนึ่งเลือกตั้งระดับชาติรอบหน้า
นายวรชัย เหมะ อดีตสส.สมุทรปราการ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ชนะเลือกตั้ง นายก อบจ.เชียงใหม่ และกลับมาเป็น นายกอบจ.สมัยที่ 2 ว่า พื้นที่ จ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เดินสายชูนโยบายหลักของพรรค ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย และเดินหาเสียง เพื่อทำความเข้าใจประชาชนให้เห็นถึงการทำงานของรัฐบาลจะสนับสนุนชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ขณะที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ลงมาช่วยหาเสียงด้วย ประกอบกับนายพิชัย ได้ทำงานจนประชาชนยอมรับทำให้ได้รับชัยชนะอีกครั้ง
"การเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมาใน จ.เชียงใหม่ ที่แดงกลายเป็นส้ม พรรคเพื่อไทยได้ 2 เขต พรรคประชาชนได้ 7 เขต วันนั้นความเชื่อมั่นต่อพรรคเพื่อไทยลดทอนลงไปเยอะ แต่การเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งนี้ เราทำงานกันอย่างหนัก ประชาชนเริ่มเข้าใจหลักการทำงานของพรรคเพื่อไทยจนทำให้กลับมาเป็นสีแดงเหมือนเดิม" นายวรชัย กล่าว
นายวรชัย กล่าวด้วยว่า สำหรับเวลาที่เหลืออีก 2 ปี ก่อนจะเลือกตั้งใหญ่ มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยยจะกลับมาเป็นอันดับหนึ่งแน่นอน แดงที่เปลี่ยนไปเลือกส้มจะกลับมาเป็นแดงเหมือนเดิม
ขณะที่นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวถึงผลการเลือกตั้ง อบจ. ว่า ในการเลือกตั้ง อบจ. เมื่อ 1 ก.พ. พรรคเพื่อไทย ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง 16 จังหวัด และคว้าชัยชนะได้ถึง 10 จังหวัด ถือว่าเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะได้ครึ่งหนึ่ง ทั้งนี้หากรวมกับผลการเลือกตั้งท้องถิ่นก่อนหน้านี้ ที่พรรคเพื่อไทยชนะ เช่น จ.อุบลราชธานี จ.อุดรธานี จ.ยโสธร จ.พะเยา จ.สุโขทัย ทำให้มีทีม อบจ. เพื่อไทย เกิน 17 ขังหวัด แต่ยังไม่รวมกลุ่มที่ลงสมัครในนามอิสระ ซึ่งสามารถทำงานประสานกันได้ ทั้งนี้ถือว่าน่าพอใจ
"เราคือพรรคการเมืองที่มี ทีม อบจ. อย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมามากที่สุดในประเทศไทย ต้องขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจ ส่วนพื้นที่เลือกตั้งที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้ ผมยืนยันแทนผู้สมัครทุกคนว่า เราจะยังคงทำงานหนักต่อไป ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งหรือไม่ก็ตาม เพื่อให้กลับมาเป็นตัวเลือกที่ประชาชนไว้วางใจที่สุด ในการเลือกตั้งครั้งหน้า" นายก่อแก้ว กล่าว
นายก่อแก้ว กล่าวด้วยว่า พรรคเพื่อไทยยังคงเชื่อมั่นในการตัดสินใจของประชาชน ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะในนามไทยรักไทย พลังประชาชน หรือเพื่อไทย พรรคยึดมั่นว่า การเลือกตั้ง คือหัวใจสำคัญของระบอบประชาธิปไตย และเดินหน้าแข่งขันภายใต้กติกาที่เป็นธรรม และหากจะแพ้ ขอให้เป็นไปตามกติกาของประชาธิปไตย.







