'อุปกิต' แห้ว! ศาลยกฟ้อง 'โรม' ปมเรียกค่าเสียหายคดีหมิ่น 100 ล. อุบฟ้องกลับ

'อุปกิต' แห้ว! ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง 'รังสิมันต์ โรม' ปมถูกกล่าวหาหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท เจ้าตัวยังอุบฟ้องกลับหรือไม่ ขอโฟกัสเรื่อง 'แก๊งคอลเซ็นเตอร์' ก่อน
เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2568 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) และนายเดชา ยิ้มอำนวย ทนายความ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภายหลังเข้าฟังคำพิพากษาของศาลที่นายอุปกิต ปาจรียางกูร อดีต สว. เป็นโจทก์ฟ้องในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาฯ พร้อมเรียกค่าเสียหายจำนวน 100 ล้านบาท
โดยศาลใช้เวลาอ่านคำพิพากษาประมาณ 40 นาที ก่อนจะยกฟ้อง นายรังสิมันต์
นายรังสิมันต์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลมีคำพิพากษาว่า เป็นข่าวดีของตนที่ศาลพิพากษายกฟ้อง ยืนยันว่าในคำพิพากษาข้อเท็จจริงที่ตนได้พูดออกไปเป็นไปตามสำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถือว่าหลังจากนี้คดีความที่เกี่ยวข้องกับนายอุปกิตถือว่าจบไปอีกเรื่อง แต่จะต้องดูต่อไปว่าเมื่อคำพิพากษาออกมาแบบนี้นายอุปกิตจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่
เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะให้ทนายความส่วนตัว ยื่นฟ้องนายอุปกิตหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่คิดถึงเรื่องนั้น แต่เบื้องต้นคดีที่เกี่ยวข้องกับนายอุปกิตยังมีอยู่อีก 1 คดีที่จะนัดสืบพยานในช่วงเดือน เม.ย. ต้องรอดูว่าจะออกมาในรูปแบบไหนและยังไม่ตัดสินใจเรื่องนี้เพราะอยากโฟกัสกับเรื่องที่เป็นปัญหาของพี่น้องประชาชนจริง ๆ อย่างการระบาดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์มากกว่า อยากฝากสื่อมวลชนให้ติดตามประเด็นนี้อย่าให้เงียบหายไปเหมือนอีกหลาย ๆ เรื่อง เพราะถ้าเรื่องนี้เงียบหายไปก็เป็นปัญหาสังคมที่คาราคาซังจะเหมือนกับปัญหาอื่น ๆ ในประเทศไทยที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข
ขณะที่นายเดชา กล่าวว่า เชื่อว่าหลังจากนี้การฟ้องคดีหมิ่นต่าง ๆ ถึงแม้จะยังไม่มีการแก้พิจารณาความอาญาให้ศาลพิจารณาคดี แต่ถ้าศาลยึดจากในคำพิพากษาจะออกมาแนวเดียวกันว่าการเป็นบุคคลสาธารณะที่ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ก็จะทำให้บ้านเมืองดีขึ้น และในอนาคตถ้าจะมีการฟ้องหมิ่นประมาทผู้ที่ต้องการจะฟ้องจะต้องคิดให้ดีว่าเป็นบุคคลที่ประชาชนหรือบุคคลทั่วไปสามารถตรวจสอบได้หรือไม่ และการทำหน้าที่ของนักการเมืองซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะ มองว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะต้องคำนึงถึงจริยธรรมของตนเองมากขึ้น