'กมธ.มั่นคง' จ่อลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก 16-17ก.พ. ติดตามการตัดไฟ แก๊งคอลฯ

'กมธ.มั่นคง' จ่อลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก 16-17ก.พ.  ติดตามการตัดไฟ แก๊งคอลฯ

ประธาน "กมธ.มั่นคง" รับร้องทุกข์ "ประชาชน" ถูกแก๊งคอลฯ หลอกสูญเงิน คาดมีมูลค่าเสียหาย แสนล้านบาท จ่อลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก กลาง ก.พ. ติดตามตัดไฟแก๊งคอลฯ

ที่รัฐภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ฐานะ ประธาน (กมธ.มั่นคง) คณะกรรมาธิการ ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือร้องเรียนจากนายพงษ์ประพันธ์ นิตยารัมภ์พงศ์ ตัวแทนประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากการถูกหลอกโอนเงินโดยแก๊งคอลเซนเตอร์ โดยแจ้งความดำเนินคดีแล้วไม่คืบหน้า  

โดยนายรังสิมันต์ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจากที่รับทราบ คาดว่าจะมีความเสียหายของประชาชนอยู่ที่ 7หมื่นล้านบาท แต่อาจมีตัวเลขจริงที่ทะลุหลักแสนล้านบาท ดังนั้นเรื่องดังกล่าวถือเป็นภัยคุกคามที่ต้องมีมาตรการป้องกันโดยหลายหน่วยงานต้องร่วมกัน เช่น ธนาคารที่ต้องมีมาตรการป้องกันมิจฉาชีพ การปราบซิมม้า ที่ต้องนำไปสู่การลงโทษผู้กระทำผิด 

เมื่อถามว่าตอนนี้ตำรวจร่วมมือกับฝ่ายความมั่นคงจีนเพื่อปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ คิดว่าจะสามารถจัดการได้หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าประเทศไทยโดยลำพังสามารถจัดการได้ แต่ถ้ามีความร่วมมือกับประเทศจีน การแก้ปัญหาจะชัดเจน

"ยืนยันว่าแก๊งคอลเซนเตอร์ ไม่ได้ตั้งอยู่โดดๆเพราะเขาคือมนุษย์ที่ต้องกินต้องใช้ มีทั้งความบันเทิง อาหารปัจจัย 4 สิ่งเหล่านี้ก็มาจากประเทศไทย เมื่อเป็นแบบนี้หลายภาคส่วนในประเทศสามารถจัดการได้เลย แต่ไม่เข้าใจว่าหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่โดยตรงรออะไร จึงคิดว่าเราเริ่มตัดไฟมีส่วนในการที่จะทำให้เรื่องนี้คลี่คลายมากขึ้นอย่างไรก็ตามวันที่ 16-17 ก.พ.นี้ กมธ.ฯ จะลงพื้นที่อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อติดตามเรื่องดังกล่าว" นายรังสิมันต์ กล่าว