'นันทนา' ซัด 'รัฐบาล' ไร้เดียงสา แก้ปัญหาฝุ่นพิษล้มเหลว

ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจา ซึ่งเสนอโดย  น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. เพื่อส่งข้อเสนอแนะต่อการแก้ปัญหาฝุ่น พีเอ็ม 2.5 ไปยัง คณะรัฐมนตรี (ครม.)

โดย น.ส.นันทนา อภิปรายเสนอญัตติตอนหนึ่งว่า ดัชนีวัดค่าอากาศ ก็รายงานว่าคน กทม.กำลังจมอยู่กับ ฝุ่น PM2.5 สูงเกือบ 200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทั้งที่มาตราฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัม  ทั้งนี้คุณภาพชีวิตของคนไทยต้องเผชิญชะตากรรม ด้วยฝีมือการบริหารประเทศของรัฐบาลที่ไร้เดียงสา ในปีที่ผ่านมามีคนไทยป่วยเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศถึง 2.1 ล้านคน ส่วนปีนี้ยังไม่ครบเดือนศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมิณค่าเสียหายจากฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท และมีผู้ป่วยจากฝุ่นมฤตยูนี้รวม 1.44 แสนราย

"เราปล่อยให้รัฐบาลแสดงฝีมือในการบริหารประเทศแบบนี้มาเกือบ 2ปี นายกฯทั้ง 2 ท่านไม่มีแผนแม่บทในการจัดการสภาพอากาศอย่างชัดเจน ไม่มีมาตรการที่เป็นรูปธรรม ไม่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด มีแต่ออกมาพูดว่า เรื่องฝุ่นเป็นวาระแห่งชาติ ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นวาระของชาตินี้หรือชาติหน้า” น.ส.นันทนา อภิปราย

น.ส.นันทนา กล่าวต่อว่าสำหรับมาตรการของรัฐบาลที่ดำเนินการเป็นมาตรการฉาบฉวย ทั้ง  มาตรการเวิร์คฟอร์มโฮม ขึ้นรถสาธารณะฟรี สำหรับมาตรการที่ต้องการเสนอ คือ  การคุ้มเข้มเผาผลิตผลของเกษตรกร  โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องดำเนินการขึ้นบัญชีดำเกษตรกรที่เผา  รวมถึงกระทรวงอุตสาหกรรม ต้องควบคุมการหีบอ้อย การผลิตอาหารสัตว์จากข้าวโพดไม่ให้มีการเผาในทุกกรณี หากโรงงานไม่ปฏิบัติตามก็ดำเนินการตามกฎหมาย  กระทรวงพาณิชย์ ควบคุมการซื้อขายผลิตผลทางการเกษตรต้องไม่มาจากการเผาทุกรณี รวมทั้งการซื้อโภคภัณฑ์จากต่างประเทศ ต้องตรวจสอบย้อนหลังได้ว่าไม่มีที่มาจากการเผาใดๆ กระทรวงมหาดไทยต้องใช้กลไกการปกครองส่วนภูมิภาคตรวจจับการเผาทุกกรณีและลงโทษทางกฎหมายสูงสุดกระทรวงการต่างประเทศต้องเจรจากับประเทศในอาเซียนให้ปฏิบัติตามข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน 

จากนั้นเปิดให้สมาชิกอภิปรายแสดงความคิดเห็น ซึ่ง สว.ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับญัตตินี้ และต้องการให้รัฐบาลแก้ปัญหาโดยด่วน เพราะถือว่ามีผลกระทบต่อประชาชนอย่างมาก เช่น  นางประทุม วงศ์สวัสดิ์ สว. กลุ่มท่องเที่ยว  อภิปรายว่าปัญหาฝุ่นทำลายการท่องเที่ยวของตนด้วย ตอนนี้คู่แข่งเขาบอกว่ามาเมืองไทยจะเป็นมะเร็งปอด ดังนั้นสิ่งที่จะเสนอคือ การแก้ปัญหารถโดยสารประจำทางควันดำ ทั้งนี้รถเมล์ขนส่งมวลชนกรุงเทพ ตอนนี้มีทั้งหมดเกือบ 3,000 คัน แต่คันที่มีปัญหาคือสีส้มกับสีแดงครีม ทุกสาย 1,560 คัน ตอนนี้วิ่งไปทุกที่ทุกเขตของ กทม.  ขอแจ้งไปยังผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเราแก้ปัญหาให้ถูกที่คัน ทำให้เป็นรูปธรรม รถควันดำกำจัดได้ก็ให้กำจัด ยกเลิกได้ก็ให้ยกเลิก เพราะอายุแต่ละคันไม่ต่ำกว่า 30 ปี ควรปลดประจำการได้แล้ว.