'มาริษ' แจง สว. 'รัฐบาล' ยังไม่ตั้ง 'คณะเจทีซี' ชุดใหม่ เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

"รมว.ต่างประเทศ" ตอบกระทู้ สว. ปมแนวทางรัฐบาล แก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อน ระบุ "รัฐบาล" ยังไม่ตั้งคณะเจทีซี เจรจา "กัมพูชา"
ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ช่วงกระทู้ถาม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ ตอบกระทู้เรื่องการเจรจาผลประโยชน์ร่วมกันในเขตพื้นที่ที่อ้างสิทธิทับซ้อน ไทย-กัมพูชา ตั้งถามโดย นายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา สว. ซึ่งตั้งคำถามต่อประเด็นกรอบการเจรจาที่หลายฝ่ายมองว่าการใช้เอ็นโอยู44 นั้นอาจทำให้ประเทศไทยเสียยเปรียบกับประเทศกัมพูชาอีกทั้งล่าสุดยังไม่มีความชัดเจนต่อการแกัปัญหาที่กัมพูชาสร้างเขื่อนกันน้ำรุกล้ำเขตแดน และตอบกระทู้ถามของ น.ส.รัชนีกร ทองทิพย์ สว. ที่ตั้งประเด็น เรื่องการแก้ปัญหาข้อพิพาทแนวเขตอธิปไตยระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งทางบกและทางทะเล โดยเฉพาะการล้ำเขตแดนไทย ในพื้นที่เกาะกูด
โดยนายมาริษ ชี้แจงว่าในการเจรจากับประเทศกัมพูชาในพื้นที่ทับซ้อนนั้นจะยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และจะเป็นไปตามกรอบที่เอ็มโอยู 2544 กำหนดไว้ อย่างไรก็ดีปัจจุบันรัฐบาลยังไม่ได้ดำเนินการใดในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ไทย-กัมพูชา และยังไม่ได้จัดตั้งคณะกรรมการร่วมเทคนิคไทยกัมพูชา (JTC) ชุดใหม่ เพื่อเป็นกลไกหลักในการเจรจากับกัมพูชาโดยระหว่างที่ยังไม่มีการแต่งตั้งกลไกดังกล่าวรัฐบาลพร้อมรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน และจะนำข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะจาก สว. ไปประมวลรวบรวมประกอบการกำหนดท่าทีของไทยในการเจรจา เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชน
นายมาริษ ชี้แจงด้วยว่าสำหรัแนวทางที่รัฐบาลจะยึดหลัก ปฏิบัติ 3 ข้อ คือ 1. ประชาชนต้องยอมรับได้ 2. รัฐสภาต้องสามารถให้ความเห็นชอบ 3. เป็นไปตามหลักกฏหมายระหว่างประเทศและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ยืนยันรัฐบาลจะไม่ดำเนินการใดโดยที่รัฐสภาไม่เห็นชอบ และจะเจรจาบนพื้นฐานตามที่ได้แจ้งไว้
“สำหรับ เอ็มโอยู44 เป็นเพียงกลไกที่กำหนดกรอบการเจรจาระหว่างประเทศระหว่างไทยและกัมพูชา ไม่ได้การยอมรับการอ้างสิทธิ์ของกัมพูชาแต่อย่างใด และไม่ส่งผลต่ออธิปไตยของประเทศไทยเหนือเกาะกูด เนื่องจากไทยมีอำนาจในอธิปไตยเหนือเกาะกูดโดยสมบูรณ์ ขณะที่สาระสำคัญขอเอ็มโอยู 44 กำหนดให้การเจรจาแบ่งเขตและพัฒนาพื้นที่ควบคู่กันโดยแบ่งแยกไม่ได้ หักการเจรจาบรรลุข้อตกลงร่วมกัน รัฐบาลจะเสนอให้รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบข้อตกลงดังกล่าวก่อนที่จะดำเนินการให้มีผลผูกพัน” นายมาริษ ชี้แจง
นายมาริษ ชี้แจงด้วยว่าในวันที่ 28 ม.ค. นี้ กมธ.ของรัฐสภา และรัฐบาล จะจัดเวทีเสวนาเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ส่ววนประเด็นเร่องเขตแดนนั้นรัฐบาล เน้นการดำเนินนโยบายด้านเขตแดนยั่งยืนเพื่อสร้างความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน มุ่งให้การเจรจาสำรวจและจัดทำเขตแดนเกิดผลสำเร็จ ขณะเดียวกันการพัฒนาดังกล่าวต้องไม่ทำให้ไทยเสียสิทธิ์ใดๆ ตามกฎหมายระหว่างประเทศ.