'กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค' แนะให้แก้กฎหมาย เอาผิด แอพฯ กู้เงินเถื่อน

"กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค" เรียกหน่วยงานแจง ปมแอพฯ กู้เงินเถื่อน พบ "ธปท." ไม่ได้ควบคุม แนะ "ประชาชน" ฟ้อง "สคบ." โดยตรง พร้อมเสนอให้แก้กฎหมายควบคุม-เอาผิด
ที่รัฐสภา นายกันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์ สส.กทม. พรรคประชาชน ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมกมธ.ฯ เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงกรณีแอพพลิเคชันกู้เงินบนมือถือ ว่า มี จากที่กมธ.ได้พูดคุย พบว่า 1 เดือนที่ผ่านมา มีผู้เสียหายประมาณ 44 ราย ที่มีปัญหาการกู้เงินจากแอพพลิเคชันสินเชื่อความสุข จึงได้มีการสอบถามอีก 6 หน่วยงานว่าจะดำเนินการอย่างไรกับเรื่องดังกล่าว เช่น จะมีการระงับการใช้งาน หรือ ลบแอพพลิเคชันต่างๆ ที่อาจมีการเกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะโดยตัวแทนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า การขอสินเชื่อมูลค่า 1,000-2,000 บาท ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของ ธปท. ดังนั้นการทำแอพพลิเคชันอาจจะมีช่องทางมาทำให้ประชาชนเดือดร้อนได้ ทำให้ต้องหารือถึงการแก้กฎหมาย
นายกันต์พงษ์ กล่าวว่า ขณะที่การกู้เงิน หากกู้เงิน 10,000 บาท เขาจะหักดอกเบี้ยไป 40% ซึ่งถือว่าผิดพระราชกำหนด( พ.ร.ก.) การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกง พ.ศ. 2527 แต่ตอนนี้อยู่ในชั้นศาลเรียบร้อยแล้ว
นายกันต์พงษ์ กล่าวด้วยว่า กมธ.ได้ตั้งคำถามกับตัวแทนของบริษัท โพสเซฟี่ กรุ๊ป จำกัด ถึงการเยียวยา โดยได้คำตอบที่ไม่ตรงประเด็น คือ บริษัทจะขยายระยะเวลา การรับประกันเครื่องให้มากขึ้น หรือหากหน้าจอแตกเขาก็จะดูแลประมาณ 1 ปี ดังนั้น ขอย้ำว่าหากมีผู้ใดได้รับความเสียหายขอให้เข้าไปร้องเรียนต่อ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)โดยตรง เนื่องจากบริษัท โพสเซฟี่ กรุ๊ป จำกัด จะพิจารณาเยียวยาเป็นรายกรณี
"กมธ.ได้หารือว่าในการแก้ปัญหาระยะกลางต้องทำกฎหมายเพื่อตรวจสอบแอพพลิเคชันต่างๆ และสำหรับการแก้ปัญหาระยะยาว ต้องทำให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้อย่างถูกกฎหมายมากขึ้น" นายกันต์พงษ์ กล่าว







