รัฐบาลย้อมสี ‘ธุรกิจมืด’? สภาฯ ระแวง หมกเม็ด‘ทุนเทา’

รัฐบาลย้อมสี ‘ธุรกิจมืด’? สภาฯ ระแวง หมกเม็ด‘ทุนเทา’

แนวคิดของ "รัฐบาล" ที่จะดันพนันออนไลน์ ให้ถูกกฎหมาย และทำ "เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์"ขณะนี้แผนปฏิบัติยังไม่ชัด การตรวจสอบ ผ่าน กมธ.สภา คือการส่งสัญญาณที่ไม่ยอมปล่อยให้ ทุนเทา สวมรอย

KEY

POINTS

Key Point :

  • แนวคิดของ "รัฐบาล-แพทองธาร" ที่จะทำธุรกิจผิดกฎหมายให้ถูกกฎหมาย เช่น "พนันออนไลน์" ได้อ้างความสำคัญคือ การสร้างแหล่งรายได้ใหม่
  • โดยรวมถึงการเดินหน้าทำ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ร่วมกับ กาสิโน
  • แม้หลายอย่างจะเป็นแนวคิดที่ยังไม่มีการทำเป็นรูปธรรม แต่ ฝั่งสังคม-สภาฯ มองว่าหากทำไม่รอบคอบอาจปล่อยทุนเทาแอบแฝงหาประโยชน์
  • ล่าสุด กมธ.ปกครอง สภาฯ ได้เชิญหน่วยงานฝ่ายปฏิบัติมาชี้แจงการทำงานต่อแนวคิดของ "รัฐบาล"
  • โดยผลการชี้แจงยังไม่มี "แพลน" เป็นรูปธรรม แต่มีธงว่า "จะทำ" ปักไว้อย่างแข็งแกร่ง
  • การตรวจสอบ "รัฐบาล" ผ่าน "กมธ.ของสภาฯ" จึงเป็นการส่งสัญญาณเชิงรุก ที่ "ผู้แทนราษฎร" จะไม่ปล่อยผ่าน "โครงการ" ที่อาจมีทุนเทา แฝงเบื้องหลัง

ไม่ว่า “รัฐบาล” จะอ้างถึงแผนการสร้างรายได้ใหม่ให้กับประเทศ ผ่านการดึง “ธุรกิจใต้ดิน” ขึ้นมา “บนดิน” ทั้ง พนันออนไลน์ที่ผิดกฎหมาย รวมถึงการสร้างอาณาจักรเพื่อทำ “สถานบันเทิงครบวงจร” หรือ "เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทั้งหมดเต็มไปด้วยความหวาดระแวง

ทั้งจากภาคประชาสังคม ที่กังวลว่า การปลดล็อก “ธุรกิจอบายมุข” นี้จะทำให้สังคมล่มสลาย กลายเป็น “ผีพนัน” ที่ทำให้ประเทศชาติล่มจมในตอนท้าย รวมไปถึงกลไกของ “ผู้แทนราษฎร” ในสภาฯ ที่ตั้งข้อสงสัยว่า การขับเคลื่อนนโยบายนี้ แท้จริงแล้วมีผลประโยชน์อื่น ที่ “มองไม่เห็นในตอนนี้” ซ่อนเบื้องหลังหรือไม่

รัฐบาลย้อมสี ‘ธุรกิจมืด’? สภาฯ ระแวง หมกเม็ด‘ทุนเทา’

ล่าสุด ในการตรวจสอบผ่านกลไกของ "กรรมาธิการการปกครอง” สภาผู้แทนราษฎร ที่มี “กรวีร์ ปริศนานันทกุล” สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย เป็นประธาน ตั้งประเด็นพิจารณา “นโยบายรัฐบาล” ใน 2 กรณี คือ กรณีการดึงพนันออนไลน์ ที่ผิดกฎหมาย ให้เข้าสู่ระบบที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีการจัดเก็บ “ภาษีเข้ารัฐ” และ กรณีที่เกี่ยวกับการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร หรือ “เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

ผ่านการเชิญ “ฝ่ายปฏิบัติ” ตามกลไกของกระทรวงมหาดไทย คือ กรมการปกครองที่มีอำนาจกำกับการบังคับใช้ พระราชบัญญัติการพนัน 2478 รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กระทรวงการคลัง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)

หลังการพิจารณาเรื่องนี้ “กรวีร์” ให้สัมภาษณ์ถึงการชี้แจงของตัวแทนหน่วยงาน ซึ่งสรุปแผนที่รัฐบาลจะทำ จากหน่วยงานคือ “ต้องการจะทำ” ผ่านแนวทาง “ขึ้นทะเบียน หรือออกใบอนุญาต” ให้ “พนันออนไลน์ ผิดกฎหมาย" ให้ประกอบธุรกิจอย่างถูกต้อง และเข้าสู่ระบบกำกับธุรกิจภายใต้กติกาของรัฐ แต่ไม่มีแผนที่เป็นรูปธรรมชัดเจน ในการกำกับ และควบคุม “ภัยทางสังคม” 

โดย “กรวีร์” ระบุว่า กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ยังไม่มีแผนหรือรายละเอียดที่จะดำเนินการ

แม้ว่าก่อนหน้านี้ ในผลการพิจารณาของ “ครม.” เมื่อ 13 ม.ค. ซึ่งรับทราบผลการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ ของ “กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม” ที่อ้างถึงข้อมูล ของ “คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการจัดระเบียบสังคม ใน กมธ.ปกครอง” ให้แก้ไขกฎหมายพนัน 2478 โดยกำหนดเพิ่มเติมให้มีการจัดให้มีการเล่นหรือพนันผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ ผ่านระบบอนุญาต และต้องป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวขนเข้ามาเล่นหรือพนันออนไลน์ หากอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนด  

พร้อมระบุด้วยว่า การออกข้อกำหนดเพิ่มเติมนั้น เป็นอำนาจของ “รมว.มหาดไทย” ที่สามารถออกกฎกระทรวง ควบคุม ผ่านระบบอนุญาตให้การเล่นการพนันออนไลน์อยู่ในการควบคุมของรัฐ

ทว่า การชี้แจงในชั้นกรรมาธิการนั้น ตัวแทนกระทรวงมหาดไทยแจ้งต่อ “กมธ.” เพียงว่า “อยู่ในชั้นของการศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ว่าจะทำอย่างไร” ส่วนการแก้ปัญหาทางสังคม หรือ ทำให้การพนันผิดกฎหมายลดลง นั้น “กรวีร์” ระบุว่า "ทุกหน่วยงานที่มาตอบเหมือนกันหมด ว่าไม่คิดว่าจะแก้ไขปัญหาเรื่องการพนันในปัจจุบันได้”

รัฐบาลย้อมสี ‘ธุรกิจมืด’? สภาฯ ระแวง หมกเม็ด‘ทุนเทา’

อย่างไรก็ดีในความต้องการ “ทำพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย” ที่มาพร้อมกับแนวคิด “สร้างสถานบันเทิงครบวงจรร่วมกับกาสิโน” เอาจริงเคยมีความพยายาม ผลักดันมาก่อนหน้านี้ ในสมัยรัฐบาลของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” และต่อเนื่องในรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” ที่ทั้ง 2 ยุคนั้น ได้เริ่มต้นแบบแผนเดียวกัน คือ การให้สภาฯ เสนอญัตติ เพื่อนำไปสู่การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณา

ในยุคของรัฐบาลก่อนหน้า ปี 2564 มี สส.ฝั่งรัฐบาล 9 พรรค และ “เพื่อไทย-พรรคก้าวไกล” ที่เสนอญัตติให้สภาฯ พิจารณา จำนวน 12 ญัตติ โดยสาระคือ เพื่อหาทางแก้ปัญหาพนันออนไลน์ การระบาดของตู้เกมพนัน การจัดระเบียบบ่อนพนันผิดกฎหมาย รวมถึงการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรเพื่อเป็นแหล่งรายได้ใหม่จากนักท่องเที่ยว

ก่อนจะตั้ง กมธ.ขึ้นมาคณะหนึ่งให้ “อธิรัฐ รัตนเศรษฐ” เมื่อครั้งยังเป็นรมช.คมนาคม ทำหน้าที่ประธานกมธ. และเสนอรายงานให้สภาฯพิจารณา ซึ่งช่วงนั้นถูก “สว.” วิจารณ์และภาคประชาสังคมออกตัวคัดค้าน-ขวางทางไป ทำให้ “รายงานการศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร การจัดเก็บรายได้และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมาย และมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย การแพร่ระบาดของตู้เกมพนันไฟฟ้าและการพนันออนไลน์” ถูกยกขึ้นหิ้ง

แม้จะมีความพยายามในทางลับที่เดินคู่ขนานกับสภาฯ ของตัวแทน “นักธุรกิจที่ต้องการทำกาสิโน” เปิดดีลผ่าน “นักล็อบบี้ และ สส.” ในสภาฯ เพื่อต้องการให้โครงการนี้นำไปสู่การปฏิบัติ

ต่อมาในยุคของ “เศรษฐา” สภาฯ ได้พิจารณาญัตติเกี่ยวกับเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และตั้งกมธ.ขึ้นมา ให้ “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมช.คลัง ทำหน้าที่หัวโต๊ะ ก่อนศึกษาเป็นแนวทางให้สภาฯ ลงมติเห็นชอบผลการศึกษาและส่งต่อให้รัฐบาลรับไปปฏิบัติ

รัฐบาลย้อมสี ‘ธุรกิจมืด’? สภาฯ ระแวง หมกเม็ด‘ทุนเทา’

อย่างไรก็ดี ในการทำโครงการใหญ่ของรัฐบาล ถูกตั้งข้อสังเกตจาก “ฝ่ายค้าน” ด้วยเช่นกันว่า จะมีการกำกับที่ดีได้มากน้อยหรือไม่ ในภาวะที่ทุนเทาล้อมประเทศไทย และบรรยากาศของ “ธุรกิจสีเทา” ถูกตีความไปว่า “เป็นธุรกิจฟอกเงินผิดกฎหมาย”

ดังนั้น ในก้าวแรกที่ “กมธ.ปกครอง” ลุกขึ้นมาตรวจสอบ เสมือนเป็นสัญญาณที่ “สภาฯ” ไม่อาจปล่อยผ่านให้ “ทุนเทา” ที่แฝงเงาใครบางคน เข้ามาหาผลประโยชน์ได้โดยง่าย.