'ภูมิธรรม' ยัน เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ได้มติจากประชาชนแล้ว ไม่ทำซ้ำ

"ภูมิธรรม" ขอคนเห็นต่าง เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ อย่าค้าน ทำกระบวนการล่าช้า ยัน แถลงนโยบายต่อสภา ถือว่า ได้มติจากประชาชนแล้ว ไม่ต้องทำซ้ำ
เมื่อเวลา 07.45 น.วันที่ 21 ม.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวบนเวทีขณะปราศรัยหาเสียงผู้สมัครนายกอบจ.ว่า เงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 จะได้ประมาณมี.ค.-เม.ย.ว่า ไม่ทราบรายละเอียดว่านายทักษิณ พูดอย่างไร ขณะนี้เงิน 10,000 บาท เฟส 2 จะจ่ายภายใน 27 ม.ค.นี้ ประมาณ 3 ล้านคน จำนวนเงิน 3 หมื่นล้านบาท
ส่วนเฟสที่ 3 กระทรวงการคลังได้ประชุม และเตรียมที่จะประกาศ ซึ่งก็เป็นที่รับรู้กันทั่วไปว่า จะจ่ายเงินได้ประมาณไตรมาสที่ 2-3 เวลาก็ใกล้เคียงกัน ตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน โดยจะจ่ายเงินให้ประมาณ 15 ล้านคน เป็นงวดที่ขึ้นทะเบียนไว้ ยืนยันไม่ได้มีปัญหาอะไร
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนไทม์ไลน์กฎหมายเอนเตอร์
เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ว่าจะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่นั้น ไม่ทราบ เพราะจะต้องดูตามกระบวนการ ขณะนี้ผ่านมติ ครม.ไปแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร ส่วนจะมีปัญหาอะไรหรือไม่เป็นเรื่องของอนาคตที่เราไม่ทราบ และเป็นเรื่องที่เราจะทำ man-made destination เป็นการเน้นการท่องเที่ยวและมีหลายอย่างที่ครบวงจร ที่ทุกประเทศที่มีศักยภาพก็ทำ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และนำเศรษฐกิจใต้ดินขึ้นมาบนดิน ให้เราควบคุมได้ง่ายขึ้น ดีกว่าปล่อยให้มีอบายมุขทั่วเมืองเต็มไปหมด จะกลายเป็นแหล่งที่ผู้มีอิทธิพลเข้าไปหาประโยชน์ ทำให้ผลประโยชน์ที่ได้ตกอยู่กับผู้มีอิทธิพลใต้ดิน รวมถึงปัญหาทางสังคมในหลายๆเรื่อง ซึ่งเรื่องเหล่านี้ถือเป็นเรื่องนิดเดียวเมื่อเทียบกับเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ที่ถือว่าเป็นเรื่องหลัก แต่คนพูดถึงเรื่องนี้น้อย เมื่อเทียบกับกาสิโนที่มีเพียง 10% อย่างไรก็ตามแม้ว่าเราจะไม่ได้ปิดกั้นคนไทยแต่ก็หวังว่าชาวต่างชาติจะเข้ามา
ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่มีเสียงเรียกร้องจากพรรคประชาธิปัตย์ ให้มีการทำประชามตินั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า สิ่งที่วิจารณ์เรารับฟังทั้งหมด แต่ไม่อยากให้เหมือนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ใช้เวลาเนิ่นนาน นโยบายต่างๆถูกดึงให้ช้าลง เพราะทุกอย่างเป็นแพ็กเกจทั้งหมดในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา จึงอยากให้เป็นไปตามกระบวนการทางประชาธิปไตย และเมื่อจะลงมือทำก็มีความเห็นต่างๆ ละความเห็นต่างได้ แต่อย่าทำให้กระบวนการถูกดึงให้ช้าลง อยากให้กำลังใจกัน และช่วยกันทำงานดีกว่า เพราะผลที่เกิดขึ้น ตรวจสอบได้อยู่แล้ว หากมีการคัดค้าน แล้วเรื่องนี้ตกไป รัฐบาลจะต้องถอนเรื่องนี้ออกไปและทำเรื่องใหม่ ขอให้เวลากับรัฐบาล เพราะแถลงต่อรัฐสภาไปเรียบร้อยแล้ว ตามหลักประชาธิปไตย ไม่ว่าประเทศไหนก็ตามเมื่อมีการเสนอเข้ามา ก็ถือว่าเหมือนได้ประชามติมาแล้ว เพราะเป็นการเสนอนโยบายต่อสาธารณะ ประชาชนทุกคนรับรู้ ในรัฐสภามีตัวแทนประชาชนจากทั่วประเทศให้การรับรองไปแล้ว จะต้องทำประชามติอะไรอีก และขึ้นอยู่กับการตีความ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นการทำประชามติเหมือนกัน หากความต้องการไม่มีที่สิ้นสุด ประเทศจะเดินหน้ายาก