'สส.พท.' หนุน เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ คือโอกาสใหม่ของเศรษฐกิจไทย

“อัครนันท์” แนะให้ยอมรับความจริง เพื่อนบ้านมีกาสิโน ล้อมไทย ชี้เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ คือโอกาสใหม่ของเศรษฐกิจไทย
นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ฐานะอดีตกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ สภาผู้แทนราษฎร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับการผลักดันร่าง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่า ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องยอมรับความจริงเกี่ยวกับการบริหารจัดการการพนันในบริบทที่เหมาะสมและถูกต้องตามกฎหมาย เพราะปัจจุบันประเทศไทยถูกล้อมรอบด้วยคาสิโนที่ถูกกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง เมียนมา ที่มี 14 แห่ง กัมพูชา ที่มี 21 แห่ง ลาว ที่มี 4 แห่ง มาเลเซีย ที่มี 1 แห่ง รวมถึงสิงคโปร์ อีก 2 แห่ง โดยเงินจำนวนมหาศาลของคนไทยไหลออกนอกประเทศทุกปี ขณะเดียวกัน ประเทศไทยยังปล่อยให้มีบ่อนเถื่อนในพื้นที่ต่างๆ ที่ไม่มีการควบคุมดูแลอย่างมีประสิทธิภาพ
“วันนี้ถึงเวลาที่ต้องเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดบนโต๊ะ และทำให้ถูกต้อง มากกว่าการมองแค่ว่าเป็นเรื่องมอมเมาประชาชน เราต้องยอมรับว่าคาสิโนคือโอกาสทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่ปัญหาที่ต้องปิดตาไม่มอง อีกทั้งการผลักดันโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ใช่เพียงเพื่อการพนันเท่านั้น แต่เป็นการสร้างศูนย์รวมความบันเทิงและการท่องเที่ยวที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในหลายมิติ" นายยอัครนันท์ กล่าว
นายอัครนันท์ กล่าวด้วยว่าคาสิโนอย่างเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจนได้ แต่เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งยังช่วยลดปัญหาการเงินไหลออกนอกประเทศ การผลักดันโครงการนี้จะต้องมาพร้อมกับมาตรการควบคุมที่เข้มงวดเพื่อป้องกันปัญหาสังคม เช่น การติดการพนัน การฟอกเงิน และการจัดการคาสิโนผิดกฎหมาย รวมถึงต้องพัฒนาโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์โยงกับการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เช่น การจัดงานแสดงระดับโลก การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และการจัดกิจกรรมที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เพื่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจในวงกว้าง
"ประเทศไทยต้องเปิดกว้างและมองไปข้างหน้า พร้อมย้ำว่าการพัฒนาโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เป็นโอกาสสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม แต่ต้องมาพร้อมกับการบริหารจัดการที่โปร่งใส และยั่งยืนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ" นายอัครนันท์ กล่าว