บ้านใหญ่'ม่วงศิริ'ปักหลักฝั่งธนฯ 'นายใหญ่-เพื่อไทย'รุกทวงคืน กทม.

หลังจากนี้จับตาความเคลื่อนไหวของ “นายใหญ่-เพื่อไทย” จะวางเกมในสนาม กทม.อย่างไร เพื่อแก้ทาง “กระแสสีส้ม” ชิงเก้าอี้ สส. กทม. กลับมาให้ “ค่ายสีแดง”
KEY
POINTS
- ปฏิบัติการยึด“บ้านใหญ่” ของ นายใหญ่ บ้านจันทร์ส่องหล้า เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจบดีลตระกูล “ม่วงศิริ” บ้านใหญ่ฝั่งธนบุรี
- การเลือกตั้งปี 2566 ตระกูล “ม่วงศิริ” ยังอยู่ในโฟกัสของพรรคใหญ่ นอกจากพรรคพลังประชารัฐแล้ว ยังมีพรรคเพื่อไทยเปิดดีลให้ย้ายเข้าพรรคสีแดง
- มารอบนี้ "นายใหญ่" เอาจริง ดูด "ม่วงศิริ" เข้ามาปักหลักดูแลฝั่งธนบุรี เสริมแกร่งในสนามเลือกตั้งปี 2570 เพื่อสู้กับกระแสสีส้ม
ปฏิบัติการยึด“บ้านใหญ่” ของ นายใหญ่ บ้านจันทร์ส่องหล้า เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจบดีลตระกูล “ม่วงศิริ” บ้านใหญ่ฝั่งธนบุรี เปิดตัวสวมเสื้อสีแดง ย้ายซบ“พรรคเพื่อไทย” ยกครอบครัว
ตระกูล “ม่วงศิริ” มีฐานเสียงค่อนข้างเหนียวแน่น โดยเฉพาะเขตบางบอน หนองแขม บางขุนเทียน จอมทอง ทุ่งครุ ราษฎร์บูรณะ เป็นขุนพลหลักของ “พรรคประชาธิปัตย์” มาอย่างยาวนาน
หากย้อนไปในช่วงการเลือกตั้งปี 2562 ตระกูล “ม่วงศิริ” ได้รับการทาบทามจาก “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้มาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ โดยมี “เสี่ยตั้น” ณัฐพล ทีปสุวรรณ เป็นคนประสาน แต่ตระกูล “ม่วงศิริ” ปฏิเสธในนาทีสุดท้าย
การเลือกตั้งปี 2566 ตระกูล “ม่วงศิริ” ยังอยู่ในโฟกัสของพรรคใหญ่ นอกจากพรรคพลังประชารัฐแล้ว ยังมีพรรคเพื่อไทยเปิดดีลให้ย้ายเข้าพรรคสีแดง แต่มีสมาชิกพรรคเพื่อไทยสายคนเสื้อแดงขวางลำอยู่
ผนวกกับ “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รั้งให้อยู่กับ“พรรคสีฟ้า”ต่อ ทำให้ตระกูล “ม่วงศิริ”เลือกจะภักดีกับพรรคเก่าแก่อีกสมัย
การปฏิเสธพรรคพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทย ทำให้ตระกูล“ม่วงศิริ”ลาจากกับพรรคประชาธิปัตย์ แบบไม่มีหนี้บุญคุณติดค้างกันอีกต่อไป
โดย “รมต.อิ่ม” ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย แกนนำภาค กทม. “เสี่ยโฟม” พงษ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รองหัวหน้าพรรค ร่วมแถลงข่าวเปิดตัว ประกอบด้วย สากล ม่วงศิริ วณิชชา ม่วงศิริ สุวัฒน์ ม่วงศิริ สารัช ม่วงศิริ ส.ก.บางขุนเทียน ณรงค์ศักดิ์ ม่วงศิริ สก.บางบอน พรรคประชาธิปัตย์ พ่วงด้วย “รัตติกาล แก้วเกิดมี” สก.สายไหม พรรคไทยสร้างไทย
“ธีรรัตน์”เปิดใจว่า พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการของผู้แทนในแต่ละเขตเลือกตั้ง รวมทั้งท้องถิ่นด้วย ในส่วนของกรุงเทพฯ เป็นนิมิตหมายที่ดีที่จะมีสมาชิกของพรรคเพื่อไทยเพิ่มเติมเข้ามา
“เราได้บุคลากรที่มีคุณภาพ ทำงานอยู่ในพื้นที่ ได้รับการยอมรับจากพี่น้องประชาชน เคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่ง สส. สก.มาอย่างต่อเนื่อง ทำงานต่อเนื่องโดยที่พี่น้องประชาชนให้ความไว้วางใจ”
การเปิดเกมรุกสนาม กทม. ของ “นายใหญ่-เพื่อไทย” ต้องการผนึกบรรดา “บ้านใหญ่” ฐานเสียงแน่นมาขับเคลื่อนในงานพื้นที่
แม้การเลือกตั้งปี 2566 จะพ่ายให้ “กระสีส้ม” อย่างราบคาบ คว้าเก้าอี้ สส. มาได้เพียง 1 ที่นั่ง จาก 33 ที่นั่ง โดย “ธีรรัตน์” คว้าชัยได้ในเขตลาดกระบัง
ทว่า จุดอ่อนของ “กระแสสีส้ม” คือการสานต่องานในพื้นที่ โดยพรรคเพื่อไทยได้รับข้อมูลจากชาว กทม. ในหลากหลายด้าน ส่วนใหญ่มีเสียงสะท้อนถึงการทำงานของ “สส.สีส้ม” ซึ่งไม่ค่อยมีสัมพันธ์ที่ดีกับคนในพื้นที่
เหลือเวลาอีก 2 ปี ถึงจะมีการเลือกตั้งปี 2570 แต่ “นายใหญ่-เพื่อไทย” ต้องการสร้างฐานเสียงให้เข้มแข็ง เพื่อสู้กับกระแสสีส้ม แม้กระแสของ “หัวหน้าเท้ง” ณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ จะยังไม่พีคเท่ากับ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล แต่ “ขุนพลสีส้ม” มีความช่ำช่องในการปลุกกระแส จึงประมาทไม่ได้
การขับเคลื่อนสนาม กทม. ของพรรคเพื่อไทย แม้จะมี “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นคนดูแลด้วยตัวเอง แต่ให้จับตาบทบาทของ “เสี่ยโฟม” พงษ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ หลานชายของ “เดอะซัน” สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ที่จะเข้ามาเป็นหัวเลี้ยวหัวแรงเป็นแกนหลักในสนาม กทม.
ขณะเดียวกันในกรณีของ “อนุดิษฐ์ นาครทรรพ” อดีต สส. กทม. เขตสายไหม “การุณ โหสกุล” อดีต สส. กทม. เขตดอนเมือง และอดีต สส. กทม.หลายคนที่เคยสังกัดพรรคเพื่อไทย มีโอกาสย้ายกลับเข้ารังเก่า
โดยเฉพาะกรณี “อนุดิษฐ์-การุณ” ที่ยังมีแต้มในพื้นที่ แม้จะมีโจทก์เก่าในพรรคเพื่อไทยคอยขวางลำอยู่ แต่ก็ไม่เคยเผาบ้านพูดให้พรรคเสียหาย และที่สุดหาก “นายใหญ่” บ้านจันทร์ส่องหล้า ทุบโต๊ะเปิดทาง โอกาสคืนสู่เหย้าก็เปิดกว้าง
หลังจากนี้จับตาความเคลื่อนไหวของ “นายใหญ่-เพื่อไทย” จะวางเกมในสนาม กทม.อย่างไร เพื่อแก้ทาง “กระแสสีส้ม” ชิงเก้าอี้ สส. กทม. กลับมาให้ “ค่ายสีแดง”