โอเวอร์ แอ็กชั่น ‘ไทย-ว้า’ระอุ เด้งรับ ‘รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง’

โอเวอร์ แอ็กชั่น ‘ไทย-ว้า’ระอุ  เด้งรับ ‘รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง’

แกะรอยปม "ชายแดนไทย-เมียนมา" พื้นที่อิทธิพล"ว้าแดง"ตึงเครียด มูลเหตุมาจากความเคลื่อนไหว3ส่วน แต่ยังไม่พบความเชื่อมโยงว่าเป็นการทำงานสอดผสาน

KEY

POINTS

  • กระแสปกป้องอธิปไตยในประเทศไทยจุดติด เติมเชื้อไฟ ชายแดนไทย-ว้าแดง คลุกกรุ่นในโซเชียลมีเดีย ปั่นกระแสด้อยค่า ทหาร กองทัพ
  • กองกำลังว้าแดง มีการพัฒนาตามลำดับ มีโดรนติดอาวุธ อาวุธต่อต้านอากาศยาน แม้แต่ฐานปฏิบัติการมีการเจาะอุโมงค์ขนาดใหญ่
  • กองทัพบก ย้ำในที่ประชุมสภากลาโหม การแก้ไขปัญหายึดแนวทางการเจรจา เหมือนที่เคยปฏิบัติมากว่า 30 ปี

ที่ประชุมสภากลาโหม ครั้งสุดท้ายก่อนสิ้นปี “กองทัพบก” กางแผนที่ที่ตั้งฐานกองกำลังว้าแดงตลอดแนวชายแดนไทย-เมียนมา ให้ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แสดงถึงเส้นเขตแดนที่ต่างอ้างสิทธิ์ทับซ้อน

พร้อมรายงานสถานการณ์กองกำลังไทย-ว้าแดง ซึ่งอยู่ร่วมกันมายาวนานตามตะเข็บชายแดนภาคเหนือไทย ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้กำหนดเส้นถอยร่นลดการเผชิญหน้า

มีข้อมูลพบว่า กองกำลังว้าแดง มีการพัฒนาตามลำดับ มีโดรนติดอาวุธ อาวุธต่อต้านอากาศยาน แม้แต่ฐานปฏิบัติการมีการเจาะอุโมงค์ขนาดใหญ่ เป็นที่อยู่ของกองกำลัง ป้องกันกรณีฐานถูกถล่มด้วยปืนใหญ่ เชื่อกันว่าหากถูกโจมตีจะไม่ทะลุถึงอุโมงค์ดังกล่าว

ในจำนวนกลุ่มชาติพันธุ์ในเมียนมา “ว้าแดง” ถูกจัดให้เป็นกองกำลังเข้มแข็งมากที่สุด เป็นที่เกรงขามของกลุ่มชาติพันธ์ที่ยืนฝั่งตรงข้าม เพราะมีวิธีการรบแบบกองโจร

กองทัพบก ยืนยันในที่ประชุมสภากลาโหม การแก้ไขปัญหายึดแนวทางการเจรจา หากมีการรุกล้ำพื้นที่ ใช้วิธีประท้วง กดดันให้อีกฝ่ายถอยร่น เหมือนที่เคยปฏิบัติมากว่า 30 ปี

การใช้กำลังทหารเข้าผลักดันจะส่งผลให้ประเทศไทยมีแต่เจ๊งกับเจ๊ง ในฐานะเป็นประเทศ ส่วนว้าแดงคือชนกลุ่มน้อยกับผลกระทบหลายมิติที่จะตามมา

เรื่องนี้มีที่มาที่ไป มูลเหตุทำให้สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา พื้นที่อิทธิพลของว้าแดงตึงเครียด ประกอบด้วยกัน 3 ส่วน

ส่วนแรก คนในหน่วยงานความมั่นคงต้องการสนองตอบนโยบายรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร หลังยกระดับยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติด้วยการสกัด ปราบปราม ประสานเพื่อนบ้านทลายแหล่งผลิต แหล่งพักคอยแบบถาวร อยู่ฝั่งตรงข้ามจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พื้นที่ใน 10 จังหวัดนำร่องปลอดยาเสพติดให้ได้ 90% ก่อนเทศกาลสงกรานต์ 2568

เป็นที่มาของการส่งข้อความหา พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. สอบถามกองทัพบก จะดำเนินการอย่างไร กรณีว้าแดงรุกล้ำไทย 

จากนั้นคนในหน่วยงานความมั่นคง ได้มีการพบปะหารือทางลับกับบุคคลที่อยู่ในหน่วยงานสำคัญต่างประเทศ ที่ จ.เชียงใหม่ หวังประสานข้อมูลด้านการข่าว ทลายแหล่งผลิตยาเสพติดฝั่งตรงข้าม

ทั้งนี้ ปฏิบัติการดังกล่าวเคยสำเร็จในยุค พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ผบ.ทบ. ที่ส่งหน่วยจู่โจมพิเศษจากกองพันทหารจู่โจม(พัน.จจ.) ของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) ต่อเป้าหมายโรงงานผลิตยาเสพติด “เหว่ย เซียะ กัง” พื้นที่อิทธิพลว้าแดง ปี 2545

ทว่า ทักษิณ ชินวัตร นายกฯสมัยนั้น กล่าวตำหนิว่า เป็นการปฏิบัติที่เกินความจำเป็น “โอเวอร์ แอ็กชั่น”

อีกส่วนความเคลื่อนไหวนักวิชาการและสื่อในพื้นที่ แต่ยังไม่พบความเชื่อมโยงว่าทั้งสามส่วนนี้ทำงานสอดผสานกันหรือไม่

ท่ามกลางกระแสปกป้องอธิปไตยในประเทศไทยจุดติด ทั้งกรณีแบ่งผลประโยชน์พื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนไทย-กัมพูชา ถูกโยง เกาะกูด จ.ตราด และเรือประมงไทยถูกเรือรบเมียนมายิง

เติมเชื้อไฟ ชายแดนไทย-ว้าแดง คลุกกรุ่นในโซเชียลมีเดีย ปั่นกระแสด้อยค่า ทหาร กองทัพ อ่อนเกินไป ไม่ใช้กำลังกดดันชนกลุ่มน้อยออกจากพื้นที่ไทย

แม้ปัจจุบัน ภูมิธรรม ออกมาส่งสัญญาณไม่เอาด้วยแนวทางดังกล่าว เกรงกระทบเศรษฐกิจ การค้าและความเป็นอยู่ประชาชนตามแนวชายแดน และมองว่าการเจรจาที่กองทัพบกดำเนินการอยู่เป็นหนทางดีที่สุดเเล้ว

เมื่อไม่มีสัญญาณตอบรับจากรัฐบาลเพื่อไทย คนในหน่วยงานความมั่นคงค่อยๆ ล่าถอย เหลือเพียงกระแสในโซเชียลมีเดียที่ไปไกลจนกู่ไม่กลับ สร้างแรงกดดันให้กับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่

ทั้งกองกำลังผาเมือง และกองกำลังนเรศวร กองทัพภาคที่ 3 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ยังคงตรึงกำลังปกป้องอธิปไตยของไทยในพื้นที่ตลอดแนว