'ธนกร' ยัน รทสช. หนุน ร่างพ.ร.บ.เสริมสร้างสันติสุข ไม่เอานิรโทษคดีม.112

'ธนกร' ยัน รทสช. หนุน ร่างพ.ร.บ.เสริมสร้างสันติสุข ไม่เอานิรโทษคดีม.112

“ธนกร” ยัน สส.รทสช.เดินหน้าหนุน ร่างพ.ร.บ.เสริมสร้างสันติสุขทันทีที่เปิดสภา ลั่น ไม่เอานิรโทษคดีม.112 เด็ดขาด ย้ำจุดยืน  พรรคยึดมั่นสถาบันหลักของชาติ ขอ รัฐบาล-ฝ่ายค้าน ทำหน้าที่สร้างสรรค์ ถกกฎหมายสำคัญสูงสุดต่อประเทศ

วันที่ 10 ธ.ค.2567 นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ รองหัวหน้าพรรคและสส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ทันทีที่เปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สอง พ.ศ. 2567 ในวันที่ 12 ธันวาคม 2567 นี้ โดยจะมีกฎหมายสำคัญเข้าสู่วาระการประชุมถึง 20 ฉบับ ตนในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรวมทั้งเพื่อนสมาชิกในพรรครทสช. พร้อมทำหน้าที่พิจารณากฎหมายสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและยึดประชาชนเป็นที่ตั้งอย่างเต็มที่ 

โดยร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการนิรโทษกรรม ที่มีพรรคการเมืองเสนอร่างมาในวาระ 4 ฉบับ และยังจะมีการเสนอเพิ่มเติมนั้น  ตนขอสนับสนุนร่าง (พ.ร.บ.) สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. … ที่สส.พรรครทสช.ร่วมกันเสนอไว้ ซึ่งร่างฉบับนี้ เป็นนโยบายของพรรครวมไทยชาติ ที่ต้องการให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า สร้างความปรองดอง ก้าวข้ามความขัดแย้งทางการเมืองที่มีมาอย่างยาวนานเกือบ 20 ปี

ทั้งนี้ นายธนกร ยืนยันว่า นโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ยอมรับการนิรโทษกรรมให้กับผู้ที่กระทำผิดในคดีละเมิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่เกี่ยวกับการหมิ่นสถาบัน คดีการทุจริตคอรัปชั่น และผู้ที่กระทำความผิดอาญาร้ายแรง เนื่องจากขัดต่อหลักการกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจคนไทยทั้งชาติและเป็นความมั่นคงของประเทศ ผู้ที่กระทำผิดใน 3 กลุ่มคดีที่กล่าวมานี้ ถือเป็นการกระทำความผิดอันร้ายแรง สร้างผลกระทบอย่างมากต่อภาพรวมของสังคม

รทสช.เราไม่สนับสนุนให้มีการนิรโทษกรรมคดีม.112 คดีทุจริต และคดีอาญาร้ายแรงเด็ดขาด เพราะสถาบันหลักของชาติต้องเป็นหลักยึดให้เกิดความสงบสุขและความมั่นคงของชาติ ซึ่งเราพร้อมรับฟังข้อดี ข้อด้อยของแต่ละร่างที่พรรคการเมืองนำเสนอเข้ามา เพื่อให้สภาเป็นเวที ที่จะมีการพิจารณากฎหมายให้เกิดความรอบคอบ มั่นใจว่า ทุกฝ่ายทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน

ทุกคนมีเจตนาที่ดีต้องการนำพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้งทางการเมืองที่ฝั่งรากลึกในสังคมมานาน ให้เดินหน้าสู่ความปรองดอง สังคมเกิดสันติสุข และพัฒนาต่อไปในอนาคต ขอทุกฝ่ายใช้เวทีสภาพิจารณากฎหมายโดยยึดผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชน“ นายธนกร กล่าว