เดิมพัน‘ปชป.’ สงขลาแพ้ไม่ได้ น้ำเงินแอบลุ้น‘นายก อบจ.’

หลังเสียงระฆังหมดยกที่เมืองคอน ผลเลือกตั้ง นายก อบจ.นครศรีธรรมราช บ้านใหญ่พ่ายราบคาบ จากความเคียดแค้นในพฤติกรรมอหังการของใครบางคน ที่วางตัวเป็นขาใหญ่ และอะไรอีกหลายอย่าง กระทั่งมิตรกลายเป็นศัตรู จนโดนรุมกินโต๊ะ

อีกปัจจัยสำคัญคือ การที่ประชาธิปัตย์ไปจูบปากกับทักษิณ ชินวัตร จับมือร่วมรัฐบาลเพื่อไทย กลายเป็นกระแสต้านที่ค่อนข้างรุนแรงในโซเชียลมีเดีย ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง นายก อบจ.นครฯ

จนมีการประเมินกันต่อไปถึงสนามเลือกตั้ง นายก อบจ.สงขลา ที่จะมีขึ้น 1 ก.พ.68 นี้ ว่าผลกระทบแบบที่ประชาธิปัตย์และบ้านใหญ่เมืองคอนเจอมา จะเป็นไฟลามทุ่งไปถึงสงขลาหรือไม่

ตัวเต็งคนสำคัญคือ สุพิศ พิทักษ์ธรรม ทีมสงขลาพลังใหม่ อดีตอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ที่ได้ประชาธิปัตย์สนับสนุน นำโดยนายกชาย เดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข และเลขาฯพรรค รวมถึงนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย ออกตัวดันเต็มที่

ท่ามกลางกระแสข่าวก่อนหน้านี้ 2 พรรคร่วมรัฐบาล รวมไทยสร้างชาติและภูมิใจไทย จับมือหนุน ถาวร เสนเนียม อดีต รมช.คมนาคม ลงสู้ศึก

เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ และรมว.อุตสาหกรรม ก็ออกมาสยบข่าว ศึกนี้ไม่มีฮั้ว ให้อิสระกับสส.ของพรรคในการตัดสินใจจะสนับสนุนใคร

เช่นเดียวกับ โกเกี๊ยะ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน และแกนนำภูมิใจไทย ที่ดูแลภาคใต้ ก็ปฏิเสธกระแสข่าวจับมือหนุนถาวร

โดย สส.สงขลา หนึ่งเดียวของรวมไทยสร้างชาติ ศาสตรา ศรีปาน ค่อนข้างชัดเจนว่า เทใจให้สุพิศ เข้าป้ายนายก อบจ.สงขลา และไม่น่าจะแตกต่างจาก ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.พลังประชารัฐ สายธรรมนัส พรหมเผ่า ที่คุ้นเคยกับ สส.ประชาธิปัตย์ ในพื้นที่เป็นอย่างดี 

ส่วน ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สส.สงขลา หนึ่งเดียวจากค่ายน้ำเงิน ต้องจับตาจะเอาอย่างไร หลังจากอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าภูมิใจไทย ประกาศ พรรคมีนโยบายไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งท้องถิ่น

แต่การประกาศตัวของ ประสงค์ บริรักษ์ หรือนายกแบน (นายกเทศมนตรีเขารูปช้าง) ทีมสงขลาเข้มแข็งที่เป็นอดีตผู้สมัคร สส.สงขลา เขต 1 ภูมิใจไทย เลยถูกจับตามองว่า ในทางพฤตินัยค่ายน้ำเงินแอบลุ้นสนามสงขลามากกว่าที่หลายคนคิดหรือไม่

เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการพูดกันอย่างกว้างขวางว่า ภูมิใจไทยเตรียมส่งเฉพาะผู้สมัคร สมาชิกอบจ. ครบทั้ง 36 เขต

บริบทของสงขลาจึงมีความเฉพาะตัวไม่เหมือนที่อื่น ถึงแม้กระแสพรรคประชาธิปัตย์จะตกต่ำอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในช่วงหลัง แต่ขุมกำลังของคนค่ายสีฟ้าในพื้นที่ ก็ยังเอาตัวรอดมาได้ เลือกตั้งปี 66 ปักธงได้ 6 จากทั้งหมด 9 เขต

การบริหารจัดการของคนประชาธิปัตย์ ในศึกนายก อบจ.สงขลา นับว่าเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักให้กับสุพิศ ตรงนี้ถือเป็นจุดแข็ง แต่ก็ประมาทปัจจัยแทรกซ้อนไม่ได้ หากเกิดแตกคอ กระแสไม่เอาบ้านใหญ่จุดติด หรือมีคู่ต่อสู้ที่พร้อมทุกขุมกำลัง ได้แรงหนุนจากการเมืองใหญ่ ก็คงเหนื่อยใช่เล่น

ไหนจะมีผู้สมัครสีส้ม นิรันดร์ จินดานาค จากพรรคประชาชน ลงชิงเก้าอี้ ก็น่าจะสร้างความวูบวาบไม่มากก็น้อย คะแนนปาร์ตี้ลิสต์สงขลา สมัยก้าวไกลมาที่ 1

ศึกนี้ที่สงขลา มีเดิมพันหลายเงื่อนไขสำหรับประชาธิปัตย์ และตัวนายกชาย จะแพ้คาบ้านไม่ได้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้น พรรคเก่าแก่อาจเหลือแต่ชื่อ ไม่สามารถกอบกู้วิกฤติอะไรได้อีกแล้ว