ตร.เตรียมออกหมายเรียก หวานใจ 'บิ๊กการเมือง' เอี่ยวรุกที่ ส.ป.ก.
”บิ๊กเต่า“ เตรียมออกหมายเรียก คนสนิท "บิ๊กเนมการเมือง” หลังพบเส้นเงิน 10 ล้านบาท เอี่ยวรีสอร์ทรุกที่ที่ดิน ส.ป.ก. ไม่กังวลสาวถึงใครโดนหมด
30 พ.ย.2567 จ.เชียงใหม่ พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าว หวานใจอดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่มีเส้นเงินเกี่ยวข้องกับรีสอร์ท รุกที่ดิน ส.ป.ก. ในส่วน ของตำรวจสอบสวนกลางจะเข้าไปดูในเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ ว่า เรื่องนีตำรวจได้ทำร่วมกับ ป.ป.ช. และ ปปท. รวมถึงนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ไปสืบสวนกรณี “ไร่ภูนับดาว” ซึ่งไปตรวจสอบดูแล้วพบว่ามีการทุจริตในหน้าที่จริง ในการออกเอกสารสิทธิ์โดยทุจริต ของข้าราชการระดับรองผู้ว่าราชการจังหวัด และเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. จึงเริ่มตรวจสอบและดำเนินคดี
นอกจากนี้ยังทราบว่าบริษัทที่เราตรวจสอบ มีเส้นเงินไปถึงบุคคลใกล้ชิดของผู้ใหญ่ในพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ประมาณ 10 ล้านบาท
เมื่อถามย้ำว่าเส้นเงินจำนวน 10 ล้านบาทนี้ เชื่อมไปที่หวานใจหรือไปถึงอดีตรองนายกรัฐมนตรี พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ บอกว่า เส้นเงินนี้เชื่อมไปถึงบุคคลใกล้ชิด ที่เรียกว่า“หวานใจ”
ส่วนสัปดาห์หน้าจะมีเซอร์ไพรส์ใหญ่หรือไม่กับเส้นเงินเส้นนี้ พลตำรวจตรีจรูญเกียรติบอกว่าขอคุยกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องนี้ก่อน เพราะเท่าที่ทราบก็ประมาณนี้
เมื่อถามต่อว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่สนิทสนมกับ นายสามารถหรือไม่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ บอกว่า ก็เป็นกลุ่มคนใกล้ชิดกัน
ส่วนกังวลในการทำคดีหรือไม่เพราะชื่อที่เชื่อมไปถึงเป็นระดับ บิ๊กเนม พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ บอกว่าไม่กังวล และไม่ห่วง เพราะเป็นเรื่องหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และเรื่องของข้อกฎหมายไปถึงใครก็ต้องโดนหมด ย้ำว่า “ถึงใครก็โดนหมดขอยืนยัน มันมาถึงขนาดนี้ เรากล้าเข้าไปทำงาน หากไม่ทำต่อ ประเทศไทยคงอยู่ยาก คนผิดว่าไปตามผิด คนถูกว่าไปตามถูก สังคมจะน่าอยู่มากขึ้น“
เมื่อถามว่าเส้นเงินจำนวน 10 ล้านบาทนี้ไปหยุดอยู่แค่หวานใจคนสนิท หรือ มีไปถึงผู้ใหญ่ท่านนั้น พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ บอกว่า เดี๋ยวจะต้องออกหมายเรียกมาสอบสวน หรือออกหมายจับ หรือออกหมายจับเพื่อให้มาชี้แจงว่าเส้นเงินนี้ เป็นเงินเกี่ยวกับเรื่องอะไร เพราะจากการตรวจสอบจะมีการโอนไปครั้งละ 2 ล้านบาท จนครบจำนวน 10 ล้านบาท
ส่วนหมายจับหรือหมายเรียกหวานใจคนสนิทจะใช้เวลานานหรือไม่ พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ บอกว่า ยังไม่แน่ใจ เพราะเพิ่งจะรู้เพียงคร่าวๆ แต่ในรายละเอียดสำนวนการสอบสวน ขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงานนิดนึง
เมื่อถามว่าชื่อที่ปรากฏอาจจะถูกวิจารณ์ว่ามีเรื่องนัยยะทางการเมือง พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ บอกว่า เป็นไปได้หมด เพราพตอนที่เงินไหบออกไป เป็นช่วงที่พรรคการเมืองที่มีชื่อบุคคลท่านนี้กำลังมีอำนาจ แต่ยืนยันไม่ใช่การกลั่นแกล้ง หรือทำร้ายกัน แต่เป็นเรื่องของการตรวจสอบและขยายผลออกไปถึงเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะช่วงนั้นตำรวจก็จับกรณี ส.ป.ก. หลายที่ เรื่องนี้ก็เป็นส่วนหนึ่ง มันถึงใครใครทำไว้ก็ต้องรับกรรมอันนั้น