ผบ.ทบ.นำ 256 ทหารชั้นนายพล ถวายสัตย์ปฏิญาณตน ก่อนแบ่งมอบงาน 5 เสือ ทบ.
ผบ.ทบ.นำทหารชั้นนายพล 256 นายถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อหน้าเบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ก่อนแบ่งมอบงาน 5 เสือ ทบ.และรองเสธ ทบ.
เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2567 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงในคำสั่งกองทัพบกเรื่อง การปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ( ผช.ผบ.ทบ.),เสนาธิการทหารบก ( เสธ.ทบ.) และ รอง เสธ.ทบ.
โดยให้ พล.อ. วสุ เจียมสุข ผู้ช่วยผบ.ทบ. (1)รับผิดชอบสายงานกำลังพล พล.อ. ชิษณุพงศ์ รอดศิริ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง ผู้ช่วยผบ.ทบ. (2) รับผิดชอบสายงานการส่งกำลังบำรุง พล.อ. ธงชัย รอดย้อย เสธ.ทบ. รับผิดชอบงานสายงานการข่าวและกิจการต่างประเทศ สายงานยุทธการ การฝึกและศึกษา ทางทหาร สายงานกิจการพลเรือน และสายงานปลัดบัญชี
พล.อ.ธวัชชัย ตั้งพิทักษ์กุล รองเสธ.ทบ.(1) รับผิดชอบสายงานกำลังพล พล.ท. นุกูล โล่ห์ประเสริฐ รอง เสธ.ทบ.(2)รับผิดชอบงานสายงานการข่าวและกิจการต่างประเทศ พล.ท. เกรียงไกร ปราสาฑสุวรรณ รอง เสธ.ทบ.(3) รับผิดชอบสายงานยุทธการ พล.ท. บรรยง ทองน่วม รอง เสธ.ทบ.(4) รับผิดชอบสายงานส่งกำลังบำรุง พล.ท. อานุภาพ ศิริมณฑล รองเสธ.ทบ.(5) รับผิดชอบสายงานกิจการพลเรือน
โดยในช่วงเช้า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีแสดงความยินดีกับนายทหารสัญญาบัตรชั้นนายพลสังกัดกองทัพบกที่ได้รับพระราชทานยศสูงขึ้นตามที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานยศทหารชั้นนายพล ให้แก่นายทหารสัญญาบัตร สังกัดกระทรวงกลาโหม ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 และพระราชทานยศทหารชั้นนายพลเป็นกรณีพิเศษ ให้แก่นายทหารสัญญาบัตรที่ลาออกจากราชการ ตามโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดของกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีนายทหารสัญญาบัตรสังกัดกองทัพบกที่ได้รับพระราชทานเลื่อนยศสูงขึ้น รวม 256 นาย ประกอบด้วยชั้นยศ พลเอก 19 นาย พลโท 49 นาย และพลตรี 188 นาย ซึ่งทุกนายได้ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่ด้วยความวิริยะอุตสาหะ และเป็นกำลังสำคัญของกองทัพบกในการปฏิบัติหน้าที่ด้านความมั่นคงตลอดมา
ในโอกาสนี้ผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวแสดงความยินดีแก่นายทหารสัญญาบัตรชั้นนายพลที่ได้รับพระราชทานยศสูงขึ้น มีใจความสำคัญว่า
“การที่กองทัพบก สามารถยืนหยัดด้วยเกียรติ ศักดิ์ศรี และได้รับการยอมรับเป็นสถาบันที่เป็นรากฐานด้านความมั่นคงของชาติตลอดมานั้น ทุกท่านมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ได้ปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยยึดมั่นอุดมการณ์ในการสร้างสรรค์คุณประโยชน์ให้กับส่วนรวมและประเทศชาติ ตลอดจนทำให้กองทัพมีความเข้มแข็งมีขีดความสามารถในการดำเนินภารกิจทุกด้านให้บรรลุผลสำเร็จ การได้รับพระราชทานยศสูงขึ้นนั้นมาพร้อมกับภาระหน้าที่และความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นเป็นสิ่งย้ำเตือนให้ทุกท่านตระหนักในหน้าที่ต่อชาติบ้านเมืองขอให้ใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ดำเนินภารกิจให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมปรับตัวและพัฒนาตนเองอย่างรอบด้านให้สามารถรองรับภารกิจภายใต้สถานการณ์และสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
ในขณะเดียวกันจะต้องประพฤติปฏิบัติตนให้สมเกียรติในการเป็นทหาร เป็นผู้นำ และเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้ใต้บังคับบัญชา ยึดหลักธรรมาภิบาลในการปกครอง พร้อมเสริมสร้างขีดความสามารถของหน่วยและกองทัพบก มีพลังกาย พลังใจ พิทักษ์ปกป้องราชบัลลังก์ คุ้มครองประชาชน พัฒนากองทัพและประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าและมั่นคงสงบสุขตลอดไป”
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้นำคณะนายทหารชั้นนายพลที่ได้รับพระราชทานชั้นยศสูงขึ้นกระทำพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนเบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ อันนำมาซึ่งเกียรติยศและความภาคภูมิใจ และได้ร่วมกันถวายสัตย์ปฏิญาณตนแสดงความจงรักภักดี พร้อมอุทิศตน เสียสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องและรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติ เทิดทูนและรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งองค์พระมหากษัตริย์ และธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศและศักดิ์ศรีของทหารทั้งนี้การจัดพิธีแสดงความยินดีกับนายทหารชั้นนายพลที่ได้รับพระราชทานยศสูงขึ้นและพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนโดยพร้อมเพรียงกันในวันนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีของนายทหารชั้นนายพลทุกนายที่ได้ร่วมกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณ เป็นขวัญและกำลังใจที่สำคัญในการมุ่งมั่นทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนสืบไป