เสถียรภาพรัฐบาล พท.พุ่ง 348 ดูด ปชป.- พรรคเล็ก โดดเดี่ยว ‘ปชช.’ ฝ่ายค้านวูบ 145

เสถียรภาพรัฐบาล พท.พุ่ง 348 ดูด ปชป.- พรรคเล็ก โดดเดี่ยว ‘ปชช.’ ฝ่ายค้านวูบ 145 พปชร.ป่วนเสีย 2 โควตา - ‘เฉลิมชัย-เดชอิศม์’ เสียบ
อัปเดตความคืบหน้าในการสรรหา ครม.ชุดใหม่ ของรัฐบาลเพื่อไทย ภาค 2 บรรดารัฐมนตรีหน้าเดิม ในช่วงนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ยังได้ไปต่อใน ครม.นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร
ประกอบด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ รมว.คมนาคม นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม
สำหรับ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ รมว.คลัง ที่มีชื่อหลุดออกไปก่อนหน้านี้ ถูกดึงกลับมานั่ง รมว.คลัง แต่ไม่ได้ควบรองนายกฯ ส่วนนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล ยังคงตำแหน่ง รมช.คลัง เช่นเดิม
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม และ น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ส่วนรัฐมนตรี ที่มีโอกาสถูกปรับออก 4 ราย ประกอบด้วย นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม จักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ และนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย
ขณะที่คนที่จะได้เข้ามาเป็นรัฐมนตรีใหม่ ที่ชัดเจนแล้ว 3 คน ประกอบด้วย นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ ที่จะเข้ามาดูในส่วนของกฎหมาย อาจเป็นรองนายกรัฐมนตรี หรือ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อีกรายชื่อคือ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม.พรรคเพื่อไทย ที่คาดว่าจะได้เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ส่วนนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย อยู่ระหว่างการพิจารณาว่า จะอยู่ในตำแหน่ง รมว.การต่างประเทศ หรือรมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งหากไปอยู่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ อาจส่งผลให้มีการสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งรัฐมนตรีอื่นๆ ตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม รายชื่อที่เพื่อไทยพิจารณา ยังชื่อของ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ อีกคน และจากนี้ทางพรรคเพื่อไทยยังต้องหาคนเข้ามาเป็นรัฐมนตรีเพิ่มเติมอีก 1 คน เพราะต้องเพิ่มอีกตำแหน่งมาทดแทน นายพิชิต ชื่นบาน อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่ลาออกไปก่อนหน้านี้
ด้านพรรคภูมิใจไทย ได้ส่งรายชื่อรัฐมนตรีคนเดิมทั้งหมด ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รมว.มหาดไทย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ นางศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ และนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย โดยในส่วนของนายชาดา ต้องรอลุ้นว่าจะผ่านด่านการตรวจสอบคุณสมบัติหรือไม่
ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ หลังจากมีปัญหาแบ่งแยกเป็น 2 กลุ่ม ระหว่างกลุ่มหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค และต่างฝ่ายต่างมีจุดยืน จะส่งโผรายชื่อแยกกัน ล่าสุด พปชร.ได้ออกแถลงการณ์ พร้อมกับได้ส่งรายชื่อรัฐมนตรีคนเดิมทั้งหมด เช่นกัน ประกอบด้วย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข โดยในส่วนของ ร.อ.ธรรมนัส ต้องรอลุ้นว่า จะผ่านด่านการตรวจคุณสมบัติหรือไม่
พรรครวมไทยสร้างชาติ มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเล็กน้อย โดยยังคงเสนอตำแหน่งเดิม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นั่งรองนายกฯ รมว.พลังงาน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค เข้ามาดำรงตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรม โดยจะโยกนางพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล จาก รมว.อุตสาหกรรม ไปดำรงตำแหน่ง รมช.คลัง ในโควตาที่ว่างอยู่ ส่วนนายสุชาติ ชมกลิ่น ดำรงตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ เหมือนเดิม
ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนา นายวราวุธ ศิลปอาชา ยังดำรงตำแหน่ง รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เช่นเดียวกับ พรรคประชาชาติ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง จะดำรงตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม
ขณะเดียวกันมีกระแสข่าว พรรคประชาธิปัตย์ ถูกดึงเข้าร่วมรัฐบาลด้วย เนื่องจากปัญหาภายในของพรรคพลังประชารัฐ โดยมีการแบ่งโควตารัฐมนตรีจากพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งประชาธิปัตย์จะได้เก้าอี้ 1 รมว. 1 รมช.
โดยมีความเป็นไปได้ที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค จะได้นั่งเก้าอี้ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งยังได้โควตา รมช.มหาดไทย หรือ รมช.สาธารณสุข ซึ่งมีรายชื่อนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค และนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช เป็นแคนดิเดต
อย่างไรก็ตาม สำหรับโควตาพรรคประชาธิปัตย์ อาจมีประเด็นที่นายเฉลิมชัย เคยถูกโยงเกี่ยวกับคดีหมูเถื่อนก่อนหน้านี้ ที่ต้องถูกตรวจสอบคุณสมบัติเข้มข้น ฉะนั้นหากไม่ผ่านก็อาจปรับเปลี่ยนนายชัยชนะ เข้ามาแทน โดยในส่วนของนายเดชอิศม์และนายชัยชนะ ที่คุม จ.สงขลา และจ.นครศรีธรรมราช ถือว่าเป็นแกนนำที่กุมเสียงสส.มากที่สุดในพรรค
โดยล่าสุดบุคคลที่พรรคการเมืองส่งชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ได้ถูกเรียกเข้าไปกรอกประวัติ เพื่อส่งตรวจสอบคุณสมบัติเรียบร้อยแล้ว
จากจำนวนตัวเลขพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคพันธมิตรที่โหวตสนับสนุนนายกฯ แพทองธาร ทำให้รัฐบาลเพื่อไทย มีเสถียรภาพรัฐบาลเพื่อไทย ภาค 2 ค่อนข้างแข็งแกร่ง
โดยสามารถจำแนกองค์ประกอบได้ดังนี้ พรรคร่วมรัฐบาลที่แถลงข่าวร่วมกัน 9 พรรคการเมือง รวม 312 เสียง ประกอบด้วย เพื่อไทย 141 ภูมิใจไทย 70 พลังประชารัฐ 40 รวมไทยสร้างชาติ 36 ชาติไทยพัฒนา 10 ประชาชาติ 9 ชาติพัฒนา 3 ไทรวมพลัง 2 เสรีรวมไทย 1
ขณะเดียวกันยังมีเสียงจาก “พรรคพันธมิตร” ที่ช่วยยกมือโหวตให้กับ “แพทองธาร” นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี รวม 11 เสียง ประกอบด้วย ไทยสร้างไทย 6 พรรคใหม่ 1 ครูไทยเพื่อประชาชน 1 ประชาธิปไตยใหม่ 1 ท้องที่ไทย 1 พลังสังคมใหม่ 1
ขณะที่พรรคฝ่ายลุ้น จากประชาธิปัตย์ จำนวน 25 เสียง (21 เสียงมีจุดยืนชัดเจนในการร่วมรัฐบาล อีก 4 เสียงมีจุดยืนฝ่ายค้าน) ล่าสุดค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่าพรรคเพื่อไทยส่งเทียบเชิญให้เข้าร่วมรัฐบาล
ทำให้จำนวนเสียงของ “ขั้วรัฐบาล” ทั้งพรรคร่วมรัฐบาล พรรคพันธมิตร และพรรคฝ่ายลุ้น มีถึง 348 เสียง ทำให้เป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพและแข็งแกร่ง
สอดรับกับที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 20 ส.ค.67 ถึงแนวโน้มการดึงพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลว่า เป็นเรื่องธรรมชาติที่จะต้องมีเสียงให้มีเสถียรภาพ เพราะปัญหาที่ต้องเปลี่ยนในเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจต้องอาศัยเสียงจากสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งต้องอาศัยการแก้กฎหมาย อาศัยการสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาล
ตัดกลับมาที่ขั้วฝ่ายค้าน เมื่อเสียงแนวร่วมเดิมเทไปยังรัฐบาล จึงส่งผลให้จำนวนเสียงฝ่ายค้านลดลง เหลือเพียง 145 เสียง ประกอบด้วย พรรคประชาชน 143 ไทยก้าวหน้า 1 เป็นธรรม 1 ซึ่งถือว่าอยู่ในสถานะที่อ่อนแอ-อ่อนแรง และยากต่อการตรวจสอบรัฐบาล โดยเฉพาะกลไกในสภาฯ ทั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และการผลักดันร่างกฎหมายสำคัญ
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ตัวเลข สส.ในสภาฯ มีส่วนสำคัญในการเคลื่อนเกมการเมืองอยากมาก ชั่วโมงนี้ถือว่า “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้นำหลังม่านเพื่อไทย ถือรีโมทคอนโทรลเกมทั้งกระดาน
แม้พรรคเพื่อไทยจะไม่ได้มีตัวเลขอันดับ 1 ในการเลือกตั้ง แต่สถานการณ์ที่บรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ต้องการเข้าร่วมรัฐบาล จึงเข้าทางเพื่อไทยที่เลือกใช้บริการได้ไม่ยาก โดยเฉพาะพรรคเล็ก พรรคจิ๋ว ที่ไร้เงื่อนไขต่อรอง
เสถียรภาพของรัฐบาลเพื่อไทย ภาค 2 วันนี้ จึงไร้ปัญหาประเด็นเรื่องเสียงในสภาฯ ยกเว้นจะสะดุดขาตัวเอง
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







