3 แคนดิเดตผู้นำพรรคส้ม ดันทีมเศรษฐกิจกลุ่มเพื่อนเอก 'วีระยุทธ' เต็งหนึ่ง 

3 แคนดิเดตผู้นำพรรคส้ม ดันทีมเศรษฐกิจกลุ่มเพื่อนเอก 'วีระยุทธ' เต็งหนึ่ง 

“ดร.ต้น” ถูก “ธนาธร” เชิญมาเข้าพรรคอนาคตใหม่ และล่มหัวจมท้ายกับพรรคตั้งแต่สมัยก่อตั้ง เป็นคนต้นคิดนโยบาย “ไทย 2 เท่า” ที่ “ธนาธร-อนาคตใหม่” นำไปใช้เป็นแคมเปญใหญ่หาเสียงเลือกตั้งปี 2562 จนพา สส.เข้าสภาฯได้ถึง 81 ที่นั่ง

KEY

POINTS

  • เปิด 3 แคนดิเดต “ตัวเต็ง” ใครเป็นใครเตรียมสวมสูทนั่งเก้าอี้ผู้นำ “พรรคก้าวไกล” คนใหม่
  • “ไหม” ศิริกัญญา รองหัวหน้า-หัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย อดีตนักวิจัย TDRI 
  • “ดร.ต้น” วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร เพื่อนรัก “ธนาธร” ผู้อยู่เบื้องหลังวางแนวคิด-นโยบายเศรษฐกิจพรรค
  • “ดร.โจ” สส.ป้ายแดงปาร์ตี้ลิสต์ลำดับ 15 อดีตผู้บริหารแบงก์ชาติ กูรูด้านยุทธศาสตร์ข้อมูลเทคโนโลยีการเงิน

พลันที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคดี “ยุบพรรคก้าวไกล” จากกรณีถูกกล่าวหาว่า “ล้มล้างการปกครอง” เนื่องจากเคยยื่นแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ในวันที่ 12 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ เรียกได้ว่าเป็น “สนามรบสุดท้าย” ของ “ค่ายสีส้ม” 

แม้ว่าศาลจะส่งสัญญาณ “เตือน” ว่า อย่าแสดงความคิดเห็นที่อาจส่งผลกระทบต่อรูปคดีก็ตาม แต่ “ก้าวไกล” ยังเดินหน้าแถลงถึงแนวทางต่อสู้คดีดังกล่าวอยู่

สถานการณ์ของพรรคนับตั้งแต่ ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องคดียุบพรรคตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เริ่มมีความเคลื่อนไหวจากบรรดา “งูเห่าสีส้ม” ภายในพรรค ติดต่อดีลกับ “พรรคขั้วรัฐบาล” หลายพรรค หวังสบช่องถ้าพรรคโดนยุบ จะย้ายไปซบเพื่อเดินหน้าเป็น สส.ต่อ เบื้องต้น “คีย์แมนฝ่ายรัฐบาล” ยัง “เซย์โน” แต่เก็บข้อเสนอไว้รอจังหวะเวลาที่เหมาะสม

มา ณ วันนี้ จังหวะการเมืองขยับเข้าทาง “ฝ่ายรัฐบาล” มากขึ้น ทั้งกรณี สว.ชุดบทเฉพาะกาล คสช.หมดอำนาจลง และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เดินหน้าจัดเลือก สว.ต่อ แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องไว้วินิจฉัย 4 มาตราใน พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ก็ตาม และกรณีศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องตรวจสอบคุณสมบัติ “นายกฯเศรษฐา” แต่ไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ 

โดยนายกฯเทียบเชิญ “เนติบริกร” ระดับครุฑอย่าง “วิษณุ เครืองาม” มาเป็นที่ปรึกษาสำนักนายกฯ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านคดีความ จึงคาดกันว่ามีแนวโน้มสูงที่ “เศรษฐา ทวีสิน” จะพ้นบ่วงคดีนี้

ขณะที่ “ก้าวไกล” กำลังย่ำแย่ ทั้งเผชิญคดียุบพรรค แถมยังมีคดีส่วนตัวอย่าง 44 สส.ก้าวไกล ถูกกล่าวหาว่าลงชื่อแก้ไขร่างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เข้าข่ายผิดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยังคงเดินหน้าตรวจสอบแบบ “เรียงคน” อยู่ นั่นหมายความว่าหากคดีนี้ส่งผลเป็นลบอีก จะทำให้แกนนำพรรคชุดปัจจุบัน ทั้ง “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” อดีตหัวหน้าพรรค “ชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรค ต้องเว้นวรรคทางการเมือง และพ้นเก้าอี้ สส.ด้วย

ทำให้ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา “คีย์แมนสีส้ม” ประเมินฉากทัศน์ทางการเมือง ความสุ่มเสี่ยงในการเดินหมากสู้บนกระดานที่เสียเปรียบตอนนี้ รวมถึง “ต๋อม” ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน เคยเปรยไว้หลายครั้งว่า ไม่ชอบงาน “หน้าฉาก” อยากกลับไปทำงาน “หลังฉาก” เหมือนเดิม พรรคจึงเริ่มวางตัว “ผู้นำพรรค” รุ่นที่ 3 โดยมีชื่อถูกโยนขึ้นบนโต๊ะ “กลุ่มเพื่อนเอก” เคาะ 3 คนด้วยกัน ได้แก่

รายแรก “ไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย อดีตนักวิจัยประจำสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เป็นหนึ่งในคีย์แมนด้านเศรษฐกิจของพรรคตั้งแต่ยุค “พรรคอนาคตใหม่” และมีลูกทีมคอยหนุนหลังพอตัว รวมถึงบรรดานักวิชาการ-กูรูด้านเศรษฐกิจบางคนภายในพรรคที่ถูกเทียบเชิญมาเป็น “ทีมเศรษฐกิจทันสมัย” ก็หนุนหลังเธอด้วย

3 แคนดิเดตผู้นำพรรคส้ม ดันทีมเศรษฐกิจกลุ่มเพื่อนเอก \'วีระยุทธ\' เต็งหนึ่ง 

อีกชื่อถูกโยนมาเมื่อไม่นานมานี้ และกลายเป็น “ตัวเต็ง” ทันทีคือ “ดร.ต้น” วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร มีดีกรีเป็นรองศาสตราจารย์สอนที่ GRIPS มหาวิทยาลัยเฉพาะทางด้านนโยบายสาธารณะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งใน “ทีมเศรษฐกิจทันสมัย” ของพรรค และเป็นที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร

สาเหตุที่ชื่อนี้กลายเป็น “ตัวเต็ง” เพราะเขาคือ “เพื่อนรัก” ของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ผู้นำทางจิตวิญญาณของพรรค 

โดย “ดร.ต้น” ถูก “ธนาธร” เชิญมาเข้าพรรคอนาคตใหม่ และล่มหัวจมท้ายกับพรรคตั้งแต่สมัยก่อตั้ง เป็นคนต้นคิดนโยบาย “ไทย 2 เท่า” ที่ “ธนาธร-อนาคตใหม่” นำไปใช้เป็นแคมเปญใหญ่หาเสียงเลือกตั้งปี 2562 จนพา สส.เข้าสภาฯได้ถึง 81 ที่นั่ง

ในช่วงปี 2562 ชื่อของ “ดร.ต้น” ถูกผลักดันจาก “กลุ่มเพื่อนเอก” ให้เตรียมคั่วเก้าอี้ “รมว.คลัง” ด้วยซ้ำ แต่ไม่ถึงฝั่งฝัน เพราะ “อนาคตใหม่” ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล หลังจากนั้นถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค “ดร.ต้น” จึงกลับไปทำงานหลังฉากด้านเศรษฐกิจ และคิดค้นนโยบายของพรรคเช่นเดิม โดยในช่วง “ก้าวไกล” เขาคือคนคิดค้นกิจกรรม Policy Fest ของพรรคที่ให้แกนนำสีส้มขึ้นเวทีโชว์วิสัยทัศน์ทางการเมือง-เศรษฐกิจ ซึ่งเพิ่งผ่านไปเมื่อไม่นานมานี้อีกด้วย

คนสุดท้ายที่มีชื่อโผล่มาแบบเซอร์ไพรส์คือ “ดร.โจ” ชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร สส.ป้ายแดงหน้าใหม่ในเวทีสภาฯ เป็นหนึ่งในทีมเศรษฐกิจทันสมัยของพรรคก้าวไกล รวมถึงมีความเชี่ยวชาญระดับ นักยุทธศาตร์ด้านข้อมูลและเทคโนโลยีการเงิน ตำแหน่งสุดท้ายคือรองผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์องค์กร ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) 

โดยในการเลือกตั้งปี 2566 เขาถูกพรรคก้าวไกลวางตัวอยู่ในปาร์ตี้ลิสต์ลำดับที่ 15 ซึ่งถือว่าเป็นลำดับที่ค่อนข้างสูงและเป็น “เซฟโซน” ที่จะได้รับเลือกตั้งอย่างแน่นอน สะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจของ “กลุ่มเพื่อนเอก” ต่อตัวเขา

ทั้งหมดคือ 3 แคนดิเดตที่เตรียมสวมสูทนั่งเก้าอี้ “ผู้นำพรรค” เจนที่ 3 ที่ต้องรอดูทิศทางคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อนว่าจะออกมาเป็นบวกหรือลบ