‘อุ๊งอิ๊ง’ขยับ สยบเกมป่วน สั่ง 'เพื่อไทย' แถวตรงสู้เกมล้มรัฐบาล

‘อุ๊งอิ๊ง’ขยับ สยบเกมป่วน สั่ง 'เพื่อไทย' แถวตรงสู้เกมล้มรัฐบาล

การขยับของ “หัวหน้าอุ๊งอิ๊ง” เพื่อสยบคลื่นใต้น้ำในพรรค จึงจำเป็นต้องมีคำสั่งลูกพรรคเพื่อไทย วางความไม่พอใจ เพื่อผนึกกำลังสู้เกมล้มรัฐบาล ที่สำคัญยิ่งกว่า  

KEY POINTS :

  • การประชุมพรรคเพื่อไทย ในหลายครั้งที่ผ่านมา "แพทองธาร ชินวัตร" หัวหน้าพรรค ใช้ความสุขุมสยบความเคลื่อนไหว ผูกมิตรกับ สส. เพื่อไทย เกือบทุกกลุ่ม
  • แตกต่างจากการประชุมพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.67 "แพทองธาร" ส่งสัญญาณสยบเกมป่วน ต้าน "วิษณุ เครืองาม" นั่งที่ปรึกษาของนายกฯ เพราะมองว่าเข้ามาเพื่อช่วย "นายกฯ เศรษฐา" เพียงคนเดียว และที่ผ่านมาความสัมพันธ์ "เศรษฐา" กับ "สส. เพื่อไทย" หมางเมินกันมาตลอด
  • ทว่า "ชินวัตร-เศรษฐา" มีสองคดีใหญ่ให้สู้ ปมศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติ "เศรษฐา" และคดีม.112 ของ "ทักษิณ ชินวัตร"
  • "หัวหน้าอิ๊ง" จึงจำเป็นต้องสั่ง "สส. เพื่อไทย" แถวตรง รอสู้กับกระแสคลื่นลมแรง เกมล้มรัฐบาล เกมล้มชินวัตร

เดิมพัน ตระกูลชินวัตร-พรรคเพื่อไทย เดินเข้าสู่เรดโซน จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ภายในเดือนมิ.ย.จะมีคำตอบ

หนึ่ง คดีคุณสมบัติรัฐมนตรีของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” ดำรงตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะครบกำหนด 15 วัน ที่ต้องส่งคำชี้แจงต่อ “ศาลรัฐธรรมนูญ” ในวันที่ 10 มิ.ย.67

โดย “เศรษฐา” หารือกับ “วิษณุ เครืองาม” ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี จัดเตรียมเอกสารชี้แจงเสร็จเรียบร้อยแล้ว เน้นย้ำประเด็นแต่งตั้งโดยสุจริต ข้อต่อสู้หลักจะมุ่งไปที่ขั้นตอนการแต่งตั้ง “พิชิต” ได้ดำเนินการเหมือนกับ “นายกฯ” ทุกคน

ที่สำคัญ ได้ส่งชื่อ “พิชิต” ให้กับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจสอบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติครบถ้วนแล้ว และไม่ได้รีบร้อนแต่งตั้ง เพราะเมื่อมีข้อทักท้วงในช่วงตั้งรัฐบาลเศรษฐา 1 ชื่อของ “พิชิต” จึงไม่ถูกนำขึ้นทูลเกล้าฯ

แม้ “เศรษฐา” จะมี “กุนซือ” ระดับเซียน มีขั้นตอนแต่งตั้ง “รัฐมนตรี” เป็นเหตุผลสนับสนุน แต่ต้องลุ้นว่า “คนกำหนดเกม” จะเลือกวางหมากอย่างไร แม้โอกาสได้ไปต่อมีสูง แต่โอกาสโดนล้มก็ใช่ว่าจะไม่มี

อีกหนึ่งคดี “ทักษิณ ชินวัตร” ซึ่งอยู่ระหว่างการพักโทษ ไฟต์บังคับให้ต้องเดินทางไปพบพนักงานอัยการเพื่อนำตัวส่งฟ้องศาลคดี ม.112 ในวันที่ 18 มิ.ย.67

ท่ามกลางกระแสข่าว “ทักษิณ” อาจไม่ไปพบ “พนักงานอัยการ” และเจ้าตัวเตรียมเดินทางออกนอกประเทศอีกครั้ง แต่ “ทีมบ้านจันทร์ส่องหล้า” คอนเฟิร์ม “นายใหญ่” สู้เกมยาว พร้อมเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และเชื่อว่าจะได้รับการประกันตัว

อย่างไรก็ตาม อีกทางหนึ่ง “ทักษิณ” มีเกมกฎหมายนิรโทษกรรมให้เลือกเดิน โดยอยู่ในชั้นของคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร ที่มี “ชูศักดิ์ ศิรินิล” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน

โดยมีข้อเสนอของคณะอนุกรรมาธิการ พิจารณาศึกษาข้อมูล และสถิติคดีความผิดอันเนื่องมาจากแรงจูงใจทางการเมือง 25 ฐานความผิด อาทิ ความผิดตาม มาตรา110  มาตรา112 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ ความผิดเกี่ยวกับก่อการร้าย ความผิดต่อชีวิต รวมอยู่ด้วย

แนวทางนี้วัดใจ “ทักษิณ-เพื่อไทย” จะกล้าพอไหม เพราะการนิรโทษกรรม มาตรา112 สุ่มเสี่ยงเปิดประตูให้ “เครือข่ายอนุรักษนิยม” ปฏิบัติการพิเศษในสถานการณ์พิเศษได้เช่นกัน

ในห้วงเวลาที่ 2 คดีใหญ่ เป็นเดิมพัน “ทักษิณ-เศรษฐา” งวดเข้ามาทุกที ภายในพรรคเพื่อไทยก็มีสถานการณ์ สส.เสียงแตก กรณีแต่งตั้ง “วิษณุ เครืองาม” มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี

แม้ “วิษณุ” จะเคยร่วมหัวจมท้ายกับ “ทักษิณ” ในยุคพรรคไทยรักไทย แต่ก็เคยหันหลังให้ตระกูล “ชินวัตร” เมื่อตัดสินใจร่วมงานกับคณะรัฐประหารปี 2548 และปี 2557 จึงทำให้ “สส. เพื่อไทย” ไม่พอใจอย่างยิ่ง ที่สำคัญคือ ไม่ไว้วางใจ “วิษณุ”

เมื่อมีคลื่นใต้น้ำเกิดขึ้นภายในพรรค หัวหน้า “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ที่รับรู้สัญญาณเชิงลบจากเสียงต้าน ที่มองว่าการดึง “วิษณุ” มาช่วย “เศรษฐา” กระทบเครดิตการเมือง อีกทั้งยังไม่น่าไว้วางใจ ว่าจะถูกวางเกมอะไรจากฝ่ายอนุรักษนิยม

ที่สำคัญความสัมพันธ์ระหว่าง “เศรษฐา” กับ “สส. เพื่อไทย” ก็ยังคะแนนติดลบ โดยรอคอยวันที่จะเปลี่ยนตัวนายกฯ มาเป็น “แพทองธาร”

ล่าสุดในการประชุมพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 4 พ.ค.67 ที่ผ่านมา จึงได้เห็นท่าที “แพทองธาร” โชว์พาวเวอร์ผู้นำ ออกโรงปรามลูกพรรคอย่างจริงจัง

อุ๊งอิ๊ง "แพทองธาร" พยายามทำความเข้าใจกับ สส.ว่า ขอให้สบายใจ เพราะ “วิษณุ” เข้ามาช่วยงานรัฐบาลด้วยความตั้งใจ 

พร้อมกับย้อนประวัติสนับสนุนว่า วิษณุเคยทำงานกับรัฐบาลไทยรักไทยมาก่อน เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ จึงขอให้ยอมรับ และเข้าใจ เพื่อให้เดินไปข้างหน้าได้

“ขอให้ทุกคนเข้าใจไปในแนวทางเดียวกัน ให้พวกเราสามัคคีกัน ช่วยกันสนับสนุนท่านนายกฯ เราต้องร่วมมือกัน ถึงจะฝ่าฟันปัญหาไปได้ เพราะหากนายกฯ อยู่ไม่ได้ พรรคร่วม(รัฐบาล)ก็อยู่ไม่ได้ สภาฯ ก็อยู่ไม่ได้” 

เหตุผลสำคัญ จึงอยู่ที่ประเด็น ซึ่งอุ๊งอิ๊งยกเรื่องเสถียรภาพรัฐบาลขึ้นมาเป็นเงื่อนไข

ท่าทีขึงขังของหัวหน้าอุ๊งอิ๊งครั้งนี้ แตกต่างจากการประชุมพรรคเพื่อไทยในหลายครั้งก่อนหน้านี้ ซึ่ง “ลูกเจ้าของพรรค” ไม่เคยขอร้อง หรือว่ากล่าวตักเตือน สส.แม้แต่ครั้งเดียว

เมื่อสถานการณ์บีบบังคับ การมาของ “วิษณุ” เพราะสถานการณ์พิเศษ ในวันที่ “ทักษิณ-เศรษฐา” อยู่บนความเสี่ยง ที่ส่งผลต่อเส้นทางการเมืองของเธอ  

ที่สำคัญจากนี้ไปประเด็นข้อกฎหมายทั้งใน ครม.และความสุ่มเสี่ยงใดๆ อาจรวมไปถึงคดีทางการเมืองที่เกี่ยวโยงกับพรรค จะใช้บริการ “วิษณุ” เป็นหลัก ไม่ว่าจะดีลลับ ดีลไม่ลับ 

การขยับของ “หัวหน้าอุ๊งอิ๊ง” เพื่อสยบคลื่นใต้น้ำในพรรค จึงจำเป็นต้องมีคำสั่งลูกพรรคเพื่อไทยวางความไม่พอใจ เพื่อผนึกกำลังสู้เกมล้มรัฐบาล ที่สำคัญยิ่งกว่า  

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์