ผู้สมัคร สว. ยื่น กกต.ห้ามอุทธรณ์คำสั่งศาล ปค.เพิกถอนบางข้อระเบียบแนะนำตัว

ผู้สมัคร สว. ยื่น กกต.ห้ามอุทธรณ์คำสั่งศาล ปค.เพิกถอนบางข้อระเบียบแนะนำตัว

ผู้สมัคร สว.ภาคประชาชน ยื่นคำร้องถึง กกต. 4 ข้อ จี้อย่าอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครอง หลังเพิกถอนบางข้อในระเบียบแนะนำตัวผู้สมัคร สว. เพื่อให้คำสั่งมีผลในทันที เกิดการปฏิบัติเท่าเทียม ปราศจากความกลัว

เมื่อวันที่ 27 พ.ค.2567 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้สมัคร สว.ภาคประชาชน นำโดย น.ส.นารากร ติยายน สื่อมวลชนอิสระ อดีตผู้ประกาศข่าวชื่อดัง พร้อมด้วย นพ.ไพโรจน์ สว่างตระกูล น.ส.ชลณัฏฐ์ โกยกุล นายธีรชาติ ก่อตระกูล และนายทวีป วานิชย์หานนท์ เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต.เรียกร้องไม่ให้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลางที่ให้เพิกถอนระเบียบ กกต.ว่าด้วยการแนะนำตัวของ ผู้สมัคร สว. รวม 4 ข้อ

น.ส.นารากร กล่าวว่า ข้อเรียกร้องของเราประกอบด้วย ข้อ 4 คือ

1.ตามข้อกฎหมายหลังศาลปกครองกลางมีคำพิพากษา กกต.มีเวลา 30 วันในการยื่นอุทธรณ์ พวกเราอยากให้ กกต.ไม่ยื่นอุทธรณ์ เพื่อให้คำพิพากษาของศาลปกครองกลางมีผลในทางปฏิบัติทันที จึงอยากให้ กกต.ประกาศอย่างเป็นทางการโดยเร็วว่าจะไม่ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าว เพื่อให้ผู้สมัคร สว.ทุกคนสามารถแนะนำตัวได้อย่างเสมอภาคเท่าเทียมปราศจากความหวาดกลัว

2.หาก กกต.มีการยกเลิกระเบียบฉบับเดิม และออกระเบียบฉบับใหม่ จะต้องไม่จำกัดเนื้อหาในการแนะนำตัว และไม่จำกัดการรับรู้ของประชาชน

3. กกต.ต้องประกาศสถานที่เลือกในระดับอำเภอโดยเร็ว แล้วต้องเป็นสถานที่ที่เป็นที่รู้จักเดินทางสะดวก อีกทั้งให้ความชัดเจนเกี่ยวกับขั้นตอนการแนวปฏิบัติ ว่าจะเลือกจะต้องทำอย่างไร ผู้สมัครต้องเตรียมอะไรไปบ้าง ใช้เวลาในการเลือกเท่าใด

4.กกต.ต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถสังเกตการณ์เลือก สว.ได้ตลอดกระบวนการ และให้ผู้สังเกตการณ์ ผู้สมัครมีสิทธิในการทักท้วงกระบวนการที่ไม่ชอบโดยกฎหมายโดยสะดวกและรวดเร็ว

ส่วนนายทวีป กล่าวว่า ขณะนี้เวลากระชั้นชิดมากแล้วหาก กกต.ยื่นอุทธรณ์ แล้วศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จะถือว่า กกต.มีความสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดริดรอนสิทธิประชาชน คำพิพากษาของศาลปกครองกลางที่ออกมาก็ระบุอยากให้การแนะนำตัวเป็นไปอย่างกว้างขวาง ให้ประชาชนได้รู้ว่าตัวแทนเป็นใครมาทำอะไร เพื่อประชาชนจะได้ตรวจสอบประวัติผู้สมัครได้ ซึ่งก็จะทำให้การคัดเลือกครั้งนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะแค่ในขั้นตอนของการรับสมัครขณะนี้ตนก็มีข้อมูลว่าที่ จ.ชุมพร มีคนรวมกลุ่มกันสมัครคัดเลือกเพื่อบล็อกโหวต ทำให้การคัดเลือกที่ กกต.จัดขึ้นเป็นไปอย่างไม่สุจริตเที่ยงธรรม โดยเจอในกลุ่ม 8 คือกลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์ และสาธารณูปโภคทรัพยากรธรรมชาติ จะนำข้อมูลนี้ส่งให้กับ กกต.ด้วย

ขณะที่นายธีรชาติ มองว่า จำนวนผู้สมัครที่น้อยกว่าที่ กกต.ตั้งเป้าไว้ เกิดจากความกลัวในเรื่องกฎเกณฑ์การแนะนำตัว การที่ กกต.กำหนดให้ผู้สมัครแนะนำตัวกันในหมู่ผู้สมัครเท่านั้นก็ผิดธรรมชาติ เพราะปัจจุบันสื่อมันออนไลน์หมดแล้ว ตอนนี้คิดว่า กกต.ยังมีทางเลือกกลับมาสร้างความหวังให้กับประชาชน โดยต้องคิดว่าทำอย่างไรให้กระบวนการมีส่วนร่วม อยากให้ กกต.คิดได้ในช่วงโค้งสุดท้ายนี้ เพราะถ้าการเลือกไม่โปร่งใส จะกระทบต่อทุกคน จึงอยากให้มีการเปิดเผยให้มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนเข้ามาตรวจสอบการคัดเลือกครั้งนี้ให้มากที่สุด