'เฉลิมชัย' ตั้ง 'เต้' มงคลกิตติ์ นั่งที่ปรึกษาหัวหน้า ปชป. ลุยงานฝ่ายค้าน

'เฉลิมชัย' ตั้ง 'เต้' มงคลกิตติ์ นั่งที่ปรึกษาหัวหน้า ปชป. ลุยงานฝ่ายค้าน

"เฉลิมชัย ศรีอ่อน" ตั้ง "เต้" มงคลกิตติ์ อดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หวังเป็นสมาชิกมานาน หลังฝึกงานในพรรคเล็ก พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้านทุกรูปแบบ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เผยแพร่หนังสือคำสั่ง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ แต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2567  

โดยระบุว่า แจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบ ผมขอกราบขอบคุณ ท่าน ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  ที่ไว้วางใจให้ทำหน้าที่ "ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์" คับ

หลังจากก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567 นายมงคลกิตติ์ ได้เข้าพบนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุว่า เพื่อตอบแทนบุญคุณที่เคยช่วยให้ได้เป็น สส.สมัยแรก  

\'เฉลิมชัย\' ตั้ง \'เต้\' มงคลกิตติ์ นั่งที่ปรึกษาหัวหน้า ปชป. ลุยงานฝ่ายค้าน

\'เฉลิมชัย\' ตั้ง \'เต้\' มงคลกิตติ์ นั่งที่ปรึกษาหัวหน้า ปชป. ลุยงานฝ่ายค้าน

\'เฉลิมชัย\' ตั้ง \'เต้\' มงคลกิตติ์ นั่งที่ปรึกษาหัวหน้า ปชป. ลุยงานฝ่ายค้าน

นายมงคลกิตติ์ เคยให้สัมภาษณ์หลังจากสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ว่า ตอนเด็กๆ ชอบดูการอภิปรายในสภาฯ ของนายชวน หลีกภัย และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็มีความประทับใจ และมีความตั้งใจว่าอยากเป็นนักการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ 

ตอนนี้คิดว่าถึงเวลาแล้ว แต่ยอมรับว่ายังรักพรรคเดิมอยู่ เพราะพรรคเดิมทำให้ได้เป็น สส.แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นพรรคที่อยู่ในใจมานาน เชื่อว่าปี 2567 จะเป็นนิมิตหมายที่ดี ให้คนรุ่นใหม่ รุ่นเก่ามาสมัครสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นพรรคของทุกรุ่น และเชื่อมั่นว่าพรรคประชาธิปัตย์จะกลับมายิ่งใหญ่ในปี 2570 

ก่อนหน้านี้ ที่อยู่กับพรรคไทยศรีวิไลย์ นายมงคลกิตต์ ระบุว่า ตนมองว่าเป็นการฝึกงานที่พรรคเล็กก่อนที่จะมาปฏิบัติงานในพรรคการเมืองใหญ่ ขณะเดียวกันเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์จะทำให้หลักของประเทศ หลักความยุติธรรมกลับคืนมาเหมือนเดิม และเป็นพักหลักในการที่จะรักษาผลประโยชน์เพื่อประชาชนต่อไปได้

เดิมตั้งใจจะเข้าพรรคประชาธิปัตย์ตั้งนานแล้วแต่ด้วยคุณสมบัติยังไม่มีประสบการณ์ และยังขาดวิทยายุทธอีกหลายอย่าง แต่ได้ไปฝึกงานพรรคไทยศรีวิไลย์มา 4 ปี ในฐานะ สส.และเป็นฝ่ายค้านถึง 3 ปีกว่า ซึ่งการเป็น สส.สมัยแรกต้องอยู่ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายตรวจสอบถึงจะได้รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด ซึ่งตนจะใช้ความรู้ความสามารถที่เคยเป็นฝ่ายค้านมาช่วยพรรคประชาธิปัตย์ทำงานในฐานะฝ่ายค้านด้วย แต่หากพรรคมอบหมายให้ทำหน้าที่อะไรตนก็พร้อมที่จะทำเต็มที่และพร้อมตอบโต้ได้ทุกรูปแบบอยู่แล้วเพราะปัจจุบันรัฐบาลยังไม่มีผลงานอะไรเลย