‘เมืองตรัง’ลมเปลี่ยนทิศ? ‘มนต์นายหัว’ชิงอบจ.ส่อเดือด

‘เมืองตรัง’ลมเปลี่ยนทิศ?  ‘มนต์นายหัว’ชิงอบจ.ส่อเดือด

"สมรภูมิตรัง" ตำนานมนต์ขลัง "นายหัว" จับตา "ศึกอบจ." สัญญาณลมเปลี่ยนทิศ? "2ขั้วปชป." เดิมพัน"2ผู้มากบารมี" ลมหวน-แยกทาง 

KEY

POINTS

  • จ.ตรัง ตำนานมนต์ขลัง "นายหัว" จับตา "ศึกอบจ." สัญญาณลมเปลี่ยนทิศ?
  • "2ขั้วปชป." จังหวะ"2ผู้มากบารมี" ลมหวน-แยกทาง
  • "สาทิตย์ วงศ์หนองเตย"  ปมแค้นบ้านใหญ่ "โล่สถาพรพิพิธ"

"สมรภูมิตรัง" ตำนานมนต์ขลัง "นายหัว" จับตา "ศึกอบจ." สัญญาณลมเปลี่ยนทิศ? "2ขั้วปชป." เดิมพัน"2ผู้มากบารมี" ลมหวน-แยกทาง 

“เมืองตรัง” ลมเปลี่ยนทิศ?  คำถามที่เกิดขึ้นในช่วง1-2วันที่ผ่านมา หลังมีการปล่อยข่าวผ่านสื่อท้องถิ่น “ชวน หลีกภัย” อาจปิดตำนาน5ทศวรรษชีวิตการเมืองในฐานะผู้แทนราษฎร ด้วยการ “เว้นวรรคการเมือง” ไม่เข้าสภาในการเลือกตั้งสมัยหน้า 

“สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” อดีต ส.ส.ตรัง และอดีตคนคุ้นเคยค่ายสีฟ้า  ที่เวลานี้กลับกลายเป็น “คนนอกพรรค” เนื่องจากประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคไปตั้งแต่เมื่อวันที่11 ธ.ค.2566 คล้อยหลังจากวันเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 2วัน เปิดประเด็นนี้ อ้างถึง “คนใกล้ชิด” พรรคประชาธิปัตย์ด้วยกันเป็นคนให้ข้อมูลดังกล่าว 

เป็นที่รู้กันในมิติการเมืองหากพูดถึงจ.ตรัง แน่นอนว่า หลายคนนึกถึงดินแดนบ้านเกิดอันเป็นมนต์ขลัง “นายหัวชวน” อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานรัฐสภาและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์2สมัย ตามบทเพลง“รักหนุ่มเมืองตรัง”

ทว่าสัญญาณที่เกิดขึ้นเวลานี้ แน่นอนว่า ข่าวคราวที่ถูกปล่อยออกมาไม่เพียงแต่หวังผลไปที่การเมืองภาพใหญ่ กระทบชิ่งไปยัง “ค่ายสีฟ้า” 

จน “ราเมศ  รัตนเชวง” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ต้องชิงสยบข่าวลือดังกล่าวว่า ไม่เป็นความจริง แถมท้าทายไปถึง “คนปล่อยข่าว” ให้เปิดชื่อกรรมการบริหารพรรคที่เป็นผู้ให้ข่าว

แต่เกมลึกไปกว่านั้น อาจหวังผลไปที่การเมือง “ระดับท้องถิ่น” โดยเฉพาะศึกชิง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ “นายกอบจ.”  และสมาชิกอบจ.ทั่วประเทศ ที่จะครบวาระในเดือนธ.ค.นี้และการเลือกตั้งน่าจะเกิดในช่วงต้นปี2568 หรืออีกราว6เดือนข้างหน้า

‘เมืองตรัง’ลมเปลี่ยนทิศ?  ‘มนต์นายหัว’ชิงอบจ.ส่อเดือด

จับตาจังหวะล้างแค้นศึกชิง "นายกอบจ."

ในระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น “เสี่ยตาล สาทิตย์” เปิดใจถึงอนาคตการเมือง พร้อมยอมรับว่า สนใจเรื่องอบจ.ตรัง เคยช่วยหาเสียงตั้งแต่ยุคสมัย“กิจ หลีกภัย” อดีตนายก อบจ.ตรัง พี่ชายชวน

“ครั้งที่แล้วสาธร วงศ์หนองเตย น้องชายลงสมัครรับเลือกตั้ง นายกอบจ.ตรัง แต่ด้วยรัฐธรรมนูญ ไปช่วยหาเสียงไม่ได้ ก็น่าเสียดาย เลยได้ อบจ.ชุดใหม่มา ตอนนี้เป็นความกังวลมีการพัฒนามา 3 ปีกว่าแล้ว แต่ตรังเรายังไปไม่ถึงไหนเลย และตามที่ อบจ.ตรัง ประกาศนโยบายเอาไว้ตั้งหลายข้อ ก็ยังมีคนถามว่าทำครบหรือยัง” 

เวิร์ดดิ้งสำคัญจาการให้สัมภาษณ์ของ “เสี่ยตาล สาทิตย์”  ถูกตีความว่า เสมือนเป็นการส่ง“สาส์น”  แบบกลายๆไปถึง นายกฯ รวมถึงทีมอบจ.ชุดปัจจุบัน ซึ่งกุมอำนาจโดย “บุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ” บ้านใหญ่ย่านตาขาว

ย้อนรอยจุดแตกหัก“2ตระกูล” ประชาธิปัตย์

ย้อนกลับไปในศึกเลือกตั้งอบจ.ครั้งล่าสุดเมื่อปี2563 เวลานั้นเกิดศึก “ชนช้างสีฟ้า”  ระหว่าง“2ตระกูล” แห่งประชาธิปัตย์ ทั้ง “วงศ์หนองเตย” ที่ส่ง“สาธร วงศ์หนองเตย” น้องชายสาทิตย์ลงชิงในนามทีมตรังพัฒนาเมืองตรัง ชนกับ “บุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ” พี่ใหญ่ย่านตาขาว ที่ได้รับการสนับสนุนจากทีม“กิจปวงชน”ของ นายหัวกิจ หลีกภัย อดีตนายกอบจ.พี่ชายนายชวน

ผลการเลือกตั้งครั้งนั้น ปรากฎว่า “บุ่นเล้ง” กำชัยด้วยแคะนน 162,419 คะแนน  ทิ้งห่าง  “สาธร” ที่ได้ 116,366 คะแนน กว่า5หมื่นคะแนน 

‘เมืองตรัง’ลมเปลี่ยนทิศ?  ‘มนต์นายหัว’ชิงอบจ.ส่อเดือด

ยิ่งไปกว่านั้นในศึกดังกล่าวนี้เอง ที่เกิดการปะฝีปากกันไปมา จนนำไปสู่จุดแตกหักระหว่าง2ตระกูล

ถึงขั้น “โกหนอ” สมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีตสส.ตรัง หลายสมัย และเป็นน้องชาย “นายกบุ่นเล้ง”  ประกาศกร้าวแท็กทีม “ทวี สุระบาล” กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงชิงสส.เขต2จ.ตรัง ในนามพลังประชารัฐ ชนกับ “สาทิตย์” แห่งปชป.ซึ่งถูกจัดอยู่ในกลุ่มคนใกล้ชิดอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ขึ้นตรงกับ "นายหัวเมืองตรัง" 

นำมาสู่การจัดเวที “รวมพลคนรักทวี”  สนับสนุนลงชิงส.ส.แข่งกับ “สาทิตย์”

ในการเลือกตั้งสนามใหญ่เมื่อปี2566 ที่ผ่านมา “โกหนอ”ยังให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่นย้ำชัด “สนามเลือกตั้งเขต2ที่เคยจัดเวทีรวมพลคนไม่เอาสาทิตย์ เคยจัดไปแล้ว 3 ครั้ง ยังเหลือครั้งที่ 4 ที่ยังไม่ได้จัด แต่จนมาถึงปัจจุบันนี้หัวใจยังเหมือนเดิม”

และก็เป็นไปตามคาดเมื่อผลเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค.2566  “ทวี” ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ เอาชนะ “สาทิตย์” แบบถล่มทลายไปด้วยคะแนนกว่า 63,185 คะแนน ถือเป็นอันดับ 1 ของประเทศในการเลือกตั้งครั้งดังกล่าว 

โดยนอกเหนือจากเขต2 “ทวี” จากพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบ้านใหญ่ จะกำชัยแล้ว

ยังมีสส.ในคาถาบ้านใหญ่ ทั้งเขต3 สุณัฐชา  โล่สถาพรพิพิธ ลูกสาว “โกหนอ” สมชาย เป็นสส.สมัยที่2 ในนามพรรคประชาธิปัตย์ และเขต4  กาญจน์ ตั้งปอง อดีตส.ท.เมืองกันตัง เด็กปั้นบ้านใหญ่ เข้าสภาเป็นสมัยแรกในนามพรรคประชาธิปัตย์ 

‘เมืองตรัง’ลมเปลี่ยนทิศ?  ‘มนต์นายหัว’ชิงอบจ.ส่อเดือด

ขณะที่ เด็กในคาถา “นายหัวชวน” พ่ายเรียบ ไม่ว่าจะเป็นเขต1 “หมอตุล” นพ.ตุลกานต์ มักคุ้น อดีตแแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลตรัง“เด็กปั้น” นายหัวชวนลงชิงแต่พ่ายให้กับ “ถนอมพงศ์ หลีกภัย” แห่งรวมไทยสร้างชาติ 

โดยในส่วนของถนอมพงศ์ นั้นแม้จะมีศักดิ์เป็นหลานชายนายหัวชวน แต่ว่ากันว่า ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเขาได้รับการสนับสนุนจาก "กำนันคนดัง" รวมถึงกลุ่มการเมืองอีกกลุ่มในการลงชิงในเขตดังกล่าว 

ไม่ต่างจากเขต4 “สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล” อดีตเลขานุการประธานสภาฯลูกรัก “นายหัวชวน” ที่แพ้โพลพรรคจนต้องย้ายค่ายลงชิงในนาม“รวมไทยสร้างชาติ” แต่แพ้ “สส.กาญจน์”เด็กปั้นบ้านใหญ่ 

ศึกเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา “ก๊กสีฟ้า” เมืองตรัง ถูกมองว่า ไม่ต่างอะไรกับ “ไผ่แยกกอ” โดยเฉพาะ “โกหนอ สมชาย” ที่ประกาศอย่างชัดเจนในช่วงหาเสียง ขอช่วยปชป.หาเสียงแค่2เขต คือเขต3 สุณัฐชา และเขต4 กาญจน์ แต่เพียงเท่านั้น  ส่วนที่เหลือเขตใครเขตมัน

"2ขั้ว-2ผู้มากบารมี" เดิมพันลมเปลี่ยนทิศ-ลมหวน 

ไม่ต่างจาก “นายหัวเมืองตรัง” ที่น่าจะรู้สัญญาณมาตั้งแต่ต้น เคยยอมรับเมื่อช่วงเลือกตั้งสส.ในทำนองที่ว่า สนามเมืองตรังเปลี่ยนไป 

ยิ่งเวลานี้  “25เสียงสส.ปชป.” ถูกมองว่าแยกเป็น2ขั้ว โดย “2สส.ตรังสายบ้านใหญ่” เป็น2ใน21สส. ที่ขึ้นตรงกับ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน”  หัวหน้าพรรค ขณะที่ “ชวน” ถูกจัดอยู่ใน4สส.อีกขั้วด้วยแล้ว

เช่นนี้จึงเป็นคำถามว่า สนามเมืองตรังวันนี้กำลังเข้าสู่ช่วง “ลมเปลี่ยนทิศ”  หรือไม่?

ล่าสุดยังมีกรณีที่  “กิจ หลีกภัย”แม่ทัพกลุ่มกิจปวงชน พี่ชายชวน ซึ่งเป็นกลุ่มสนับสนุน “นายกบุ่นเล้ง” เป็นนายกอบจ.รอบที่แล้ว  ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดกรณีการจัดซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างท่าเทียบเรือ อ.กันตัง จ.ตรังด้วยแล้ว

จึงชวนจับตาว่า การเมืองฉบับ “นายหัวกิจ” จะดำเนินต่อไปอย่างไรหลังจากนี้ 

ไม่ต่างจากศึกเลือกตั้งนายก และสมาชิกอบจ.ทั่วประเทศซึ่งจะมีขึ้นในช่วงสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้า

ต้องจับตา “ค่ายที่ฟ้า” จะเกิดปรากฎการณ์ “ลมหวน” ผนึกกำลังสู้สนามอบจ.ตรังอีกครั้ง หรือจะเป็นการตัดขาด “แยกทางกันเดิน-ไม่ร่วมกันตี” ของผู้มากบารมีเมืองตรังในท้ายที่สุด!