'รมว.กลาโหม' อนุมัติกรอบการปะทะใช้อาวุธตอบโต้อากาศยานภัยความมั่นคง

'รมว.กลาโหม' อนุมัติกรอบการปะทะใช้อาวุธตอบโต้อากาศยานภัยความมั่นคง

"รมว.กลาโหม " ลงนามระเบียบกลาโหม อนุมัติกรอบการปะทะให้ชัดเจน กำหนดขั้นตอนการใช้อาวุธตอบโต้อากาศยานเป็นภัยต่อความมั่นคง

เมื่อวันที่ 10 เม.ย.67   ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ระเบียบ กระทรวงกลาโหม ว่าด้วยหลักเกณฑ์ และวิธีการใช้อาวุธประจำอากาศยานหรืออาวุธอื่นต่ออากาศยานที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารหรือที่กระทำการอันเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรืออาจเป็นภัยต่อสาธารณะ พ.ศ.๒๕๖๗  ซึ่งลงนามโดย นายสุทิน  คลังแสง  รมว.กลาโหม โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้( 10 เม.ย.67 ) เป็นต้นไป 

โดยที่เป็นการสมควรกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการใช้อาวุธประจำอากาศยานหรืออาวุธอื่นต่ออากาศยานที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร หรือที่กระทำการอันเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรืออาจเป็นภัยต่อสาธารณะ

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๑๒ (๑) แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการปฏิบัติต่ออากาศยานที่กระทำผิดกฎหมาย พ.ศ.๒๕๕๓ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า "ระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยหลักเกณฑ์ และวิธีการใช้อาวุธประจำอากาศยานหรืออาวุธอื่นต่ออากาศยานที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ ฝ่ายทหาร หรือที่กระทำการอันเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรืออาจเป็นภัยต่อสาธารณะ พ.ศ.๒๕๖๗"

ข้อ ๒  ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ ๓ ในการที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารนำอากาศยานขึ้นสกัดกั้นอากาศยานใดตาม มาตรา ๑๑ หรือเป็นกรณีที่เชื่อได้ว่าอากาศยานใด มีการกระทำ อันอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรืออาจเป็นภัยต่อสาธารณะ ให้ใช้อาวุธประจำอากาศยานหรืออาวุธอื่นได้ตามระเบียบนี้

ข้อ ๔ การใช้อาวุธประจำอากาศยานหรืออาวุธอื่นของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารที่นำอากาศยานขึ้นสกัดกั้นอากาศยานให้กระทำได้เท่าที่จำเป็น เหมาะสมได้สัดส่วน จากเบาไปหาหนัก และเป็นไปตามกฎการใช้กำลัง ข้อบังคับ และระเบียบแบบแผนของทางราชการ

(๑) เพื่อป้องกันตนเอง

(๒)เพื่อบังคับอากาศยานที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารหรือที่กระทำการอันอาจเป็นภัยดังกล่าวให้ปฏิบัติตามคำสั่ง

ข้อ ๕ ในกรณีที่เป็นอากาศยานพลเรือนหากมีความจำเป็นอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ให้ใช้อาวุธประจำอากาศยานหรืออาวุธอื่นของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารที่นำอากาศยานขึ้นสกัดกั้นอากาศยานได้เช่นเดียวกับการปฏิบัติในข้อ ๔ และรายงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมทราบทันที

ข้อ ๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการตามระเบียบนี้

นอกจากนี้ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ยังได้ลงนามออกระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติ กับอากาศยานที่เป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ อีกสองฉบับ  ได้แก่ ระเบียบกลาโหม เรียกเก็บความเสียหายจากอากาศยานที่กระทำผิด  และประกาศกระทรวงกลาโหม เรื่อง การกระทำของอากาศยาน อันอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรืออาจเป็นภัยต่อสาธารณะ 

ด้าน พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) กล่าวถึงการให้สัมภาษณ์ของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในการปกป้องรุกล้ำน่านฟ้าไทย จากการสู้รบภายในเมียนมา ว่า มีการเตรียมพร้อมเครื่องบิน F 16 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถขึ้นสกัดกั้นได้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 นาที ซึ่งขณะนี้เองนายกฯ ยังไม่ได้โทรมาสั่งการเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด เพียงแต่มีการหารือก่อนหน้านี้ประเด็นไฟป่า แต่ยอมรับว่ามีการรายงานกับทาง สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่า รมว.กลาโหม รายงานนายกฯ เรียบร้อยแล้ว 

พร้อมย้ำว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องภายในประเทศเมียนมา แต่ถ้าหากมีการล้ำแดนก็จะต้องมีการตอบโต้ และนำเครื่องขึ้นเพื่อลาดตระเวน ซึ่งวานนี้ก็มีการลาดตระเวนแล้ว 1 ครั้งโดยขณะนี้สถานการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี ส่วนความถี่ในการลาดตระเวนดูแลสถานการณ์หากยังไม่มีอะไรจะสแตนด์บายที่ภาคพื้น

ขณะเดียวกัน ผบ.ทอ. ระบุว่า ระหว่างเหล่าทัพมีแผนในการปฏิบัติภารกิจร่วมกันอยู่แล้ว

 

 


พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์