'คำนูณ' จี้ 'รบ.' แจงให้ชัด ก่อนหั่นงบกลาง ใช้ 'แจกเงิน' ห่วงไม่ถูกตรวจสอบ

'คำนูณ' จี้  'รบ.' แจงให้ชัด ก่อนหั่นงบกลาง ใช้ 'แจกเงิน' ห่วงไม่ถูกตรวจสอบ

"สว.คำนูณ" ห่วง หั่นงบกลาง ใช้แจกเงินดิจิทัล ไม่ถูกตรวจสอบ จี้ "รัฐบาล" แจงให้ชัด ชี้ไม่เคยมีมาก่อน หั่นงบฯ เพื่อใช้โครงการเฉพาะ แทนใช้เพื่อฉุกเฉิน

นายคำนูณ สิทธิสมาน สว. หารือในประชุมวุฒิสภา นัดสุดท้ายก่อนปิดสมัยประชุม   เพื่อเรียกร้องไปยังรัฐบาลประเด็นโครงการเติมเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ที่คาดว่าจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับการเสนอของบประมาณในกฎหมายงบประมาณประจำปีปี 2568 เป็นงบขาดดุลสูงสุด 8.65 แสนล้านบาท ยอดรวมทั้งสิ้น 3.75 ล้านล้านบาท ว่า  ตนเชื่อว่า ครม. จะอนุมัติเห็นชอบตามที่ 4 หน่วยงานของรัฐเสนอกรอบงบประมาณ ปี 2568 มา ทำให้คาดการณ์ทิศทางของโครงการได้ไม่ยาก คือ

1. ไม่ออกกฎหมาย พิเศษกู้เงิน 500,000 ล้านบาท

2.ใช้เงินจากงบประมาณ โดยผสมผสานจากงบ ปี 2568 ที่ขาดดุลเพิ่มจุด 1.5 แสนล้านบาท แล้วตัดออกมาจากส่วนงานอื่นก็น่าจะได้ประมาณ 3.5-3.7 แสนล้านบาทบาท ประเด็นอยู่ที่ ยังขาดเงินมาดำเนินโครงการอีก 1.3 แสนล้านบาท จะเอามาจากไหน จึงมีการคาดการณ์กันว่า ปลอดภัยที่สุด ก็คือ มาจากงบประมาณ ปี 2567 โดยมีการแปลงงบประมาณออกมาอีกไม่เกิน 1.3 แสนล้านบาท ถ้าขาดเหลืออยู่บ้าง ก็จะให้ธนาคารของรัฐปฏิบัติตามมาตรา 28 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง 

"ส่วนตัวเห็นด้วยกับวิธีการใช้เงิน คือ ใช้จากเงินงบประมาณเพราะใน พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายผ่านรัฐสภาแล้ว ไม่ใช่เงินนอกงบประมาณที่ออกกฎหมายพิเศษกู้เงินแต่ปัญหาที่รู้สึกหน้าชาเหมือนถูกตบหน้า เพราะในส่วนที่จะนำเงินมาจากงบประมาณ ปี 2567 ที่ผ่านมาไม่มีใครอภิปรายเรื่องเงินดิจิทัล ทั้งในชั้นของ สส. และ สว. โดยไม่มีชื่อโครงการนี้ อยู่ในร่างงบประมาณ ดังนั้น การจะแปลงงบประมาณออกไป ก็เหมือนกับว่าโครงการไม่ได้ถูกตั้งมาตั้งแต่ต้น ทั้งที่รัฐบาลสามารถทำได้" นายคำนูณ หารือ

นายคำนูณ หารือด้วยว่ารัฐบาลมีความจำเป็นและตนเห็นว่ารัฐบาลต้องแถลงให้ชัดเจนว่า การนำงบประมาณ ปี 2567 ประมาณ 1.3 แสนล้านบาท รัฐบาลจะต้องตราเป็น พ.ร.บ.โอนงบ ประมาณรายจ่ายประจำปี ผ่านสภาตามปกติซึ่งการออกกฎหมายเช่นนี้ จะต้องทำเป็นพระราชบัญญัติเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญการที่จะตัดงบประมาณออกมาได้ 1.3 แสนล้านบาท จากงบกลาง ประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาท จึงเป็นร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณที่แปลกกว่าทุกฉบับที่เคยมีมา เนื่องจากปกติจะตัดจากหน่วยงานอื่นๆ มาไว้ที่งบกลาง แต่กรณีนี้จะตัดจากงบกลาง มาไว้เพื่อใช้ในโครงการใหม่ ที่ไม่เคยมีการพิจารณา

"หากรัฐบาลจะออกร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณ  เงื่อนเวลาจึงสำคัญ เพราะถ้าเผื่อออกกฎหมายโอนงบประมาณมาก่อน จะรู้ได้อย่างไรว่างบกลางจะเหลือ หากก่อน 30 กันยายน เกิดเหตุฉุกเฉิน มีความจำเป็นเร่งด่วน
ที่ต้องใช้งบกลาง สามารถอธิบายได้หรือไม่ ซึ่งประเด็นต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นปริศนา แต่ที่จำเป็นต้องหารือวันนี้ไปยังรัฐบาล ต้องให้ความชัดเจนว่า จะใช้วิธีการใดในการโอนงบประมาณงบ ปี 2567 ออกไป ซึ่งแน่นอนจะต้องตราเป็นพระราชบัญญัติโองงบประมาณ ก็ต้องชี้แจงให้ชัดเจน เพื่อจะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายในกรณีที่เกิดความจำเป็นเร่งด่วน หากต้องใช้งบกลางในอนาคต" นายคำนูณ หารือ.