‘เชียงใหม่’ ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย 5อำเภอ หลังเผชิญวิกฤติ ‘PM2.5’

‘เชียงใหม่’ ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย 5อำเภอ หลังเผชิญวิกฤติ ‘PM2.5’

“โฆษกรัฐบาล” เผย “ผู้ว่าฯ เชียงใหม่” ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย 5 อำเภอ หลังเผชิญวิกฤติ “PM2.5” ชี้ จุดความร้อนจากเมียนมา 7.6 พันจุด ลาว 5 พันจุด เห็นได้ชัด ฝุ่นควันข้ามพรมแดน

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลดำเนินการด้วยความมุ่งมั่น ขอบคุณความร่วมมือร่วมใจจากทุกส่วน ซึ่งผลจากการทำงานอย่างหนักทำให้จุด hot spot น้อยลงกว่าปีที่แล้วมาก และสถานการณ์ PM 2.5 ในภาคเหนือล่าสุด พบว่าจุดกำเนิดของจำนวน hot spot ส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากประเทศไทย โดยมีจำนวน hot spot ในเมียนมากว่า 7,600 จุด ในลาวกว่า 5,000 จุด ในไทยราว 1,600 จุด ดังนั้น จึงเห็นได้อย่างชัดเจนว่าปัญหา PM 2.5 ในปัจจุบันมีสาเหตุหลักมาจากฝุ่นควันข้ามพรมแดน

นายชัย กล่าวว่า ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ตัดสินใจดำเนินการตามขั้นของแผนการจัดการปัญหาวิกฤติมลภาวะทางอากาศ ด้วยการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย และเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉินอัคคีภัยไฟป่า รวม 5 อำเภอ มุ่งเป้าไปที่พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงในบางตำบลภายในเขต 5 อำเภอที่ส่วนใหญ่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้เพื่อเร่งเปิดทางให้การช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ด้านสาธารณสุขสามารถเข้าถึงพื้นที่ได้โดยเร็วที่สุด

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ต่อปัญหา PM 2.5 นั้น ต้องถือว่าเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยทุกภาคส่วนได้ร่วมแรงร่วมใจกันป้องกัน กำกับ และควบคุมสาเหตุต้นทางได้อย่างดีเยี่ยม เป็นไปตามแนวทางที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กำกับดูแลการทำงานอย่างเคร่งครัดเสมอมา ซึ่งทำให้จำนวนจุด hot spot น้อยกว่าปีที่แล้วมาก 

“การดำเนินการของ ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เป็นไปตามขั้นของแผนการจัดการปัญหาฯ ของรัฐบาลซึ่งได้เตรียมการไว้ เชื่อมั่นว่าจะทำให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือ บรรเทาทุกข์อย่างรวดเร็ว ความช่วยเหลือถึงพื้นที่อย่างมุ่งเป้าโดยเร็วที่สุด” นายชัย กล่าว