‘พัชรวาท’ สั่ง กรมคุมมลพิษ ตรวจสอบแคดเมียม เอาผิด หากปนเปื้อนสิ่งแวดล้อม

‘พัชรวาท’ สั่ง กรมคุมมลพิษ ตรวจสอบแคดเมียม เอาผิด หากปนเปื้อนสิ่งแวดล้อม

“พัชรวาท” สั่ง “กรมควบคุมมลพิษ” ตรวจสอบสารปนเปื้อนแคดเมียมสมุทรสาคร รายงานผลเร่งด่วน ห่วงกระทบความรู้สึก ปชช. พร้อมกำชับลงพื้นที่ให้คำแนะนำชาวบ้าน ตั้งคณะทำงานเกาะติดสถานการณ์คลี่คลาย ลั่น เอาผิดหากพบสารปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม จ่ายค่าฟื้นฟู ยึดใบอนุญาต

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีพบสารแคดเมียมกว่า 15,000 ตัน ในจังหวัดสมุทรสาครว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ของกระทรวงแล้ว ซึ่งทันทีที่เกิดเหตุการณ์ สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้เข้าทำการตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้น ยังไม่มีข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบจากสารแคดเมียมในบริเวณดังกล่าว และกากแคดเมียมและกากสังกะสี ซึ่งผสมด้วยปอร์ตแลนด์ซีเมนต์ 30 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันอยู่ในสถานะแข็งตัวและเสถียร หากเก็บไว้ในสถานที่มิดชิดและไม่มีการชำระล้าง จะยังไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ก็ไม่นิ่งนอนใจจึงได้สั่งการไปยังกรมควบคุมมลพิษให้เก็บตัวอย่าง เพื่อตรวจสอบหาสารปนเปื้อนทั้งในโรงงาน ในอากาศ และแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อรายงานผลให้ประชาชนรับทราบโดยด่วน เพราะหากใช้เวลานานเกินไปก็จะส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนได้ 

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า นอกจากตรวจสอบสารปนเปื้อนแล้ว ขอให้กรมควบคุมมลพิษส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่พบประชาชนเพื่อให้คำแนะนำในการดำเนินชีวิตในช่วงนี้ด้วย พร้อมกันนี้กรมควบคุมมลพิษต้องร่วมมือกับผู้ว่าฯ ในการให้คำแนะนำ ปรึกษา ในด้านวิชาการ ช่วยดูแลการขนย้ายและเก็บรักษาแคดเมียมให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด โดยจะมีการตั้งคณะทำงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ดูแลเรื่องนี้จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย 

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวอีกว่า ได้ให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบโรงงานถลุงแร่ว่ามีการจัดทำ EIA และได้ปฏิบัติตามมาตรการ EIA ที่กำหนดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากตรวจสอบแล้วพบว่าสภาพแวดล้อมมีสารปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม ให้ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายโดยเคร่งครัด รวมถึงค่าการฟื้นฟูบริษัทต้องรับผิดชอบตามหลักผู้ก่อมลพิษ หรืออาจจะต้องถูกยึดใบอนุญาตประกอบกิจการจากหน่วยงานที่ให้อนุญาตด้วย