'สว.' รับหลักการ ร่างกม.สมรสเท่าเทียมแล้ว

'สว.' รับหลักการ ร่างกม.สมรสเท่าเทียมแล้ว

147สว. รับหลักการ ร่างกม.สมรสเท่าเทียม คาดชงพิจารณาวาระสอง เดือน ก.ค. มีประเด็นท้วงติง แนะให้มีมาตรการคุ้มครอง จนท. ไม่รับจดทะเบียนที่ขัดหลักศาสนา-เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

ที่วุฒิสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีพล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่...) พ.ศ...​หรือ สมรสเท่าเทียม  วาระแรก หลังจากที่ สภาฯ ส่งให้พิจารณา ทั้งนี้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 136 กำหนดให้วุฒิสภาต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 60 วันนับตั้งแต่ที่รับจากสภาฯ เมื่อ 29 มี.ค.

โดยก่อนการพิจารณา ตัวแทนของสว. ได้รายงานของคณะกรรมการที่ศึกษาไว้ล่วงหน้าจากกรรมาธิการคณะต่างๆ  เช่น กรรมาธิการการกฎหมาย, กรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน อาทิ  นายปัญญา งานเลิศ สว. ฐานะประธานกรรมการศึกษาเนื้อหา ร่างพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม  ซึ่งได้ศึกษาไว้ล่วงหน้า แถลงรายละเอียดว่า  ในการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรมการปกครอง รวมถึงกำหนดระยะเวลาในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายละเอียด ซึ่งกำหนดกรอบระยะไว้ ทั้งนี้ในรายละเอียดจำเป็นต้องแก้ไขพ.ร.บ.ครอบครัว ที่ต้องใช้เวลา และเสนอต่อสภาฯ หากขยายเวลาได้จะมีความรอบคอบมากขึ้น

นายปัญญา กล่าวด้วยว่าการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว อาจกระทบต่อผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์และอิสลามที่ยึดปฏิบัติตามหลักคำสอนทางศาสนา ดังนั้นควรกำหนดหลักเกณฑ์และระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อคุ้มครองการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ต้องรับหน้าที่จดทะเบียนสมรสบุคคลเพศเดียวกัน ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามหลักศาสนาและชอบด้วยกฎหมาย  เนื่องจากร่างกฎหมายดังกล่าวกำหนดให้เจ้าหน้าที่ที่ไม่รับจดทะเบียนเพศเดียวกันถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

ขณะที่ น.ส.ปิยฉัฏฐ์ วันเฉลิม สว. ฐานะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และการตำรวจ กล่าวว่า ในรายละเอียดพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับ กฎหมายอื่นๆ อีก 47 ฉบับ ดังนั้นหากร่างพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมกำหนดให้แก้ไขโดยอัตโนมัติ อาจทำให้ไม่ครบคลุม ไม่สอดคล้องกับเจตนารมของกฎหมายอื่นๆ เช่น ในพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาตรา 102 กำหนดให้ผู้มีตำแหน่งต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน รวมถึงของคู่สมรส ที่ตามกฎหมายป.ป.ช. หมายถึงผู้อยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยา สถานะครอบครัว ขณะเดียวกันการกำหนดให้หน่วยงานของรัฐทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีระยะเวลาใช้บังคับกฎหมายไว้180 วัน กรรมาธิการมองว่าหากทอดเวลาอีกระยะจะทำการพิจารณาร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้ละเอียดรอบคอบ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการอภิปรายของสว. ยังแสดงความกังวลต่อการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่เกี่ยวข้องภายใน 180 วัน ในร่างมาตรา 68 ที่กำหนดให้หน่วยงานทบทวนร่างกฎหมายให้สอดคล้องกับร่างพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ภายใน 180 วัน ซึ่งกังวลว่าอาจจะเป็นระเบิดเวลาและทำให้มีปัญหาเพราะไม่ใช่เกี่ยวกับชายและหญิงเท่านั้นแต่หมายถึงการสมรส นอกจากนั้นในสิทธิรับบุตรบุญธรรม ที่ต้องคำนึงถึงวุฒิภาวะ ไม่ใช่บุคคลเพศเดียวกันที่สมรสกันในอายุ 18 ปีแล้วมีสิทธิรับบุตรบุญธรรมได้ รวมถึงการอุ้มบุญที่ควรพิจารณาให้รอบคอบ

หลังจาก ที่สว. อภิปรายแล้วเสร็จ ได้ลงมติ พบว่า เห็นด้วย147เสียง  ไม่เห็นด้วย 4 เสียง งดออกเสียง7 เสียง  จากนั้นได้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณา  ซึ่งประกอบด้วยสัดส่วนของ สว. ครม. และ ภาคประชาชน ทั้งนี้มีรายงานว่าการพิจารณาวาระสองของ วุฒิสภานั้น จะเกิดขึ้นในการประชุมสมัยหน้า ในเดือนก.ค..