หมดยุค ‘สส.’ งูเห่า ‘บิ๊กเนม’ ปิดสวนกล้วย

หมดยุค ‘สส.’ งูเห่า ‘บิ๊กเนม’ ปิดสวนกล้วย

ในยุคของ “นายกฯ เศรษฐา” และ “รัฐบาลเพื่อไทย” ยุคของการซื้อ “สส. งูเห่า” จึงปิดฉากไปแล้ว แม้บางคน-บางพรรคจะแอบปันใจโหวตให้ขั้วรัฐบาล แต่ไม่มีค่าตอบแทน บรรดา “บิ๊กเนม” ต่างปิดสวนกล้วย เพื่อตุนเสบียงไว้สู้ศึกในสนามเลือกตั้งรอบหน้า

KEY POINTS :

  • กระแสข่าว "สส.งูเห่าสีส้ม" ดอดเข้าพบ "หนึ่งลุง" ก่อนมีการโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2567 ถูกปล่อยออกมาจากฝากฝั่ง "บิ๊กสีส้ม"
  • ท่ามกลางข่าวลือ-ข่าวลวง มี "บิ๊กเนม" จะแอบหวังโหวตคว่ำ พ.ร.บ.งบประมาณ เพื่อบีบ นายกฯ เศรษฐา ให้พ้นจากตำแหน่ง
  • ทว่าปฏิบัติการดังกล่าวต้องเก็บฉากทันควัน เมื่อดีลไปไม่ถึงฝั่งฝัน พรรคร่วมรัฐบาล ไม่เอาด้วย "งูเห่าสีส้ม" จึงถูกลอยแพ

รัฐบาล 314 เสียง มีจำนวนเกินกึ่งหนึ่ง 64 เสียง ถือว่าเสถียรภาพค่อนข้างมั่นคง แถมยังมีพรรคอะไหล่รอเสียบ หาก “ศูนย์รวมอำนาจ” ของพรรคเพื่อไทยต้องการเปลี่ยนเกม ยิ่งทำให้แข็งแกร่งกว่า “รัฐบาลเรือเหล็ก”

การบริหารจัดการเสียงในการผ่านร่างกฎหมาย หรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในอนาคต แทบไร้ปัญหาทางการเมืองให้ต้องกังวลใจ

แตกต่างจาก “รัฐบาลบิ๊กตู่” ระหว่างปี 2562-2566 ที่การบริหารจัดการเสียงปริ่มน้ำในสภาฯ ทุลักทุเล จนต้องมี “มือดีล-มือประสาน” คอยวางเกม-วางบิล รวบรวมเสียง “สส.งูเห่า” เพื่อผ่านร่างกฎหมายสำคัญ รวมทั้งต่อรองทางการเมืองโดยเฉพาะในช่วงศึกซักฟอก

ยุคนั้น “บิ๊กเนม” ผู้ดูแลสวนกล้วย จึงมีแรงต่อรองค่อนข้างสูง แม้จะไม่ได้นั่งเก้าอี้ใดใน ครม. แต่สามารถรวบรวมเสียงกดดัน “รัฐมนตรี” ได้ตลอดเวลา

ทว่า ในยุครัฐบาลเพื่อไทย “ศูนย์รวมอำนาจ” รู้ดีว่าหากต้องการลดแรงกระเพื่อม ต้องมีจำนวน สส. ขั้วรัฐบาล เกิน 300 เสียง จึงจะถือแต้มต่อทั้งในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง และฝ่ายค้าน

ก่อนการโหวตผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 67 มีกระแสสะพัดว่า ตัวตึงในขั้วรัฐบาลมีการเสนอแผนโหวตคว่ำร่างพ.ร.บ.งบประมาณ เพื่อให้ “นายกฯ เศรษฐา” ต้องรับผิดชอบ เนื่องจากเป็นกฎหมายการเงิน 

ห้วงเวลาดังกล่าว บรรยากาศบนถนนรัชดา-วิภาวดี จึงคึกคักมากเป็นพิเศษ เพราะก๊วนตัวตึงรวมหัวกันวางแผนดันหัวหน้าค่ายรายหนึ่งให้สมหวัง ได้ในเก้าอี้ในฝัน โดยพยายามรวบรวมเสียง สส. ขั้วรัฐบาลมาสนับสนุน จากนั้นค่อยไล่ต้อน “สส.งูเห่า” เข้ามาร่วมด้วยช่วยกัน โดยพร้อมรับเข้าค่ายใหม่ข้ามขั้ว

บังเอิญเรื่องนี้ ดันไปสอดรับกระแสข่าว “สส.สีส้ม” เข้าพบบิ๊กเนมระดับ “ลุง” เพื่อขอให้ช่วยดูแล 

จึงทำให้เริ่มเชื่อกันว่า อาจไม่ใช่ข่าวลวง เพราะมีคนการเมืองคอนเฟิร์มกันหลายวง เมื่อเห็นปรากฏการณ์ สส. สีส้ม ย่านปริมณฑล ยกขบวนกันไปเกือบทั้งจังหวัด พร้อมทั้งชักชวนเพื่อน สส. สีส้ม เขตอื่นมาสมทบในภายหลัง หากสามารถคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ได้

ทว่า แผนนี้ มีอันต้องเก็บฉากเร็วเกินคาด เพราะมี “บิ๊กเนม” ในพรรคไม่เอาด้วย และหากจะเปลี่ยนเกม อาจได้ไม่คุ้มเสีย ดีไม่ดี อาจเสี่ยงถูกเขี่ยพ้นพรรคร่วมรัฐบาล เนื่องจากมี “พรรคอะไหล่” รอเสียบ 

ที่สำคัญเสียง สส. พรรคร่วมรัฐบาลอื่นยังปึ้กไม่มีแตกแถว จึงทำให้แผนซื้อ “งูเห่าสีส้ม” ต้องปิดฉากทันที

สถานการณ์การเมือง เวลานี้ “สส.งูเห่า” แทบจะหมดความสำคัญ เพราะ “ขั้วรัฐบาล” ยังไม่ต้องการเสียงเข้ามาเติม เพราะเท่าที่มี ก็เกินความจำเป็นอยู่มาก 

ส่วน “สส. สีส้ม” แม้จะรู้ว่า หากแตกแถวโอกาสกลับมาเป็น สส. แทบไม่มี จึงยอมแลก หากมีพรรคใดพร้อมซื้อบริการ ย่อมมีโอกาสเปลี่ยนชีวิตตัวเอง

เนื่องจากสไตล์การดูแล สส. ของ “พรรคสีส้ม” แตกต่างจากพรรคการเมืองอื่น เพราะเติบโตมาด้วยกระแส ไม่ใช่การเมืองแบบเก่าที่ต้องเลี้ยงดูปูเสื่อ ทำให้ “สส. สีส้ม” ต้องดูแลตัวเอง

ในยุคของ “นายกฯ เศรษฐา” และ “รัฐบาลเพื่อไทย” ยุคของการซื้อ “สส. งูเห่า” จึงปิดฉากไปแล้ว แม้บางคน-บางพรรคจะแอบปันใจโหวตให้ขั้วรัฐบาล แต่ไม่มีค่าตอบแทน บรรดา “บิ๊กเนม” ต่างปิดสวนกล้วย เพื่อตุนเสบียงไว้สู้ศึกในสนามเลือกตั้งรอบหน้า