เช็ก !!สัญญาณ‘อนุรักษนิยม’ ไฟเขียว ‘แดงทักษิณ’ กลับไทย ?

เช็ก !!สัญญาณ‘อนุรักษนิยม’ ไฟเขียว ‘แดงทักษิณ’ กลับไทย ?

ปฏิบัติการช่วยเหลือ “แดงทักษิณ” กลับบ้าน ตามสัญญาณไฟเขียวของ “อนุรักษนิยม” แตกต่างจาก “แดงเฉดอื่น” ที่แทบไม่มีโอกาสได้รับความช่วยเหลือ

KEY POINTS :

  • การกลับมาเหยียบแผ่นดินไทยอีกครั้งของ จักรภพ เพ็ญแข มีการเตรียมการอย่างเป็นขั้นตอน ตรวจเช็คคดีความก่อนตัดสินใจกลับ
  • ต้องยอมรับว่า ทักษิณ ชินวัตร ใช้บริการ แกนนำ นปช. ในการสู้กับเครือข่ายอนุรักษนิยม ทำให้หลายคนต้องหลบหนีออกนอกประเทศ
  • เมื่ออำนาจกลับมาอยู่ในอ้อมอกมือ "ชินวัตร" ดีลช่วย "แดงทักษิณ" กลับประเทศจึงเกิดขึ้น รอจับตา แกนนำ นปช. คนอื่นจะตัดสินใจกลับหรือไม่ เพราะต่างคนต่างมีคดีความแตกต่างกัน

การกลับไทยของ "จักรภพ เพ็ญแข" อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช หลังต้องลี้ภัยทางการเมืองตั้งแต่ปี 2552 รวมกว่า 15 ปี ที่ต้องระหกระเหินอยู่ต่างแดนข

ระหว่างการลี้ภัยมี 5 ประเทศที่ “จักรภพ” ใช้เป็นพื้นที่หลบภัย ฐานที่มั่นหลักอยู่ที่ประเทศกัมพูชา ประกอบธุรกิจทัวร์เสื้อแดง เช่นในยุโรป สหรัฐอเมริกา เพื่อหาเลี้ยงชีพ

มีบางช่วงที่มีสายลับส่งซิกให้ออกจาก “กัมพูชา” โดยเฉพาะช่วงที่มีปฏิบัติการพิเศษในทางลับ “จักรภพ” เลือกกบดานในประเทศทวีปแอฟริกา จนสามารถเอาตัวรอดมาได้

มีกระแสข่าวว่าการกลับไทยของ “จักรภพ” ถูกเตรียมการมาอย่างดี แม้เจ้าตัวจะแจ้งต่อสาธารณะเมื่อวันที่ 27 มี.ค.2567 ก่อนเดินทางกลับวันที่ 28 มี.ค. ใช้เวลาปฏิบัติการหน้าฉากเพียง 1 วัน แต่ปฏิบัติการหลังฉากเตรียมการมานานแล้ว

เมื่อ “จักรภพ” เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 07.35 น. (วันที่ 28 มี.ค.) ตำรวจกองปราบปรามเข้าควบคุมตัวหมายจับในข้อหาร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและเป็นอั้งยี่ พร้อมนำตัวไปกองปราบปรามทันที ก่อนที่พนักงานสอบสวนให้ประกัน2 ข้อหา ข้อหาละ 200,000 บาท

โดยในวันที่ 29 มี.ค. “จักรภพ” จะแถลงรายละเอียดของคดี และแนวทางการต่อสู้คดี พร้อมกับทีมทนาย โดยจะมีการแจกแจงรูปคดีทั้งหมดแบบไม่กั๊ก รวมถึงจะพูดถึงคดีอาญา มาตรา 112 ที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องไปเมื่อ 2554 ด้วย

ว่ากันว่า การบริหารจัดการปมคดี การวางเกมสู้คดี มี “มือดีล” คอยกำกับการแสดงในทุกฉาก และจะใช้เป็นโมเดลรับ “แดงทักษิณ” ที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทยด้วย

“มีการสั่งอดีตแกนนำ นปช. ทุกคนที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศ เช็คคดีของตัวเอง หากใครต้องการเดินทางกลับไทย สามารถแจ้งความประสงค์มาได้” แหล่งข่าวระบุ

ปฏิบัติการรับ “แดงทักษิณ” คืนถิ่น จะไม่เกี่ยวข้องกับ “แดงเฉดอื่น” เนื่องจากมีสัญญาใจกับ “เครือข่ายอนุรักษนิยม” ว่าผู้ที่มีคดี ม. 112 จะไม่อยู่ในเงื่อนไข

จำแนก “แดงทักษิณ” ที่พำนักในต่างแดน อาทิ ประเทศกัมพูชา ประกอบด้วย “อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง” อดีตแกนนำ นปช. (ติดโทษจำคุก 2 เดือน คดียื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ จำคุก 12 เดือน คดีหมิ่นประมาท อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และจำคุก 4 ปี คดีล้มการประชุมอาเซียน)

“วันชนะ เกิดดี” อดีตแกนนำ นปช. (จำคุก 4 ปี คดีล้มการประชุมอาเซียน) “นิสิต สินธุไพร” อดีต สส.ร้อยเอ็ด และอดีต ผอ.โรงเรียน นปช. (จำคุก 4 ปี คดีล้มการประชุมอาเซียน)

ประเทศสหรัฐอเมริกา ประกอบด้วย “จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ” ประธานองค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย อดีต รมว.มหาดไทย และอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย “จารุวงศ์ เรืองสุวรรณ” ลูกชาย  “สุนัย จุลพงศธร” อดีต สส.นครสวรรค์

ประเทศเยอรมัน ประกอบด้วย “วิสา คัญทัพ” ประเทศสหรัฐอเมริกา “สุดา รังกุพันธุ์” อดีตแกนนำกลุ่มปฏิญญาหน้าศาล “จอม เพชรประดับ” อดีตพิธีกรชื่อดัง

ประเทศฝรั่งเศส ประกอบด้วย “จรัล ดิษฐาอภิชัย” ซึ่งได้สิทธิพลเมืองฝรั่งเศส “ศรัณย์ ฉุยฉาย” หรือ อั้ม เนโกะ พลเมืองฝรั่งเศส “สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล” ผู้ลี้ภัย 

กลุ่มสมาชิกวงไฟเย็น ได้แก่ “รมย์ชลี สมบูรณ์รัตนกูล” หรือ แยม ไฟเย็น  “ไตรรงค์ สินสืบผล” หรือ ขุนทอง ไฟเย็น  “นิธิวัต วรรณศิริ” หรือ จอม ไฟเย็น  “วรวุฒิ เทือกชัยภูมิ” หรือดีเจตีโต้

ประเทศฟินแลนด์ “จรรยา ยิ้มประเสริฐ” ประเทศนิวซีแลนด์ “ตั้ง อาชีวะ” หรือ เอกภพ เหลือรา ผู้ก่อตั้งกลุ่มฟันเฟืองประชาธิปไตย และ Gear of Red

ต้องยอมรับว่าในช่วงที่ “ทักษิณ” ยังเป็นศัตรูเบอร์หนึ่งของ “เครือข่ายอนุรักษนิยม” ต้องใช้บริการ “แกนนำ นปช.” เคลื่อนไหวทางการเมือง จนหลายคนประสบชะตากรรมแตกต่างกันไป ดังนั้นเมื่อกลับมามีอำนาจทางการเมือง จึงต้องช่วยเหลือเกื้อกูล

ตรงกันข้ามกับ “แดงเฉดอื่น” โอกาสกลับมาเหยียบแผ่นดินไทยมีน้อยมาก เนื่องจากติดโทษคดี ม. 112 ซึ่งลี้ภัยทางการเมืองอยู่ต่างแดนเช่นกัน

หลังทักษิณกลับไทย ตามมาด้วยจักรภพ และคิวต่อไป จะเป็นสองพ่อลูก-จารุพงศ์ และจารุวงศ์ ที่จะเดินทางกลับไทยในเร็ววันนี้

จากปากคำ จักรภพ เพ็ญแข ระบุชัดว่า "อย่างคุณจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งการที่ผมกลับมา ก็เหมือนหนูลองยา ให้หลายคนมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น”

ทั้งหมดคือปฏิบัติการช่วยเหลือ “แดงทักษิณ” กลับบ้าน ตามสัญญาณไฟเขียวของ “อนุรักษนิยม” แตกต่างจาก “แดงเฉดอื่น” ที่แทบไม่มีโอกาสได้รับความช่วยเหลือ