'จักรภพ'เตรียมประสานแกนนำเสื้อแดงกลับบ้าน เผยเหลือคดี 2 ให้ต่อสู้

'จักรภพ'เตรียมประสานแกนนำเสื้อแดงกลับบ้าน เผยเหลือคดี 2 ให้ต่อสู้

'จักรภพ'เตรียมประสานแกนนำเสื้อแดงกลับบ้าน เผยเหลือคดีต้องสู้ 2 คดี หลังพนักงานสอบสวนให้ประกันตัว บอก ม. 112 อัยการสั่งไม่ฟ้อง

ที่กองบังคับการปราบปราม นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เปิดใจ หลังจากพบพนักงานสอบสวนว่า การตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทย ก็เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา และต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งหลังจากรัฐประหาร 2549 ตนมีคดีเยอะ เกือบ 10 คดี ก็มีทั้งการต่อสู้คดี คดีหมดอายุความ 

ขณะที่คดีมาตรา 112 อัยการก็สั่งไม่ฟ้องไปหลายปี ตอนนี้มีคดีอยู่เพียง 2 คดี ในเรื่องอาวุธปืน และขัดคำสั่ง คสช.ทั้งนี้นายจักรภพให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนให้ประกัน2 ข้อหา ข้อหาละ 200,000 บาท
 

โดยสาเหตุที่ตัดสินใจกลับมาก็เพราะสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป การสร้างประชาธิปไตย มีมากกว่าทำลาย ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะการเข้ามาเป็นรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ทำให้เกิดความมั่นใจในการต่อสู้คดี ยืนยันไม่มีการดีล มีแต่การพูดคุยกันเท่านั้น

เมื่อถามว่าหากรัฐบาลทาบทามให้มาช่วยงาน นายจักรภพกล่าวว่า ยินดีรับใช้ชาติ หากรัฐบาลทาบทาม แต่จะไม่ไปในกรณีที่ทำให้เกิดความขัดแย้งในภาพรวมและพรรคการเมือง หากมีปัญหา ก็จะอยู่เบื้องหลัง
 

เมื่อถามว่าได้ติดต่อนายทักษิณ ชินวัตร ก่อนเดินทางกลับมาหรือไม่ นายจักรภพกล่าวว่า ได้โทรศัพท์คุยกัน 1 ครั้ง ท่านได้พูดคำสำคัญคำหนึ่งว่าหลายอย่างเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เราพูดได้เท่านี้ แต่ไม่ได้พูดคุยเรื่องคดี เพราะเป็นคดีที่คนละแบบกัน แต่ละคนก็ต้องทำการบ้านของตัวเอง

เมื่อถามว่าต่อจากนี้คนเสื้อแดงจะทยอยเดินทางกลับมาหรือไม่ นายจักรภพกล่าวว่า เชื่อว่าเป็นเช่นนั้น และจะขอเสนอตัวช่วยเหลือคนที่อยากกลับมา และกลับมาได้ด้วยการต่อสู้ในคดีความและมีความพร้อม อย่างคุณจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งการที่ตนกลับมา ก็เหมือนหนูลองยา ให้หลายคนมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น

เมื่อถามถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายจักรภพกล่าวว่า เชื่อว่าท่านก็อยากกลับบ้านเหมือนทุกคน และเท่าที่ทราบท่านก็มีคดีแค่จำนำข้าว อย่างอื่นก็หมดไปแล้ว แต่อาจจะเกินกำลังและเกินสติปัญญาที่ตนจะเข้าไปจัดการ ขอช่วยเฉพาะคนที่สามารถช่วยเหลือได้ก่อน

นายจักรภพกล่าวว่า จากนี้จะเข้ามารายงานตัวและสอบปากคำในวันที่ 22-23 เมษายน และจากนี้จะไปไหว้อัฐิพ่อแม่ หลังจากที่ลี้ภัยไปนานกว่า 15 ปี