'สมชาย' ขู่ดัน'ดิจิทัลวอลเล็ต' เจอร้องสอบ ปม'ทักษิณ' วิกฤติยุติธรรม

'สมชาย' ขู่ดัน'ดิจิทัลวอลเล็ต' เจอร้องสอบ ปม'ทักษิณ' วิกฤติยุติธรรม

สว.สมชาย ชำแหละ วิกฤติกระบวนการยุติธรรม "ดิจิทัลวอลเล็ต" หนังม้วนเก่าจำนำข้าว ขู่รัฐบาลดึงดันเดินหน้าเจอยื่นป.ป.ช. ส่วนปม"ทักษิณ" สะท้อนวิกฤติกระบวนการยุติธรรม ปูดแก้ระเบียบเปิดช่องพ้นคุก

การประชุม​วุฒิสภา​ ญัตติเรื่อง ขอเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจง

ช่วงบ่ายได้เข้าสู่ไฮไลท์สำคัญ นั่นคือปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหหมาย

โดยการอภิปรายเริ่มต้นที่นายสมชาย แสวงการ สว. อภิปรายว่า การอภิปรายของวุฒิสภา ที่ผ่านมามีการอภิปรายมาแล้ว5ครั้งครั้งนี้เป็นครั้งที่6 โดย4รัฐบาลนำไปปรับปรุงแก้ไขแต่มีรัฐบาลเดียวที่ไม่ฟังคือนโยบายจำนำข้าวสุดท้ายรัฐมนตรีบางคนถูกดำเนินคดีจนถึงขณะนี้

เช่นเดียวกับดิจิทัลวอเล็ตก็เช่นกัน นอกเหนือจะเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำไม่เกิดประโยชน์ใดๆยังเสี่ยงที่จะผิดกฎหมายอีกด้วย การใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนตนจะไม่ไปก้าวล่วงว่าเป็นการเปิดช่องทุจริต หรือฟอกดำเป็นขาวหรือไม่แต่เม็ดเงินเหล่านี้จะละลายไปกับการแจกที่ไม่ได้ผล 

นายสมชายยังกล่าวว่า เรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นสภาพัฒน์ฯ การธนาคารแห่งประเทศไทย คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)ได้ท้วงติงถึงความจำเป็นรวมถึงข้อจำกัดที่อาจทำให้ขัดกฎหมายส่วนตัวมองว่า หากรัฐบาลต้องการที่จะดำเนินโครงการนี้ทำได้โดยการออกพ.ร.ก.กู้เงิน5แสนล้านตามรัฐธรรมนูญมาตรา53 แต่รัฐบาลก็ไม่ออกซึ่งเป็นการสะท้อนว่าไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน เกิดจากการบริหารประเทศที่ไม่ถูกต้อง 
 

วันนี้เอกสารที่มีไม่ว่าจะเป็นรายงานป.ป.ช. รายงานสตง. พร้อมที่จะยื่นดำเนินคดีในวันที่พ้นตำแหน่งหากรัฐบาลยืนยันที่จะเดินหน้าต่อ

นายสมชาย ยังอภิปรายในฐานะกมธ.สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ยังกล่าวว่า วันนี้ถือว่าเป็นวันสำคัญคือวันที่25มี.ค.2434 คือวันก่อตั้งกระทรวงยุติธรรมแต่วันนี้ตนกลับคิดว่ากำลังขาดความยุติธรรมเกิดขึ้นในประเทศ และเสื่อมวิกฤติยุติธรรมอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยนายกรัฐมนตรีมีส่วนรับผิดชอบเพราะท่านคุมกระทรวงยุติธรรม คุมโรงพยาบาลตำรวจ จนเกิดความยุติธรรมสองมาตรฐาน วันนี้มีนักโทษกว่า2แสนคนอยู่ในเรือนจำ วันนี้เราเรียกร้องการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมต้นน้ำแต่เรามาเจอกระบวนการยุติธรรมท้ายน้ำทำล่มสลาย

วันนี้มีการอ้างถึงระเบียบราชทัณฑ์ให้ใหญ่กว่าศาล มีการเขียนระเบียบให้เกิดช่องว่างทางกฎหมาย จริงนักโทษที่จะได้รับสิทธิตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 มาตรา 52 (7)จะต้องเป็นผู้ประพฤติดี มีการศึกษาดี ช่วยราชการประกอบอุตสาหะมีวิริยะ คำถามคือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีทำตรงไหนบ้าง
 

นายสมชายเปิดคลิประหว่างนายทักษิณ ลงพื้นที่จ.เชียงใหม่ พร้อมอภิปรายต่อว่า ตนเห็นด้วยที่นายทักษิณกลับไทยเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม กระทั่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณลดโทษเหลือ1ปี แต่ปัญหาของเรื่องนี้อยู่ที่การบังคับโทษในระบบการเมืองและราชการผู้ใดทำต้องรับผิดชอบ ที่ผ่านมากมธ.ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นรพ.ตำรวจหรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้าชี้แจงพร้อมมีการเรียกเอกสารถึงอาการป่วยแต่กลับมีการแจ้งว่า เป็นความลับของราชการ ยืนยันว่าตามพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถป้องกันสิทธิผู้ป่วยไม่ให้กมธ.รับทราบได้ เว้นเสียแต่กมธ.จะนำไปเผยแพร่ 

อย่างไรก็ดีในประเด็นการพักโทษ นายทักษิณกรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไปนั้น

เรื่องนี้มีการแก้ไขระเบียบฉบับดังกล่าวโดยเฉพาะประเด็นอายุ70ปีที่มีการแก้จากคำว่า "และ" เป็น "หรือ" เรื่องนี้ป.ป.ช. สามารถตรวจสอบได้กลายเป็นว่าต่อไปนี้ใครจะโกงชาติบ้านเมืองถ้าอายุ70ก็จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องติดคุก

 "ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญและเป็นเรื่องที่สั่นคลอนกระบวนการยุติธรรมอย่างยิ่งผมไม่ได้มาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเพราะไม่มีสิทธิแต่ประชาชนจะไม่ไว้วางใจท่าน คนที่จะถูกดำเนินคดีคือเจ้าหน้าที่รัฐที่เอื้อประโยชน์"