'ปฏิรูปตำรวจ'ฉบับจันทร์ส่องหล้า 'เศรษฐา' โชว์การนำฝ่าศึกสีกากี

'ปฏิรูปตำรวจ'ฉบับจันทร์ส่องหล้า 'เศรษฐา' โชว์การนำฝ่าศึกสีกากี

เดิมพันกู้วิกฤติศรัทธา‘สีกากี’ นายกฯ ออกโรงหย่าศึกส่วนตัว ก่อนลามทั้งองค์กร ​จับตารัฐบาลปัดฝุ่น “ปฏิรูปตำรวจ” รอบใหม่

KEY POINTS :

  • สะเทือนวงการสีกากี เมื่อ นายกฯ เศรษฐา ตัดสินใจใช้ยาแรง โยก "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เข้ากรุ
  • พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีพัวพันเว็บไซต์พนันออนไลน์ วางกรอบ 60 วัน เพื่อหย่าศึกสองบิ๊กตำรวจ
  • หลังจากนี้ต้องรอจับตาการปฏิรูปตำรวจ หรือปรับ-รื้อกฎเกณฑ์ เพื่อกอบกู้ศรัทธาองค์กร

หลายเดือนที่ผ่านมา “บิ๊กตำรวจ” เปิดหน้ารบ สั่นสะเทือนยุทธจักรสีกากี หมุดหมายของสองขั้ว-สองฝั่ง คือการแย่งชิงเก้าอี้อำนาจ พ่วงการชำระแค้นให้เพื่อนพ้องน้องพี่

แต่หนนี้แค้นลุกลามบานปลาย ต่างออกมาสาวไส้ให้กากิน และยากที่จะหย่าศึกให้สงบได้ง่ายๆ ทำให้ “ศูนย์รวมอำนาจ” แห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า ต้องตัดสินใจส่งสัญญาณมาให้ “เบอร์หนึ่งตึกไทยคู่ฟ้า” เปิดปฏิบัติการพิเศษ

จนนำมาสู่คำสั่ง นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ให้ “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล ผบ.ตร. และ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เข้ามาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยมอบหมายให้ “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รอง ผบ.ตร. รักษาการ ผบ.ตร.แทน

ปฏิบัติการของ นายกฯเศรษฐา ในวันที่ 20 มี.ค. เริ่มตั้งแต่ เวลา 11.06 น. เชิญ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เข้าพบ เพื่อรายงานคดีเว็บพนันออนไลน์ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เวลาหารือประมาณ 20 นาที

จากนั้นเวลา 11.50 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ - พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แถลงข่าวร่วมกัน โดยประกาศยุติความขัดแย้ง พร้อมถอนฟ้องคดีความเว็บพนันออนไลน์ทั้งหมดกว่า 200 คดี ก่อนจับมือสงบศึก และถ่ายรูปร่วมกัน

แต่แล้วในเวลา 13.30 น. นายกฯ เศรษฐา ลงนามคำสั่ง ให้ไปปฏิบัติงานที่สำนักนายกรัฐมนตรีและส่งเอกสารไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนจะออกมายืนยันด้วยตัวเอง พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว

โดยมีคณะกรรมการ ประกอบด้วย ฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ชาติพงษ์ จีระพันธุ อดีตรองอัยการสูงสุด พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรอง ผบ.ตร. มีกรอบเวลาการทำงาน 2 เดือน ให้สอดคล้องกับระยะเวลาช่วยราชการ 60 วัน

นายกฯเศรษฐา ได้แจ้งกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไปก่อนแล้วว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งทั้งคู่ยอมรับในหลักการ แต่ไม่สบายใจกับ 3 ชื่อกรรมการสอบ

“หลังจากแจ้งรายชื่อคณะกรรมการให้กับทั้ง 2 ท่านทราบ แน่นอนว่ามีความไม่สบายใจ แต่ก็ยอมรับและถือว่าคนที่จะมาเป็นกรรมการฯ นั้นมีความเป็นกลาง” นายกฯเศรษฐา ระบุ

อย่างไรก็ตาม ปมหักชนวนร้าวระหว่างองคาพยพของฝ่าย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เริ่มตั้งแต่ “คดีกำนันนก” ผู้กว้างขวางใน จ.นครปฐม ก่อเหตุยิง “สารวัตรแบงค์” พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สังกัดกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) เสียชีวิตกลางงานเลี้ยง ภายหลังขอเคลียร์ค่าส่วนทางหลวง แต่ “สารวัตรแบงค์” ไม่ขอเคลียร์ด้วย

โดยคดีดังกล่าวมีตำรวจอยู่ในเหตุการณ์หลายนาย แต่ปรากฏหลักฐานกล้องวงจรปิดว่าไม่มีตำรวจเข้าไปจับกุม “กำนันนก” และมีตำรวจบางส่วนช่วยพาตัวหลบหนี

โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เข้ามารับผิดชอบคดีดังกล่าว พร้อมสอบสวนตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยหนึ่งในนั้นมี “ผู้กำกับเบิ้ม” พ.ต.อ. วชิรา ยาวไทยสงค์ หัวหน้า พ.ต.ต.ศิวกร รวมอยู่ด้วย มีกระแสข่าวว่า ผกก.เบิ้ม ถูกกดดันอย่างหนัก ก่อนจะยิงตัวตาย

หลังจากนั้น 18 ก.ย. 2566 “บิ๊กก้อง” พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ดึงคดีกำนันนก มาสืบสวนเอง

ศึกตำรวจตัดตำรวจ ได้กลับมาปะทุอีกครั้ง ในวันที่ 25 ก.ย.2566 โดยตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) นำหมายค้นเข้าตรวจสอบบ้านพักของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และบ้านที่เช่าไว้ให้ลูกน้องพักรวม 5 หลัง ภายในหมู่บ้านในซอยวิภาวดี 60 หลังสโมสรตำรวจ หลังพบมีเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่

ขณะนั้นอยู่ระหว่างการสรรหา ผบ.ตร.คนใหม่ โดยมีชื่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นคู่ชิง ก่อนที่ ที่ประชุม ก.ตร.จะมีมติเลือก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็นผบ.ตร. คล้อยหลังบุกค้นบ้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพียง 2 วัน

ศึกระหว่างสองบิ๊กส่อเค้าบานปลาย แต่วันที่ 29 ก.ย. 2566 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นัดเคลียร์ใจกัน ก่อนเผยภาพคู่จับมือกันหวานชื่น

ทว่า ระหว่างพักรบข้ามปี กลับมีการก่อตัวของพายุลูกใหญ่ ความเคลื่อนไหวปรากฏขึ้นเมื่อวันที่ 21 ก.พ.2567 หลัง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ รอง ผบช.ก. ทำเรื่องถึง ป.ป.ช. ขอสำนวนคดี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ - พวก 5 คน พัวพันเว็บพนันกลับมาทำเอง

ฝั่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” ตอบโต้กลับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ อย่าล้ำเส้น ป.ป.ช. เนื่องจากอำนาจการสืบสวนการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นอำนาจของ ป.ป.ช. ทั้งคู่เปิดฉากสาดน้ำลาย ท้าทายกันอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ จะมีคำสั่งให้คู่กรณียุติตอบโต้

ด้าน ป.ป.ช. ยืนยันว่าคดี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กรณีพัวพันเว็บพนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่ อยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช. ที่จะสอบสวน ทำให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ต้องยอมถอยฉากออกไป พร้อมกับส่งไม้ต่อให้อีกทีมปฏิบัติการ 

โดยในวันที่ 12 มี.ค. พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น. ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาขอออกหมายจับ กลุ่มนายตำรวจระดับสูงในความผิด ฐานฟอกเงิน ต่อยอดจากคดี สน.เตาปูน ที่เคยขอออกหมายจับคดีเว็บการพนัน BNK Master

โดยศาลอนุญาตออกหมายจับ ผู้ต้องหา 4 ราย เเยกเป็น ตำรวจ 3 นาย และพลเรือน 1 ราย ส่วนนายตำรวจอีก 1 นาย (พล.ต.อ.สุรเชษฐ์) ให้ออกหมายเรียกก่อน

ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เดินเกมเชื่อมสัมพันธ์ “ศูนย์รวมอำนาจ” ด้วยการไปอารักขา “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ระหว่างเดินทางกลับบ้านเกิด จ.เชียงใหม่ วันที่ 14-16 มี.ค.

ส่วนคู่ขัดแย้งเดินเกม นำหมายเรียกติดหน้าบ้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เมื่อวันที่ 18 มี.ค. โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยืนยันว่าหากได้รับหมายเรียกครบ 2 ครั้ง ยังไม่มีรับทราบข้อกล่าวก็เตรียมออกหมายจับ

ท่าที พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ปักหลักสู้ โดยให้ทีมทนายความแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในวันที่ 19 มี.ค. เปิดอักษรย่อ "นายพล ต.-ภรรยา ก.”เปิดเส้นทางเงิน โยงเว็บพนัน

สถานการณ์ความขัดแย้งจากการแฉกันเริ่มลุกลามหนักขึ้น จนทำให้นายกฯ เศรษฐา ต้องออกมาแสดงภาวะผู้นำหน้าฉาก ด้วยการเรียก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มาเคลียร์ ก่อนลงนาม ย้ายเข้ากรุ และตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อเคลียร์ปัญหา

อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่า “ส่วยเว็บพนันออนไลน์” ได้ฝังรากลึกใน “องค์กรตำรวจ” มายาวนาน หากจะล้างบางเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของ “ตำรวจไทย” นายกฯ เศรษฐา อาจจำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการจาก “คนนอก” เข้ามาสอบสวนข้อเท็จจริง สอบหาเส้นทางเงินทุกเส้นว่าเชื่อมโยงกับตำรวจคนใดบ้าง ไม่ว่ายศใหญ่-ยศเล็ก ต้องดำเนินการทั้งหมด

ในอีกมุม ที่ไม่อาจมองข้ามได้ ความขัดแย้งของบิ๊กตำรวจในห้วงเวลานี้ ทำให้คนนึกถึง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มาจากนายตำรวจเก่า และมีเพื่อนฝูงเป็นอดีตนายตำรวจใหญ่

แม้วันนี้ “ทักษิณ”จะไม่ได้เป็นนายกฯ แต่บารมียังเหลือล้น ดูได้จากวันที่กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่เชียงใหม่ เพราะมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และนายตำรวจวิ่งเข้าหามากมาย

เมื่ออดีตนายกฯทักษิณ กลายเป็นศูนย์อำนาจใหม่หลังม่าน จึงถูกคาดหวังจากคนบางกลุ่มให้เข้ามาแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของ 2 บิ๊กตำรวจ

“ตำรวจไทย” เผชิญวิกฤติศรัทธามาอย่างยาวนาน แม้จะมีการตั้งคณะกรรมการ “ปฏิรูป” มาแล้วหลายคณะ แต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาภายในองค์กรตำรวจได้ ถึงเวลาที่ นายกฯ เศรษฐา รวมถึงผู้มากบารมี “บ้านจันทร์ส่องหล้า” ต้องขันน็อตยกใหญ่ เพื่อกู้ศรัทธาจากประชาชน

\'ปฏิรูปตำรวจ\'ฉบับจันทร์ส่องหล้า \'เศรษฐา\' โชว์การนำฝ่าศึกสีกากี