‘ชลน่าน’ โวยไม่จริง สธ. ทำข้อมูล ปชช. หลุด ชี้ เรื่องเกิดก่อนมารับตำแหน่ง รมว.

‘ชลน่าน’ โวยไม่จริง สธ. ทำข้อมูล ปชช. หลุด ชี้ เรื่องเกิดก่อนมารับตำแหน่ง รมว.

“ชลน่าน” ปัด กระทรวงสาธารณสุข ไม่เกี่ยว ประกาศขายข้อมูล ปชช. กว่า 2.2 ล้านรายชื่อ แจง ตรวจสอบแล้ว ไม่มี โวย เสียหายมากบอกหลุดจาก สธ. ชี้ เรื่องเกิดก่อนมารับตำแหน่ง

ที่มหาวิทยาลัยพะเยา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีชมรมแพทย์ชนบท โพสต์ภาพหน้าเว็บไซต์ที่มีการประกาศขายข้อมูลกว่า 2.2 ล้านชื่อ อ้างว่าเป็นข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข ถูกขายในราคาราว 360,000 บาทว่า จากที่ตรวจสอบไม่มีหลักฐานหรือข้อบ่งชี้ใดๆ ว่าเป็นข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข โดยหน่วยงานที่เข้ามาช่วยดูแลเรื่องไซเบอร์และหน่วยงานที่เฝ้าระวังของเรา ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มี จริงอยู่ว่าข้อมูลเป็นเลขบัตรประชาชน 13 หลัก แต่ยืนยันว่าไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงกับกระทรวงสาธารณสุข โดยในวันที่ 20 มี.ค. ตนจะแถลงข่าวเรื่องนี้ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกรรม รักษาความมั่นคง ปลอดภัย ไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) 

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ทั้งนี้ เมื่อเราเจาะลึกลงไป พบว่าข้อมูลที่ปรากฏออกมา อยู่ที่ จ.ปัตตานี ประมาน 100 ชุด โดยข้อมูลที่เป็นข่าว ซึ่งบอกว่าหลุดออกจากกระทรวงสาธารณสุข ทำให้เราเสียหายมาก และเป็นเรื่องที่เกิดก่อนตนจะเข้ามารับตำแหน่ง ตนจึงให้มีการตรวจสอบ มีหนังสือยืนยันแล้วว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง

เมื่อถามว่า ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงสาธารณสุขจะดูแลข้อมูลผู้ป่วยได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขอให้มั่นใจได้ เพราะระบบที่วางไว้ เราให้ความปลอดภัยของข้อมูลเป็นอันดับหนึ่ง อย่างก่อนหน้าเราก็โดนโจมตีที่ จ.ร้อยเอ็ด แต่เราก็ตรวจเจอและป้องกันได้ก่อน เป็นระบบที่เราวางไว้ทั้งหมด

เมื่อถามว่า โรงพยาบาลในต่างจังหวัดอาจไม่มีผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีมาดูแล จะจัดการอย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ต้องแยกเป็นสองส่วน

1.โรงพยาบาลที่เข้าสู่ระบบที่มีการเชื่อมโยงกัน นำร่องเป็นข้อมูลระบบเดียวกัน แบบในสี่จังหวัดนำร่อง จะมีการดูแลระบบอย่างเข้มข้น ซึ่งแต่ละโรงพยาบาลจะมีวอร์รูมเฝ้าระวังอยู่ตลอด

2.ในส่วนโรงพยาบาลที่ยังไม่ได้เชื่อมระบบ จะเป็นการพัฒนาบุคลากร ให้ดูแลเฉพาะที่ เมื่อเขาพร้อมเข้าสู่ระบบ ซึ่งเราจะมีการเปิดระบบในโรงพยาบาล 20 แห่ง ช่วงเดือนพฤศจิกายน

เมื่อถามว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ถอดบทเรียนจากแฮกเกอร์แล้วใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราไม่ได้ท้าทาย เรามีหน้าที่เฝ้าระวังและป้องกัน ผู้ที่เป็นแฮ็กเกอร์ เขาคงมีความชํ่าชอง และมีประสบการณ์เยอะ การที่จะรู้เขาและเรา ว่าระบบจะมีมาตราการอย่างไร ทำงานแบบนี้ต้องมีความมั่นใจ