ดีเบตแก้ไฟป่า! 'พิธา' ลั่นเตรียมอภิปรายในสภา 'เศรษฐา' โชว์3ข้อโต้กลับ
![ดีเบตแก้ไฟป่า! 'พิธา' ลั่นเตรียมอภิปรายในสภา 'เศรษฐา' โชว์3ข้อโต้กลับ](https://image.bangkokbiznews.com/uploads/images/md/2024/03/DBKfwTSyYnSKPN5cW1zQ.webp?x-image-process=style/LG)
ศึกดีเบตแก้ไฟป่า! "พิธา" โพสต์ลงพื้นที่เชียงใหม่ติดตามไฟป่า ลั่นเตรียมข้อมูลอภิปรายในสภา ด้าน "เศรษฐา" โชว์3ข้อโต้กลับ ยันเบิกจ่ายงบกลาง มีมาตรการเด็ดขาด
หลังมีการจับตาการลงพื้นที่ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่จ.เชียงใหม่ เพื่อรวบรวมข้อมูล เกี่ยวกับปัญหาฝุ่นพิษ และหมอกควันไฟป่า ที่ในขณะนี้ภาคเหนือ โดยเฉพาะที่เชียงใหม่ วิกฤตหนักที่สุดในรอบปี
ล่าสุดความเคลื่อนไหว นายพิธา ได้มีการโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Pita Limjaroenrat - พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ระบุว่า
“10 ปากว่าไม่เท่าตาเห็น”
ต้องขอขอบคุณ พี่หนูหริ่ง - สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก. ลายจุด และทุกๆ ท่านจากมูลนิธิกระจกเงาที่พาผม และทีมงาน ไปดูปัญหาที่เกิดขึ้น รวมทั้งปฎิบัติงานในสถานการณ์จริง และถ่ายทอดประสบการณ์ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาของไฟป่า และ PM 2.5 ให้ผมได้ซึมซับ นำกลับไปใช้ อภิปรายในสภาได้
พอได้อยู่หน้างานจึงได้เข้าใจอะไรที่มากขึ้น ที่ได้นั่งฟังจากอธิบดี หน่วยงานต่างๆ ว่าทำไม่ได้ อันตรายแค่ไหน? ร้อนแค่ไหน? เดินสูงแค่ไหน? เทคโนโลยีเพิ่มความแม่นยำ ประสิทธิภาพ ลดเวลาหน้างานได้อย่างไร?
ขอขอบคุณเจ้าหน้าป่าไม้ และเหยี่ยวไฟ ข้าราชการ พนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกท่านที่ทำงานอย่างหนัก ทั้งๆ ที่ค่าตอบแทนน้อย อุปกรณ์น้อย แต่มีความเสี่ยงสูงมากครับ
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีการโพสต์ผ่าน x @Thavisin ถึงการลงพื้นที่เชียงใหม่ เพื่อติดตามปัญหาฝุ่นพิษและหมอกควัน โดยระบุว่า
เราต้องยอมรับกันก่อนว่า ปัญหา PM 2.5 ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นมาจากปัญหาเศรษฐกิจ ผม ท่านรองนายกฯ และส่วนที่เกี่ยวข้องได้พยายามหาแนวทางกำจัดซากใบไม้ และซากพืชผลทางการเกษตรโดยใช้จุลินทรีย์ หรือเอาซากพืชนำไปแปรรูปเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ไม่ให้เกิดการเผาในพื้นที่
นอกจากนี้ ผมขอเคลียร์ก่อนว่า
1. งบกลางที่ตั้งไว้เพื่อจ้างเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าตอนนี้เบิกจ่ายได้จริงแล้ว
2. แต่ผมขอว่าต้องเป็นคนในพื้นที่เท่านั้น เพราะคนพื้นที่จะรักและเข้าใจในพื้นที่ของตัวเอง
3. ขอฝากเรื่องความปลอดภัยของอาสาสมัครดับไฟป่าด้วย อุปกรณ์ต่าง ๆ ขอให้มีครบถ้วนสำหรับผู้ปฏิบัติหน้าที่ครับ
ขณะที่ปัจจัยภายนอก ซึ่งก็คือฝุ่นที่พัดมาจากประเทศเพื่อนบ้านนั้น ผมและรัฐบาลก็จะเร่งหาแนวทางเพิ่มเติมในการเจรจาความร่วมมือในการหยุดเผา ซึ่งถ้าหยุดได้ PM 2.5 จะลดลงไปถึง 40-100% รัฐบาลอาจจำเป็นต้องพิจารณาเรื่องการออกมาตรการเด็ดขาด เรื่องการห้ามนำเข้าข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้านในช่วงไฮซีซั่นของฝุ่น คือ ม.ค.- เม.ย. ในปีหน้า หากมีตัวชี้วัดชัดเจนว่านี่คือสาเหตุหลักของปัญหา PM 2.5 ของเรา
ที่ผ่านมาเราทำได้ดีขึ้น แต่เรายังต้องทำให้ได้ดีกว่านี้อีก พี่น้องประชาชนยังหายใจไม่ได้ เราต้องทำให้เชียงใหม่เป็นเมืองที่น่าอยู่น่าเที่ยว สำคัญที่สุดคือสุขภาพของคนเชียงใหม่ของคนไทยที่เป็นข้อกังวลของผมและรัฐบาลครับ
เห็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเฝ้าระวังและดับไฟป่ากันอย่างแข็งขันกันตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ผมจึงอยากมาให้กำลังใจครับ
ผมขอขอบคุณพวกเราทุกคนที่ช่วยกันปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งอดทน เพราะว่าเราทราบกันดีอยู่ว่า PM 2.5 เป็นปัญหาใหญ่ และยังต้องทำการแก้ไขกันต่อไป นอกจากนี้…