ปมกองทัพ‘ดีลลับ’การเมือง ปรากฏการณ์ดูแล VVIP

ปมกองทัพ‘ดีลลับ’การเมือง   ปรากฏการณ์ดูแล VVIP

ความเคลื่อนไหวบุคคลสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการเมืองไทย ทำให้เห็นร่องรอยความเชื่อมโยง“ดีลลับ”ในอดีต ผ่านการอำนวยความสะดวกให้ VVIP

KEY

POINTS

 

  •  "บิ๊กแดง" ลาพักร้อนเพราะปัญหาสุขภาพ และอยู่ในความดูแล “หมอเพลิน”บุตรสาวอย่างใกล้ชิด
  • "พล.อ.ทรงวิทย์" ล็อกคิวเข้าสักการะศาลหลักเมือง ในช่วงเวลาเดียวกับ "ทักษิณ" โดยระบุเป็น VVIP แต่เจ้าตัวไม่ได้เดินทางมา
  • หลักสูตรมินิ วปอ.ถูกครหาเปิดเพื่อ "แพทองธาร'

ความเคลื่อนไหวบุคคลสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการเมืองไทย ทำให้เห็นร่องรอยความเชื่อมโยง“ดีลลับ”ในอดีต ผ่านการอำนวยความสะดวกให้ VVIP

ทหาร กำลังรู้สึกถูกรุกล้ำอธิปไตย ส่วนหนึ่งเชื่อกันว่าเป็นผลพวงจาก “ดีลลับ” ของอดีตผู้บังคับบัญชาที่ไปทำกันไว้กับฝ่ายการเมือง ส่งผลให้ผู้บังคับบัญชาปัจจุบันต้องยอมจำนนทุกอย่าง สนามฝึกถูกชาวบ้านรุกคืบ ด้วยความเชื่อที่ว่า จะได้รับสิทธิ์ ตามนโยบายของรัฐบาลนำที่ดินกองทัพไปให้ประชาชนทำกิน

กลายเป็นปัญหาให้ทหารต้องไปบริหารจัดการกันเอง หมุนเวียนใช้พื้นที่ฝึกให้เกิดความเคลื่อนไหว ไม่ให้ว่างเว้นเป็นช่องให้ชาวบ้านรุกคืบเข้ามา จากเดิมรุกล้ำอยู่แล้ว มาเจอนโยบายรัฐบาลหวังเรียกคะแนนเสียง เปรียบเหมือนตัวเร่งให้รุกล้ำเพิ่มขึ้นอีก เห็นชัดเจน พื้นที่ฝึกบ้านดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี รวมถึงพื้นที่ฝึกจังหวัดอื่นๆ เจอปัญหาเช่นเดียวกัน

สวัสดิการภายในหน่วยทหารถูกโอนถ่ายไม่ต่างกับสวัสดิการทหารเชิงธุรกิจ ทั้ง สนามกอล์ฟกานตรัตน์ (สนามงู) สนามธูปเตมีย์ ของกองทัพอากาศ ต่อไปถึงคิวกองทัพบก ททบ.5

กองบิน 41 จ.เชียงใหม่ พื้นที่ฐานเสียง สถานที่ตั้งเครื่องบินทางยุทธวิธี แหล่งชั้นความลับสูง มีเขตพระราชฐาน สั่งให้เปิดเส้นทางอำนวยความสะดวกประชาชนบรรเทารถติด ส่วนทหารอากาศต้องไปบริหารจัดการ แก้ปัญหากันเอง

ส่วน กองทัพเรือ ต้องตกเป็นจำเลยสังคม ปมขายไฟฟ้าในพื้นที่สัตหีบให้ประชาชนและภาคธุรกิจ จากเดิมที่ผลิตใช้กันเองในหน่วย ต้องแสดงเจตจำนงส่งมอบ ทั้งที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคยืนยันไม่พร้อมรับมาดูแล แต่ฝ่ายการเมืองกลับไม่พูดถึง

โครงการใหญ่ จัดซื้อจัดหาเรือฟริเกต สมรรถนะสูง 1 ลำ วงเงิน 17,000 ล้านบาท ของกองทัพเรือหวังเสริมเขี้ยวเล็บ อ่าวไทยทั้ง 2 ฝั่งถูก กมธ.ฝั่งเพื่อไทยตีตก หลังได้รับไฟเขียวจากรัฐบาลด้วยเหตุผล หวั่นงบฯ กลาโหมพุ่งสูง ขัดนโยบายที่เคยหาเสียงไว้

ยาขมคนในกองทัพ ปรับโครงสร้าง ลดกำลังพล ปิดตำแหน่ง ได้รับผลกระทบกันไปเต็มๆ 
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) อนาคตจะมีสถานะเป็นพลเรือนเต็มตัว รัฐบาลเตรียมเรียกทหารนั่งตำแหน่งรอง ผอ.รมน.จังหวัด กลับเข้ากรมกอง

สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ก็จะไร้ซึ่งทหาร แต่จะเปลี่ยนเป็นข้าราชการพลเรือนเข้ามาทำหน้าที่แทนทั้งหมด รวมถึงกรมพระธรรมนูญทหาร กรมการแพทย์ทหาร ฝ่ายการเงิน ธุรการของทุกเหล่าทัพ

หรือแม้แต่การเปิดหลักสูตรมินิ วปอ.ที่คนในกองทัพบางส่วนเชื่อว่า หลักสูตรนี้เพื่อ “แพทองธาร ชินวัตร” หวังสร้างคอนเนกชั่น ปูพื้นฐานก้าวขึ้นเป็น นายกฯหญิงคนที่ 2 ของพรรคเพื่อไทยในอนาคต

แม้บรรดาบิ๊กๆ ทหาร จะดาหน้าออกมาอธิบายคนในกองทัพว่าไม่เกี่ยวข้อง หลักสูตรนี้ริเริ่มกันมานานแล้ว แต่ยังไม่ลงตัว ติดเรื่องงบประมาณ ปรับปรุงเนื้อหาในหลักสูตรให้สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน และถูกหยิบมาปัดฝุ่นตั้งแต่ยุค “บิ๊กแก้ว” พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสูดคนที่แล้ว ก่อนเกษียณอายุราชการ

ส่วน ผบ.ทหารสูงสุดคนปัจจุบัน “บิ๊กอ๊อบ” พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ก็สานต่อ เนื่องจากเห็นความสำคัญ หวังลดช่องว่างทางความคิดของคนยุคใหม่เป็น ทหาร นักการเมือง นักธุรกิจ ปรับจูนเข้าหากัน เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศร่วมกันในอนาคต

ทว่า ไม่ได้ทำให้คนในกองทัพหายคลางแคลงใจ เพราะมองว่า ทั้ง “พล.อ.เฉลิมพล-พล.อ.ทรงวิทย์” มีความใกล้ชิด และได้รับการผลักดันจาก “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองราชเลขาธิการพระราชวัง ในสมัยเป็น ผบ.ทบ.ให้มาจ่อคิวนั่งเก้าอี้ ผบ.ทหารสูงสุด ต่อกัน

ผูกโยงกับภาพร่วมคณะ พล.อ.อภิรัชต์ ของพล.อ.เฉลิมพล ไปลังกาวี ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 5-7 พฤษภาคม 2566 และถูกครหาไปพบ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี มีดีลลับการเมืองก่อนเลือกตั้งปี 2566

ปัจจุบันข่าว พล.อ.อภิรัชต์ มีปัญหาสุขภาพส่งต่อๆ กันมา ผ่าน “บิ๊กทหาร”ในกองทัพ ทั้งโรคหัวใจ ไซนัสอักเสบเรื้อรัง และล่าสุดประสบอุบัติเหตุไหล่ขวาหลุด มีประวัติการรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า

โดยสถานะปัจจุบันของ พล.อ.อภิรัชต์ อยู่ระหว่างพักร้อน หลังเข้าทำหน้าที่ในตำแหน่งรองราชเลขาพระราชวัง ได้ 3 ปี 6 ดือน และอยู่ในความดูแลบุตรสาว “หมอเพลิน” พันตรีหญิง แพทย์หญิง อมรัชต์ คงสมพงษ์ อายุรศาสตร์โรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าอย่างใกล้ชิด

หรือแม้แต่การเข้าสักการะศาลหลักเมืองของ อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ช่วงเช้ามืดของวันที่ 14 มี.ค.ก่อนบินไปเชียงใหม่ ก็ถูกวิจารณ์ขรม หลังปรากฏชื่อ พล.อ.ทรงวิทย์ ล็อกคิวเข้าสักการะศาลหลักเมืองในช่วงเวลา 05.30 น.ของวันเดียวกัน โดยระบุเป็น VVIP แต่ไม่ได้เดินทางมา

ความเคลื่อนไหวบุคคลสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการเมืองไทย ทำให้เห็นร่องรอยความเชื่อมโยง“ดีลลับ”ในอดีต ผ่านการอำนวยความสะดวกให้ VVIP

จากนี้ต้องเตรียมนับถอยหลัง ในวันครบกำหนด “บิ๊กแดง”ลาพักร้อน ว่าจะกลับมาอยู่ในสถานะใด ท่ามกลางคลื่นใต้น้ำในกองทัพ ซึ่งเป็นทหารรุ่นใหม่ได้เริ่มก่อตัว จะกลายเป็นคลื่นลูกใหญ่หรือไม่ เป็นเรื่องต้องติดตาม