เรื่องใหญ่! อัยการถกข้อกฎหมายปม ป.ป.ช.ขอคืนสำนวน 'บิ๊ก ตร.' พันคดีมินนี่

เรื่องใหญ่! อัยการถกข้อกฎหมายปม ป.ป.ช.ขอคืนสำนวน 'บิ๊ก ตร.' พันคดีมินนี่

รอง อสส.นั่งหัวโต๊ะหารือข้อกฎหมาย หลัง ป.ป.ช.ยื่นคำร้องขอเรียกคืนทุกสำนวน คดีกล่าวหา 'บิ๊กตำรวจ' พัวพันเว็บพนันออนไลน์ 'มินนี่' ชี้เรื่องใหญ่-สำคัญมาก มีผลกระทบกับอำนาจทางกฎหมาย

เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่สำนักงานอัยการสูงสุด (สำนักงาน อสส.) ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กทม. นายสุรจิต พัฒนสาร รองอัยการสูงสุด เป็นประธานการ ประชุมข้อกฎหมาย สำคัญ ในคดีที่มีการกล่าวหากลุ่มนายตำรวจ และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่พัวพัน เว็บพนันออนไลน์มินนี่ โดยมีตัวเเทนของสำนักงานอัยการสำนักงานการสอบสวน, สำนักงานอัยการคดีเยาวชน, สำนักงานอัยการคดีพิเศษ, สำนักงานอัยการคดีปราบปรามการทุจริต เป็นสำนักงานอัยการที่รับสำนวนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว 

โดยที่ประชุมมีการสอบถามข้อมูลถึงสำนวน ที่เข้ามายังสำนักงาน เเต่ละสำนวนว่ามีไทม์ไลน์อย่างไร เเละเเต่ละสำนวนมีความเชื่อมโยงอย่างไร เเละยังมีประเด็นข้อกฎหมายหรือข้อเท็จจริงกรณีที่ ป.ป.ช. อาจมีการขอเรียกสำนวนคืนจากพนักงานสอบสวน ที่มีการส่งพนักงานอัยการเเล้ว สามารถทำได้หรือไม่ เพียงใด ในวันนี้มีการขอความเห็นของตัวเเทนอัยการที่เข้าร่วมประชุม เเละอัยการสำนักงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมส่งนำเสนออัยการสูงสุด (อสส.) พิจารณาดำเนินการต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมได้หารือถึงประเด็นที่ ป.ป.ช. กำลังจะขอคืนสำนวนที่ส่งถึงมืออัยการ เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่เเละสำคัญมาก เกี่ยวกับอำนาจตามกฎหมาย

สำหรับคดีที่มีการกล่าวหากลุ่มนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เเละพลเรือนที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันดังกล่าว เดิมสำนวนทั้งหมดทางพนักงานสอบสวนของตำรวจได้สืบสวนสอบสวน โดยมีอัยการจากสำนักงานการสอบสวนไปร่วมสอบ ได้สรุปสำนวนพร้อมความเห็นส่งไปที่อัยการสำนักงานปราบปรามการทุจริตฯ เเต่ภายหลังมีการคืนสำนวนบางส่วนที่ไม่เกี่ยวกับเจ้าพนักงาน กลับไปยังพนักงานสอบสวนตำรวจ หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนตำรวจจึงมีการส่งสำนวน ไปยังสำนักงานอัยการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

จนสำนวนที่มีการกล่าวหานายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ทางที่ประชุม ป.ป.ช. ได้พิจารณามีมติรับสำนวนจากตำรวจ เเละมีมติรับพิจารณาไต่สวนเอง นอกจากนี้ที่ประชุม ป.ป.ช. ยังเห็นสมควรให้เรียกสำนวนคดีกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องในส่วนแรกจำนวน 14 ราย ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามทุจริต รับดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมายไปก่อนหน้านี้ กลับไปดำเนินการไต่สวน โดยให้เป็นสำนวนเดียวกันด้วย สำนักงานอัยการสูงสุด จึงให้มีการประชุมพิจารณาในเรื่องนี้ก่อนที่จะดำเนินการมีคำสั่งอย่างใดต่อไป