'นายกฯน้อย'ลั่น 6 เดือนรัฐบาลผลงานอื้อ - ดัน 'ผ้าขาวม้า' เทียบ LOUIS VUITTON

'นายกฯน้อย'ลั่น 6 เดือนรัฐบาลผลงานอื้อ - ดัน 'ผ้าขาวม้า' เทียบ LOUIS VUITTON

'นายกฯน้อย'ร่ายยาวโต้รัฐบาลไร้ผลงาน ตอก ส.ว.แต่งตั้ง ยก 6 เดือนทำอื้อ ด้านสาธารณสุข-ขึ้นราคายางไม่บังเอิญ-แก้ 3 จชต.ด้วยมุมมองใหม่ ขอ สว.ลากตั้ง-นักวิจารณ์ อย่ามองแคบ หวังดัน 'ผ้าขาวม้านายกฯ' เทียบ LOUIS VUITTON ที่เอาผ้าพันคอผ้าอาหรับมายกเป็นไฮเอนด์

ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ สว. กล่าวหานายกรัฐมนตรีเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศ ว่าไม่มีผลงานที่เป็นรูปธรรมว่า สว. ชุดนี้มาจากการแต่งตั้ง อาจจะมองไม่รอบด้าน เพราะผลงานในประเทศตั้งแต่วันแรกที่นายกรัฐมนตรีเข้ามา มีการดำเนินการลดราคาพลังงาน เช่นค่าไฟฟ้า 

รวมถึงการพักหนี้เกษตรกร ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าเราเร่งทำงานจนคนนึกว่าเรื่องเหล่านี้เราได้มาง่ายๆ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาลใช้ความพยายาม และเรายังมองถึงเรื่องการปรับโครงสร้างพลังงาน 

ส่วนเรื่องการให้บริการทางด้านสาธารณสุข ก็มีการฉีดวัคซีนไปแล้วล้านรายแล้ว รวมถึงการยกระดับโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค หรือ 30 บาทพลัส ซึ่งเมื่อช่วงแรกมีการนำร่องใน 4 จังหวัด และปัจจุบันเพิ่มอีก 8 จังหวัดเป็น 12 จังหวัด
 

ในขณะที่เรื่องของพืชผลทางการเกษตรโดยรวมแล้วเราปรับขึ้นไป 40 เปอร์เซ็นต์ ยืนยันว่าทุกอย่างไม่ฟลุ๊ค แต่เกิดจากการบริหารจัดการทั้งสิ้นโดยเฉพาะราคายางพารา ที่ขึ้นจาก 50 กว่าบาทต่อกิโลกรัมเป็น 80 กว่าบาท ย้ำว่าสิ่งเหล่านี้ต้องใช้การจัดการ ทั้งการหาตลาด และการป้องกันการนำเข้ามาแบบผิดกฎหมาย ส่วนราคาข้าวที่ในที่สุดก็ขึ้นสูง เป็นต้น

สำหรับเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศ  ถ้ามองเป็นจุดๆ แบบแคบๆ และคอยหาแต่เรื่องจับผิด มันก็จะหาเจออยู่อย่างนั้น แต่ถ้ามองเป็นการบริหารแบบยุทธศาสตร์ที่มีความเชื่อมโยงกัน การที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปประเทศ ไปทำให้คนรู้จัก และทำให้เกิดการติดต่อค้าขายค้าขายมากขึ้น ให้มีความมั่นใจขึ้น 

"เพราะความมั่นใจคือพื้นฐานของเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย และอย่าลืมว่างบประมาณรายจ่ายปี 67 ยังไม่ผ่านสภาฯ ซึ่งรัฐบาลใช้การบริหารจัดการทั้งหมดทั้งสิ้น ผลลัพธ์คือทำให้ สร้างรายได้ และเพิ่มโอกาสอย่างมากมาย"
 

ส่วนเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ที่จะใช้ในการปรับโครงสร้างสำคัญ เรายังติดเกาะกฎหมายต่างๆ ทำให้เรายังไม่สามารถทำได้ ซึ่งขณะนี้เราพยายามฝ่าฟันและดำเนินการอย่างเต็มที่ 

ขณะเดียวกันเรื่องการท่องเที่ยว ยอดของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในปลายปีที่แล้ว เราตั้งเป้า 25 ล้านถึง 28 ล้านคน และ 2 เดือนแรกก็เพิ่มมาอีก 50 เปอร์เซ็นต์ จึงอยากถามว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความพยายามที่เข้ามาหรือ และนี่ไม่ใช่ความพยายามที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางไปต่างประเทศของนายกรัฐมนตรีหรอกหรือ

“นักวิจารณ์หลายคนบอกว่าไป 3 จังหวัดภาคใต้ไปไม่ถึงฐานรากปัญหาของพื้นที่ ก็เพราะเราแก้ปัญหาแบบเดิมๆ มา 20 ปีไง ซึ่งตอนนี้เราแก้แบบเดิมนั่นแหละ แต่เราบวกด้วยวิธีใหม่“

ทั้งเรื่องของเศรษฐกิจ และการเพิ่มโอกาส ยกตัวอย่าง ผ้าพันคอ และกระเป๋าที่นายกฯ ใช้ไปเยือนต่างไม่ใช่ประเทศ ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ หากจำกันได้ยังมีผ้าพันคอ LOUIS VUITTON  ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากผ้าโพกหัวของชาวตะวันออกกลาง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งจากปรากฏผลในอนาคต 

ส่วนเรื่องในระยะยาวนักลงทุนต่างๆ จะเข้ามา ซึ่งขณะนี้เรากำลังแก้กฎหมาย และกฎระเบียบ ให้ นักลงทุนเข้ามาสะดวก และง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งในระยะเวลาอันใกล้นี้จะเข้ามาอย่างชัดเจน 

โดยขณะนี้มีการติดต่อให้สร้างอีเวนต์สำคัญในประเทศอย่างน้อย ประมาณ 3-4 รายที่กำลังเจรจากันอยู่ โดยทั้งหมดทั้งมวลนี้ไม่ใช่ผลงานหรือ หากเรามองกันอย่างแคบๆ และจ้องจับผิด ก็จะหาไม่เจอความสำคัญของสิ่งเหล่านี้