'จุรินทร์' ชี้ 'ยิ่งลักษณ์' กลับไทยต้องเข้ากระบวนการ หยุดทำลายระบบยุติธรรม

ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯจะเดินทางกลับประเทศไทยว่า ความจริงคุณยิ่งลักษณ์ไม่มีใครห้ามไม่ให้กลับ แต่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ที่ไม่กลับเพราะว่าหนีคดี ไม่ใช่ว่าคนและประเทศไทยไม่ให้กลับ

ก็อยู่ที่ตัวยิ่งลักษณ์ว่าสุดท้ายแล้วจะตัดสินใจอย่างร แต่จะทำอะไรถ้าไม่ถูกก็ต้องเกรงใจประชาชนบ้าง เพราะว่าหลักกฎหมายบ้านเมืองมี ผิดก็ต้องรับผิด ถูกก็ต้องรับถูก สำหรับประเทศของเรา จะมาทำลายเหยียบย้ำทั้งหมด วันหนึ่งก็จะย้อนกลับมา ขอฝากเตือนไว้ไม่มีอะไร

เมื่อถามว่า การที่ศาลฏีกายกฟ้องเป็นการปูทางให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับประเทศ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ถ้าจะกลับก็ไม่ต้องกลัว กลับได้ แต่คดีที่ค้าง หรือโทษที่ศาลตัดสินใจไว้ก็ยังคงอยู่ เพราะฉะนั้นก็ต้องว่ากันไปตามนั้นสำหรับอนาคตของประเทศและทุกฝ่าย

รวมทั้งอนาคตของน.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วย ถ้าจะทำเหมือนนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตนว่าอย่ามาทำลายกระบวนการยุติธรรมอีกเลย เดี่ยวจะกลายเป็นฟางเส้นสุดท้าย อย่าทำให้ประชาชนรู้สึกมากและจับตาดูอยู่ อย่าคิดว่าประชาชนไม่พูด เขาจะไม่รู้สึก เขาไม่เจ็บปวด บ้านเมืองจะอยู่ได้ด้วยหลักนิติธรรมที่เข้มแข็งที่นายกฯพูดแต่ไม่ได้ทำ บ้านเมืองจะอยู่ได้ผิดก็ต้องผิด ถูกก็ต้องถูก ถ้าทำผิดเป็นถูกจะอยู่กันอย่างไร

เมื่อถามว่าเงื่อนไขการกลับประเทศไม่เหมือนของนายทักษิณ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ทุจริตก็ มาตรา 157 ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต ไม่ต่างฟ้ากับดิน
เมื่อถามว่าหากมีใครเอื้อให้กลับมาใครต้องรับผิดชอบ นายจุรินทร์ กล่าวว่า  รัฐบาลต้องรับผิดชอบ ตนไม่เคยไปวิจารณ์นอกเหนือจากรัฐบาล สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้ารัฐบาลไม่รู้เห็นเป็นใจ ทั้งหมดต้องนับหนึ่งที่รัฐบาลด้วย 

เมื่อถามว่าหลายฝ่ายมองว่ามีการตกลงกันไว้ก่อนแล้วที่สองพี่น้องจะกลับมา นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ตนมองปรากฎการณ์ทั้งหมดในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่รักความยุติธรรม เช่นเดียวกับคนจำนวนในประเทศไทยอยากเห็นผิดก็ต้องผิด ถูกก็ต้องถูก เพราะว่าเราเคยออกกฎหมายล้างพิษ สุดท้ายบ้านเมืองเสียหายยับเยินมาแล้วตอนกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย ถ้าทำให้ซ้ำรอยอีก นี่คือหัวใจสำคั

นายจุรินทร์  ยังถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ต้องให้พรรคก้าวไกลเป็นหลัก เพราะพรรคประชาธิปัตย์จะยื่นไม่ได้เสียงไม่พอ เราต้องให้เกียรติพรรคก้าวไกลด้วยในฐานะที่เป็นแกนนำฝ่ายค้านจะตัดสินใจรูปแบบใด

ส่วนมีข้อมูลเพียงพอที่จะอภิปรายหรือไม่ ตนไม่ขอพูดเพราะจะไปกดดันพรรคก้าวไกลโดยไม่จำเป็น แต่ที่จะตัดสินใจอภิปรายในมาตรา 151 หรือมาตรา 152 ก็สามารถทำได้

ส่วนที่รัฐบาลบอกว่ายังไม่ได้ใช้งบประมาณการทุจริตจะเกิดขึ้นไม่ได้ ไม่จำเป็น ถ้าคิดจะโกงไม่ต้องใช้งบประมาณก็โกงได้ แต่ทั้งหมดอยู่ที่การพิจารณาของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ก็ต้องให้เวลาในการตัดสินใจ 

"อยู่ที่มติพรรคร่วมฝ่ายค้านว่าจะอภิปรายมาตรา 151 หรือมาตรา 152 พรรคประชาธิปัตย์ก็มีหน้าที่ปฎิบัติตาม ผมก็ยินดีปฏิบัติ แต่ไม่ทิ้งที่จะตรวจสอบรัฐบาล ไม่ต้องห่วง และมีข้อมูลพอ"