‘ยิ่งลักษณ์’ ที่รัก ‘ภูมิธรรม’ เอาใจ อยากให้กลับไทย จี้ เร่งคืนบ้านที่ถูกยึด

‘ยิ่งลักษณ์’ ที่รัก ‘ภูมิธรรม’ เอาใจ อยากให้กลับไทย จี้ เร่งคืนบ้านที่ถูกยึด

“ภูมิธรรม” ยินดี “ยิ่งลักษณ์” หลุดคดีโรดโชว์ เผย ตอบแทนไม่ได้ จะกลับไทยหรืออยู่นอก เหตุ ลูกชาย ยังอยู่อังกฤษ ชี้ คดีจำนำข้าว ไม่ใช่ทุจริต แต่โดน ม.157 ให้กำลังใจ อยากให้กลับบ้าน รอต้อนรับเต็มที่ผู้เป็นที่รักของผม แจง เปรียบกับเคส “ทักษิณ” ไม่ได้ จี้ คืนบ้าน ให้ความเป็นธรรม

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยกฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีโรดโชว์ สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2022 วงเงิน 240 ล้านบาท และมีคำสั่งให้เพิกถอนหมายจับ ว่า ต้องขอแสดงความยินดีกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นี่เป็นผลของการทำงานที่มีความตั้งใจจริง ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์สู้คดีมาตลอด และสู้คดีจนสามารถพิสูจน์ให้เห็นได้ว่า ความจริงมันเป็นเรื่องของการออกไปเคลื่อนไหวทำนิทรรศการ เพื่อเรียกร้องให้คนเข้าใจและเผยแพร่นโยบายของรัฐบาลเพื่อในอนาคตปี 2020 การดำเนินการตรงนี้มีกระบวนการที่ถูกต้อง 

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ความตั้งใจของคนที่ตั้งคำถามเราก็ต้องไปเคลียร์ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา แต่ก็ต้องให้กำลังใจและให้โอกาสคนที่ทำงานด้วย ไม่เช่นนั้นถ้าไม่กล้าทำอะไรเลย ปัญหาจะไม่สามารถแก้ได้ แต่ถ้ากล้าทำงานก็อาจจะทำให้เจอปัญหาแบบนี้ ซึ่งผู้ที่ทำนโยบาย เราพยายามทำทุกอย่างให้รัดกุม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา 

นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราต้องกล้าคิด กล้าทำ ไม่อย่างนั้นปัญหาจะแก้ไม่ได้ ถ้ามัวแต่กลัวทั้งหมดปัญหาจะยิ่งสะสมมากขึ้น แต่เมื่อเราเริ่มทำงานและเริ่มมีข้อกล่าวหาหน้าที่เราคือ ต้องพิสูจน์ความจริง จึงอยากให้ประชาชนได้เข้าใจว่า เรื่องเหล่านี้ต้องดำเนินการให้เกิดความเข้าใจเพื่อไม่ให้ผู้ปฏิบัติงานเสียกำลังใจและขาดกำลังใจ ไม่เช่นนั้นประเทศจะมีปัญหา

เมื่อถามว่า คดี น.ส.ยิ่งลักษณ์เสร็จสิ้นแล้ว สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนตอบแทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้ว่า จะกลับมาประเทศไทยหรือจะยังอยู่ต่างประเทศต่อ เพราะลูกชายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังศึกษาอยู่ที่อังกฤษ ก็แล้วแต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่คิดว่า ปัญหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ เบาที่สุด เพราะเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องจำนำข้าว ซึ่งต้องรอการพิสูจน์อีกหลายอย่าง และไม่ใช่เรื่องที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทุจริต แต่เป็นเรื่องที่โดนกฎหมายอาญา ม.157 เรื่องนี้มันพูดยากว่ามันผิดแค่ไหน แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับการตัดสินบางส่วนจากศาลไปแล้วว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร ดังนั้น ต้องให้กำลังใจ เพราะถ้าเกิดแบบนี้ขึ้นเรื่อยๆ คนจะไม่มีกำลังใจทำงาน ความจริงที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำเพื่ออนาคตปี 2020 ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก เป็นการบอกให้คนไทยคิดไปให้ไกล เป็นการเอาสิ่งที่ตัวเองคิดไปให้ประชาชนได้รับรู้ โดยมีสื่อมาช่วย ถ้าการทำแบบนี้ ผิด ทีหลังคนก็ไม่กล้าทำอะไรเลย 

“ผมขอให้กำลังใจนายกฯยิ่งลักษณ์ และอยากให้กลับประเทศ ถ้ากลับมาได้ก็จะเป็นเรื่องดี เพราะแฟนคลับ ประชาชนที่เคยเห็นผลงานของท่าน ก็อยากให้กลับมาโดยเร็ว ผมเองก็รอต้อนรับท่านอย่างเต็มที่เหมือนกันในฐานะอดีตนายกฯ ซึ่งเป็นที่เคารพรักของทุกคน และเป็นที่รักของผมด้วย”นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามว่า ต้องเตรียมชี้แจงกับประชาชนอีกกลุ่มหนึ่ง ที่อาจมีข้อสงสัยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะได้กลับเข้าประเทศมาเหมือนกับกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ด้วย นายภูมิธรรม กล่าวว่า จะมาแบบไหนไม่มีใครทราบ เพราะมันเป็นเรื่องของคดี จะเอา น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาเปรียบเทียบกับกรณีนายทักษิณ ไม่ได้ มันคนละคดีกัน กรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลายคดีจบไปแล้ว ซึ่งจะจัดการอย่างไรก็ยังเป็นปัญหา คดีแพ่งจบไปแล้ว แต่บ้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกยึดไปแล้ว จะทำอย่างไรดี ดังนั้น ต้องเข้าใจประเด็นนี้ ต้องคืนความเป็นธรรมให้กับท่าน

เมื่อถามว่า การที่อดีตนายกฯทั้ง 2 คน กลับมาอยู่ในประเทศไทย จะส่งผลดีต่อสถานการณ์ทางการเมืองอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า มันไม่น่าจะเกี่ยวกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องของการคืนความเป็นธรรมให้คน ถ้าคนไม่ผิดเราจะมาตั้งเงื่อนไขทางการเมืองมันก็ไม่ถูก เพราะอยู่ดีๆ จะมาบอกห้ามอย่างนั้นอย่างนี้ มันเป็นสิทธิพลเมือง เรามีหน้าที่ เราสามารถอยู่ได้ในถิ่นฐาน เป็นคนละเรื่องกับการเมือง ที่ผ่านมามีการเรียกร้องให้พิสูจน์ ท่านก็พิสูจน์แล้ว เมื่อคดีจบ ไม่มีความผิดอะไร เป็นเรื่องของความเข้าใจผิด แล้วจะไม่ให้โอกาสท่านได้กลับประเทศ แล้วมาตั้งคำถามว่ากลับมาแล้วจะมีผลทางการเมืองได้อย่างไร มันไม่ใช่จุดเริ่มต้นที่ถูกต้อง ต้องเริ่มต้นที่ว่าท่านได้รับความยุติธรรมหรือไม่ ผิดจริงหรือไม่ เมื่อท่านไม่ผิด ไม่ได้รับความยุติธรรม ก็ต้องคืนความยุติธรรมให้กับท่าน แล้วยังจะมาตั้งคำถามแบบนี้อีกหรือ ตนว่าอคติมากไปหน่อยหรือไม่ ถ้าตั้งคำถามแบบนี้ตนว่าแย่เหมือนกัน แบบนี้คนคงจะอยู่ประเทศนี้ยากแล้ว