‘ลูกรัก’ชักธงรบ‘เจ้ากระทรวง’ ศึกคนกันเองสะเทือน พปชร.
ฝั่ง “เจ้ากระทรวง-สส.ในสังกัด” ไม่กลัว “สตรีลูกรัก” เพราะมองว่า “ลุงป้อม” ไม่หักหาญถึงขั้นแตกหัก เนื่องจากต้องการคงสถานะ “พลังประชารัฐ” ให้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลต่อไป
KEY POINTS :
- ศึกภายใน พรรคพลังประชารัฐ แค่พักรบ การวัดกำลังรอบใหม่รอวันปะทุ ยิ่งใกล้ช่วงปรับครม. แรงต่อรองทั่วทุกสารทิศจะกดดันไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค
- เมื่อ "เจ้ากระทรวง" พยายามรุกคืบล้ำแดนอีก "เจ้ากระทรวง" ตัวละครลับ "ลูกรักพลังหญิง" จึงต้องเคลื่อนเกมเร่งจังหวะรุกคืน
- บรรดา สส. ต่างกลุ่ม ต่างก๊วน อยู่ในที่ตั้ง มีเพียงเด็กในสังกัด "เจ้ากระทรวง" รุกหนักเปิดหน้าขอเคลียร์ พล.อ.ประวิตร
ศึกในพรรคพลังประชารัฐที่ดูเหมือนสงบ แต่ยังไม่จบ แค่คลื่นลมนิ่ง รอก่อตัวเป็นพายุซัดถล่มขุนพลพลังป้อม ที่ตั้งแง่ แย่งชิงเก้าอี้รัฐมนตรีมาครอง
ไทม์มิ่งปรับคณะรัฐมนตรี"เศรษฐา 2" ถูกมองว่า น่าจะอยู่ในช่วงปลายเดือน เม.ย.หรือต้นเดือน พ.ค. โดยรอให้ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการเสียก่อน
ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเริ่มเคลื่อนไหวคึกคัก แม้แต่“รัฐมนตรี”ที่อยู่ในตำแหน่ง ก็ไล่เช็คข่าว เพื่อการันตีเก้าอี้เสนาบดี เพราะมีสัญญาณ“ว่าที่รัฐมนตรี” แอบวางเกมเลื่อยขาเก้าอี้คนที่อยู่ในตำแหน่ง
โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ ยังมีบางกลุ่ม-บางก๊วน เปิดศึกรบกันเอง แม้ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคจะพยายามสมานฉันท์ ให้ลูกพรรคอยู่ร่วมกันอย่างสันติ แต่นับวันไฟลามทุ่งจนเริ่มเอาไม่อยู่
มีกระแสข่าวว่า ผู้กุมอำนาจ “เจ้ากระทรวง” ภายในพรรค ส่ง สส.ในสังกัดเกือบ 10 ชีวิต ขอคิวเข้าพบ “ลุงป้อม” เพื่อให้ช่วยผลักดัน สส.คนดังให้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรี ภายหลังได้รับคำยืนยัน “กฤษฎีกา”อย่างไม่เป็นทางการว่า คดีค้างเก่าไม่ขัดคุณสมบัติ
ทีม “เจ้ากระทรวง-สส.ในสังกัด” ยังเล่นแรง ขอให้ “ลุงป้อม” เปลี่ยนตัว “รัฐมนตรีว่าการ” เพื่อให้ง่ายต่อการประสานงาน เพราะสองกระทรวงในโควตาพรรค มีขอบข่ายการทำงานทับซ้อนกัน หากได้คนรู้ใจ การทำงานจะไร้รอยต่อ
ทว่า ท่าที “ลุงป้อม” ไม่ตอบรับข้อเสนอ แต่ก็ไม่ปฏิเสธข้อเสนอเช่นกัน พยายามยึดแนว บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น เพราะใจลึกๆ ของ “บิ๊กบราเธอร์” รักน้อง-รักลูกน้องทุกคน หากเดินเกมตามกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง มีโอกาสที่พรรคจะแตกเป็นเสี่ยง
ข่าวคราวเจ้ากระทรวง-สส.ในสังกัดยื่นข้อเสนอ “ลุงป้อม” ยิ่งเริ่มกระฉ่อนจากคนในไปยังคนนอก จนกลิ่นความขัดแย้งโชยออกนอกพรรค
ที่สำคัญกระแสข่าวนี้ รู้ถึงหู “สตรีลูกรัก” คนในครอบครัววงษ์สุวรรณ รอยร้าวทำท่าจะกลายเป็นจุดแตกหัก
“สตรีลูกรัก” ซึ่งเข้าไปมีบทบาทในกระทรวง ไม่พอใจความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองภายในพลังประชารัฐ เพราะบางกลุ่มมี สส. หนุนหลัง จึงคิดการใหญ่หวังจะฮุบพรรค
ฝั่ง “เจ้ากระทรวง-สส.ในสังกัด” ไม่กลัว “สตรีลูกรัก” เพราะมองว่า “ลุงป้อม” ไม่หักหาญถึงขั้นแตกหัก เนื่องจากต้องการคงสถานะ “พลังประชารัฐ” ให้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลต่อไป จึงมั่นใจเดินเกมชิงอำนาจกับ “ลูกหลานวงษ์สุวรรณ”
หลังจากนี้ จึงต้องจับตาอิทธิพลของ “สตรีลูกรัก” จะวางหมากรับมืออย่างไร โดยมีอาจจะมีบรรดา สส. ค่ายลุงป้อม คอยเป็นแบ็คอัพให้ เพราะมีหลายคนไม่พอใจบทบาทของเจ้ากระทรวง และหากออกมาขันอาสาช่วย “สตรีลูกรัก” ก็อาจจะมีหวังได้รับการตอบแทน
เมื่อเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนปรับครม. ความเคลื่อนไหวภายในพลังประชารัฐ อาจจะปรากฏร่องรอยความขัดแย้งให้เห็นแจ่มชัดมากขึ้น
แม้สภาพใน พปชร.ยังมีเรื่องแรงต่อรองของกลุ่ม-ก๊วนภายในพรรค และอำนาจของเจ้ากระทรวงจะยังอยู่ในช่วงเบ่งบาน แต่เมื่อมีรอยร้าวเกิดขึ้น โอกาสที่อำนาจจะอัสดงก็ย่อมมีเช่นกัน